กระบี่ – วันที่ 31 ม.ค. 62 จากกรณีนายธนธนันทร์ ธนิน์รัฐนัชชา อายุ 34 ปี ถูกรถชนเสียชีวิตบนถนนเพชรเกษม ช่วงกระบี่-อ่าวลึก หมู่ 2 บ้านในช่อง ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ ซึ่งต่อมาตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ พบผู้ตายพยายามวิ่งออกมาตัดหน้ารถ เพื่อให้รถชน ซึ่งเจ้าของรถที่ขับชนนายธนธนันทร์ คือ นางดารุณี หอมนาน อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่หาดคลองม่วง ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ไม่ได้หลบหนีไปไหน รอพบตำรวจในที่เกิดเหตุ โดยให้การว่าผู้ตายกระโดดออกมาให้รถชนขณะขับรถกลับจากไปซื้อของในตัวเมืองกระบี่ ทำให้ไม่สามารถเบรกรถได้ทัน เนื่องจากเป็นจังหวะกระชั้นชิด เหตุเกิดวันที่ 30 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปพบ น.ส.ชนิกานต์ หลังกูล พนักงานของร้าน เค เจ วัสดุก่อสร้าง เป็นร้านที่มีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุ ตนกำลังนั่งทำงานอยู่ภายในร้าน ซึ่งเป็นจุดที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจน ก่อนเกิดเหตุ เห็นคนตายขับรถ จยย.มาจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามนาน ประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งตอนแรกตนเข้าใจว่ารถของผู้ตายน่าจะเสีย จอดรอขอความช่วยเหลือ ซึ่งตลอดเวลาที่จอดอยู่ ผู้ตายก็จะเดินวนไปวนมาลักษณะคล้ายกระวนกระวาย ต่อมาก็เห็นผู้ตายวิ่งออกมาบนถนน ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจว่าตั้งใจจะวิ่งข้ามถนน หรือตั้งใจจะออกมาให้รถชนกันแน่ จนเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น
ด้านนางดารุณี เจ้าของรถเก๋ง MG คันเกิดเหตุ กล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 4 ต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นบ้านผู้เสียชีวิต โดยเข้าพบกับญาติๆ ของผู้เสียชีวิต เพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยญาติๆ ของผู้ตายยังคงอยู่ในอาการเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แต่พร้อมจะพูดคุยกับคู่กรณี ซึ่งจากการพูดคุยญาติๆ ของผู้ตายเอง เข้าใจว่าอุบัติเหตุที่เกิดเกินจะควบคุมได้ แต่ยังเชื่อว่าผู้ตายไม่น่าจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายไม่เคยมีความเครียด จึงมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดเป็นอุบัติเหตุ ส่วนคดีความจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้เป็นการทำงานของทางตำรวจ ส่วนศพของนายธนธนันทร์ ญาติๆ ได้ทำพิธีฝังตามหลักศาสนาอิสลามไปก่อนหน้านี้แล้ว
นางดารุณี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ตนขับรถกลับจากไปซื้อของในเมือง มาถึงที่เกิดเหตุ ก็พบผู้ตายยืนอยู่ข้างทาง ตอนนั้นไม่ได้สังเกตุว่าผู้ตายจะวิ่งออกมาหรือไม่ เพราะตนต้องมีสมาธิมองถนนขณะขับรถ เห็นอีกทีผู้ตายก็พุ่งออกมาตรงหน้ารถแล้ว ทำให้ตนหลบไม่ทันจริงๆ หลังชนตนก็เบรกรถทันที ทำให้เข็มขัดนิรภัย รัดเข้าที่ช่วงท้อง ซึ่งตนกำลังตั้งครรภ์ 7 เดือน หลังเกิดเหตุก็ไปตรวจกับหมอแล้วก็พบว่าลูกในท้องไม่ได้รับอันตราย แต่ก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนและสามีจะไม่นิ่งนอนใจเรื่องนี้ ขอแสดงความเสียใจกับญาติๆ ผู้เสียชีวิตด้วย ส่วนเรื่องคดีให้เป็นหน้าที่ของบริษัทประกัน ดำเนินการไป อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงคนอื่นๆ ที่มีปัญหาในชีวิต และคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย อยากให้คิดว่าชีวิตคนเรามีค่า อย่างใช้วิธีการฆ่าตัวตาย เพราะจะทำให้พ่อแม่ ญาติ พี่น้อง และคนข้างหลังต้องเดือดร้อนกันไปด้วย ชีวิตคนเรามีค่า
