ข่าวการเมือง

สภาทนายความ จ่อยื่นหลักฐาน DSI คดีฮั้ว สว. ยันไม่มีใครกดดันกคพ.ได้

ณฐพร โตประยูร ยื่นหนังสือคดี ฮั้วเลือกตั้ง สว. แก่นายกสภาทนายความ ในฐานะ กคพ. เพื่อพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เผยมีหลักฐานส่อทุจริตชัดเจน

วันนี้ (24 ก.พ.) นายณฐพร โตประยูร และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินทางมายื่นหนังสือ เรื่อง คดีฮั้วการเลือกตั้ง สว. 67 กับนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในฐานะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อขอให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าการเลือกตั้งดังกล่าวอาจส่อทุจริตเข้าข่ายความผิดอั้งยี่ ฟอกเงิน ให้ได้มาซึ่งตำแหน่งโดยมิชอบหรือไม่

Advertisements

นายณฐพร กล่าวว่า ตนมีข้อมูลหลักฐานแบบเสียงและภาพในการกระทำผิด รวมถึงหลักฐานพยานบุคคล ตั้งแต่การนัดรวมตัว การเจรจา การโอนเงิน และความเชื่อมโยงถึงตัวบุคคลระดับใหญ่ในพรรคการเมือง พฤติการณ์มีขั้นตอนทำเป็นขบวนการ โดยมี

วันนี้ (24 ก.พ.) นายณฐพร โตประยูร และอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินทางมายื่นหนังสือ เรื่อง คดีฮั้วการเลือกตั้ง สว. 67 กับนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในฐานะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อขอให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าการเลือกตั้งดังกล่าวอาจส่อทุจริตเข้าข่ายความผิดอั้งยี่ ฟอกเงิน ให้ได้มาซึ่งตำแหน่งโดยมิชอบหรือไม่

นายณฐพร กล่าวว่า ตนมีข้อมูลหลักฐานแบบเสียงและภาพในการกระทำผิด รวมถึงหลักฐานพยานบุคคล ตั้งแต่การนัดรวมตัว การเจรจา การโอนเงิน และความเชื่อมโยงถึงตัวบุคคลระดับใหญ่ในพรรคการเมือง พฤติการณ์มีขั้นตอนทำเป็นขบวนการ โดยมีบุคคลที่มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ คอยอยู่เบื้องหลัง ทำหน้าที่วางแผนและเขียนโปรแกรมทั้งหมด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะขอเปิดชื่อในวันไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เกิน 10 ม.ค. นี้ และคาดว่าศาลฯ ใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 2-3 เดือน

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวตนเคยนำไปร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ปรากฏว่าร้องผิดมาตรา จึงมีการขอให้สภาทนายความขอความช่วยเหลือในเรื่องการทำความร้อง ตนเชื่อว่าองค์กรทนายความว่าเป็นศูนย์รวมนักกฎหมายของประเทศ ซึ่งตัวนายกสภาทนายความ ก็เป็นสมาชิก-กรรมการเกือบทุกหน่วยงาน เพื่อให้พิสูจน์ว่าการเลือกตั้ง สว. ที่ผ่านมา ไม่สุจริตยุติธรรมอย่างไร

สภาทนายความ จ่อยื่นหลักฐาน ฮั้ว สว.
ภาพจาก สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

อย่างไรก็ดี วัตถุประสงค์ของการยื่นหนังสือครั้งนี้คือต้องการให้การเลือกตั้ง สว.เป็นโมฆะ จากการพิจารณาโดยศาลรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ ดีเอสไอสืบสวนในคดีอาญา ขณะที่ กกต. พิจารณาเรื่องการเลือกตั้งโดยสุจริตยุติธรรม และอำนาจในการพิจารณาแยกออกจากกัน แต่หากดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษ ศาลรัฐธรรมนูญสามารถขอพยานหลักฐานที่ดีเอสไอรวบรวมมาพิจารณาได้เช่นกัน

Advertisements

ส่วนข้อสงสัยว่า กกต. จะมีส่วนในการกระทำผิดหรือไม่นั้น “ณฐพร” กล่าวว่า ตนยื่นฟ้องการทำหน้าที่ของ กกต. ชุดนี้ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางไปแล้ว

