เช็กปฏิทิน วันโอนเงิน 3 กลุ่มเปราะบาง เดือนมีนาคม 2568 เงินอุดหนุนบุตรเด็กแรกเกิด เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยผู้สูงอายุ ได้รับเงินวันไหน เช็กเกณฑ์ผู้มีสิทธิรับเงินที่นี่
เดินทางมาถึงเดือนที่สามของปี 2568 กระทรวงการคลังกำหนดวันโอนเงินให้กลุ่มเปราะบาง ประจำเดือนมีนาคม 2568 ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ปกครองที่มีบุตรแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ตรงกับวันจันทร์ที่ 10 มี.ค. 2568 ผู้มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ การรับสิทธิ รวมทั้งจำนวนเงินที่ได้รับ ตามรายละเอียดนี้
วันโอนเงินอุดหนุนบุตรเด็กแรกเกิด เดือนมีนาคม 2568
กรมกิจการเด็กและเยาวชน เตรียมโอนเงินอุดหนุนบุตรเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ให้กับผู้ปกครองที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี โดยบิดา มารดา หรือบุคคลที่เลี้ยงดูเด็กที่อาศัยอยู่กับเด็ก ต้องมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือเอกชน และผูกบัญชีรับเงินกับพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้ปกครองจะได้รับเงินอุดหนุนประจำเดือนมีนาคม ตรงกับวันจันทร์ที่ 10 มี.ค. 2568 จำนวน 600 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ส่วนเดือนอื่น ๆ ในปี 2568 กรมกิจการเด็กและเยาวชนจะดำเนินการโอนเงินให้ในวันใด สามารถตรวจสอบได้ตามปฏิทิน ดังนี้
ปฏิทินวันโอนเงินอุดหนุนบุตร ปี 2568
- วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568
- วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
- วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568
- วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568
- วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568
- วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568
- วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568
- วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568
- วันพุธที่ 10 กันยายน 2568
ในกรณีที่ผู้ปกครองประสงค์จะลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตรและมีคุณสมบัติตรงตามที่กรมกิจการเด็กและเยาวชนกำหนด สามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต และต้องต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
1. แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
2. แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
3. สูติบัตรเด็กแรกเกิด
4. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
5. ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือนทุกคน
6. สำเนาเอกสาร หรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อใช้แสดงตนของผู้รับรอง
7. ยื่นเอกสารลงทะเบียนที่สำนักงานเขต
8. ยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ‘ThaiD’
หลังจากลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วผู้ปกครองสามารถรับเงินผ่านแอปพลิเคชั่นเงินเด็ก โดยจะได้รับเงินตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนสำเร็จ
วันโอนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนมีนาคม 2568
กรมกิจการผู้สูงอายุ แจ้งวันโอนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนมีนาคม ตรงกับ วันจันทร์ที่ 10 มี.ค. 2568 โดยผู้สูงอายุจะได้รับเงินแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ
- ผู้สูงอายุ 60 – 69 ปี รับเงิน 600 บาท/เดือน
- ผู้สูงอายุ 70 – 79 ปี รับเงิน 700 บาท/เดือน
- ผู้สูงอายุ 80 – 89 ปี รับเงิน 800 บาท/เดือน
- ผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป รับเงิน 1,000 บาท/เดือน
หากผู้สูงอายุที่ต้องการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต้องลงทะเบียนเพื่อยื่นขอรับสิทธิ โดยเตรียมเอกสารเพื่อนำไปยื่นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามทะเบียนบ้าน พร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านนำมาแสดงในวันลงทะเบียน รวมทั้งมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 หรือผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2508 กรณีทราบเพียงปีเกิดให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น
2. มีสัญชาติไทย
3. มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาล หรือ อบต. ตามทะเบียนบ้าน
4. ไม่เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (ยกเว้นย้ายภูมิลำเนามาใหม่ สามารถลงทะเบียนใหม่ได้)
5. ไม่เป็นผู้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ เช่น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ
วันโอนเงินเบี้ยผู้พิการ เดือนมีนาคม 2568
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เตรียมวันโอนเบี้ยผู้พิการตามเกณฑ์อายุ โดยผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 800 บาท และผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน 1,000 บาท ในเดือนมีนาคมนี้ จะได้รับเงินเข้าบัญชีในวันจันทร์ที่ 10 มี.ค. 2568
ทั้งนี้ หากผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถกดเงินเพิ่มจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 200 บาทต่อเดือน รวมทั้งสิ้นจะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 1,000 บาท
ในกรณีที่ผู้พิการประสงค์จะลงทะเบียนรับเงินเบี้ยผู้พิการ ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ, มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน รวมทั้งไม่เป็นบุคคลที่อยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ และมีหลักฐานขอรับเงินเบี้ยความพิการ เตรียมเอกสารเพื่อลงทะเบียน ดังนี้
หากผู้พิการยังไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และต้องการยื่นขอรับเบี้ยความพิการ โดยต้องเตรียมเอกสาร
- บัตรประจำตัวคนพิการตัวจริง
- ทะเบียนบ้านตัวจริง
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร
หากต้องการรับเงินผ่านธนาคารสามารถนำไปยื่นคำร้องได้ที่ฝ่ายสังคมสงเคราะห์งานเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลศิริราช, ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัด ยื่นคำร้องได้ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด หรืออำเภอ ที่มีศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จในโรงพยาบาล, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศกำหนด
นอกจากจะได้รับเงินเบี้ยผู้พิการแล้ว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ประกาศข่าวดีว่า พม. ได้ร่วม MOU กสทช. ให้สิทธิคนพิการ 7 ประเภท จำนวน 1.1 ล้านสิทธิ ลงทะเบียนใช้เน็ตฟรี แบบไม่จำกัดปริมาณ ด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่ต่ำกว่า 20 Mbps เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2568
สำหรับคนพิการที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ได้ต้องมีบัตรประจำตัวคนพิการในฐานข้อมูลของ พก. กระทรวง พม. และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยครอบคลุมคนพิการที่มีสิทธิ 7 ประเภท ได้แก่
- พิการทางการเห็น
- พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย
- พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย
- พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม
- พิการทางสติปัญญา
- พิการทางการเรียนรู้
- พิการทางออทิสติก
โดยคนพิการสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิได้คนละ 1 สิทธิ และไม่สามารถโอนสิทธิให้บุคคลอื่นได้ ยกเว้น กรณีคนพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม คนพิการทางสติปัญญา คนพิการทางการเรียนรู้ และคนพิการทางออทิสติก ให้ผู้ดูแลทำบัตรคนพิการสามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิได้ อีกทั้ง สามารถเลือกใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เดิมหรือรับ ซิมการ์ดอินเตอร์เน็ตสำหรับเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหม่
หากคนพิการมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรับซิมการ์ดและการเปิดใช้บริการอินเตอร์เน็ต ขอให้ติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงาน กสทช. โทร. 1200 และ LINE ID: @netfree_infinite
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลุ้น เงินดิจิทัล เฟส 3 ใครได้เงินกลุ่มแรก แย้ม คนไม่มีมือถือ ลงทะเบียนช่วงไหน
- มีลุ้น ผู้สูงอายุผูกพร้อมเพย์ไม่ทัน 25 ก.พ. รับเงินดิจิทัล 10000 ได้ไหม
- คนมีมือถือ ลงทะเบียนเงินดิจิทัลไม่ทัน เนียนรับสิทธิ์กับกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ได้ไหม
ข่าวล่าสุด