ภาพจาก สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

ขณะเดียวกัน “วิเชียร” กล่าวเสริมว่า แม้ตนจะเป็นหนึ่งใน กคพ. แต่ไม่ได้มีอำนาจเพียงลำพัง จำเป็นต้องนำเอกสารหลักฐานที่ผู้ร้องนำมายื่น ไปมอบให้ กคพ. พิจารณา ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรมอีกที พร้อมยืนยันว่าไม่มีบุคคลใดสามารถเข้ามาแทรกแซงการพิจารณาครั้งนี้ได้ เนื่องจากสภาทนายความเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนทุกคน

ส่วนข้อสงสัยเรื่องสมาชิกวุฒิสภาให้ข่าวว่า มีการกดดัน กคพ. หรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าไม่จริง เพราะไม่เคยได้รับสายจากใคร และที่สำคัญคือไม่ใครมากดดันตนได้อีกที

บุคคลที่มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ คอยอยู่เบื้องหลัง ทำหน้าที่วางแผนและเขียนโปรแกรมทั้งหมด ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะขอเปิดชื่อในวันไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เกิน 10 ม.ค. นี้ และคาดว่าศาลฯ ใช้เวลาพิจารณาไม่เกิน 2-3 เดือน

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวตนเคยนำไปร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ปรากฏว่าร้องผิดมาตรา จึงมีการขอให้สภาทนายความขอความช่วยเหลือในเรื่องการทำความร้อง ตนเชื่อว่าองค์กรทนายความว่าเป็นศูนย์รวมนักกฎหมายของประเทศ ซึ่งตัวนายกสภาทนายความ ก็เป็นสมาชิก-กรรมการเกือบทุกหน่วยงาน เพื่อให้พิสูจน์ว่าการเลือกตั้ง สว. ที่ผ่านมา ไม่สุจริตยุติธรรมอย่างไร

สภาทนายความ จ่อยื่นหลักฐาน ฮั้ว สว.
ภาพจาก สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

อย่างไรก็ดี วัตถุประสงค์ของการยื่นหนังสือครั้งนี้คือต้องการให้การเลือกตั้ง สว.เป็นโมฆะ จากการพิจารณาโดยศาลรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ ดีเอสไอสืบสวนในคดีอาญา ขณะที่ กกต. พิจารณาเรื่องการเลือกตั้งโดยสุจริตยุติธรรม และอำนาจในการพิจารณาแยกออกจากกัน แต่หากดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษ ศาลรัฐธรรมนูญสามารถขอพยานหลักฐานที่ดีเอสไอรวบรวมมาพิจารณาได้เช่นกัน

ส่วนข้อสงสัยว่า กกต. จะมีส่วนในการกระทำผิดหรือไม่นั้น “ณฐพร” กล่าวว่า ตนยื่นฟ้องการทำหน้าที่ของ กกต. ชุดนี้ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางไปแล้ว

ภาพจาก สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

ขณะเดียวกัน “วิเชียร” กล่าวเสริมว่า แม้ตนจะเป็นหนึ่งใน กคพ. แต่ไม่ได้มีอำนาจเพียงลำพัง จำเป็นต้องนำเอกสารหลักฐานที่ผู้ร้องนำมายื่น ไปมอบให้ กคพ. พิจารณา ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรมอีกทั พร้อมยืนยันว่าไม่มีบุคคลใดสามารถเข้ามาแทรกแซงการพิจารณาครั้งนี้ได้ เนื่องจากสภาทนายความเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนทุกคน

ส่วนข้อสงสัยเรื่องสมาชิกวุฒิสภาให้ข่าวว่า มีการกดดัน กคพ. หรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าไม่จริง เพราะไม่เคยได้รับสายจากใคร และที่สำคัญคือไม่มีใครกดดันตนได้

ภาพจาก สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

yo

นักเขียนข่าว บทความทั่วไปประเภทไลฟ์สไตล์ สำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา มศก. ติดต่อได้ที่อีเมล yo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button