งามไส้ ทุนจีน ซุ่มเก็บสารอันตราย โกดังอยุธยา กรอ.ลุยเอาผิดฟ้าผ่า

yoเผยแพร่: 24 ก.พ. 2568 15:05 น.| อัปเดต: 24 ก.พ. 2568 15:05 น.

เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม อึ้ง พบทุนจีน ซุ่มเก็บสารเคมีอันตรายในโกดังอยุธยา ป้ายบรรจุภัณฑ์ระบุว่าเป็นของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัด

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารโกดัง ในพื้นที่ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากได้รับแจ้งจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ว่า มีการลักลอบเก็บสารเคมีหลายชนิดที่คาดว่าอาจเป็นวัตถุอันตรายในความรับผิดชอบของกรมโรงงานอุตสาหกรรม

Advertisements

ผลการตรวจสอบพบว่า อาคารโกดังมีชื่อชาวจีนตกลงทำสัญญาเช่า ระยะเวลา 1 ปี (1 พ.ย. 67 – 31 ต.ค. 68) โดยภายในตัวอาคารพบบรรจุภัณฑ์ที่ใส่บรรจุสารเคมีหลายชนิด พร้อมติดป้ายว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมพบร่องรอยการล้างถังภาชนะบรรจุสารเคมีด้วยน้ำเปล่า

นอกจากนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการทดสอบวัดค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ภายในแกลลอนบรรจุสารเคมีนั้น พบว่ามีค่าเท่ากับ 1 จึงอาจเข้าข่ายมีคุณลักษณะเป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 ตามบัญชี 5.2 ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 โดยมีรายชื่อสารเคมีที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวตามนี้

กรดไฮโดรคลอริก (hydrochloric acid) บรรจุแกลลอน ขนาด 25 ลิตร จำนวน 104 แกลลอน
ไทโอยูเรีย (thiourea) บรรจุกระสอบ ขนาด 25 กิโลกรัม จำนวน 19 กระสอบ
โซเดียมไฮดรอกไซด์ (sodium hydroxide) บรรจุแกลลอน ขนาด 25 ลิตร จำนวน 3 แกลลอน
Sulfuric acid บรรจุแกลลอน ขนาด 25 ลิตร จำนวน 22 แกลลอน
Hydrochloric acid บรรจุถัง IBC ขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 4 ถัง (ไม่ทราบความเข้มข้น)
Sulfuric acid บรรจุถัง IBC ขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 3 ถัง
Citric acid monohydrate บรรจุกระสอบ ขนาด 25 กิโลกรัม จำนวน 16 กระสอบ
แกลลอน 25 ลิตร บรรจุของเหลวไม่ติดฉลาก จำนวน 117 แกลลอน

ทุนจีน ซุกสารเคมีอันตราย — ภาพจาก กรมโรงงานอุตสาหกรรม

นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดี กรอ. ผู้มอบหมายการตรวจสอบ ระบุว่า อาคารโกดังข้างต้น ไม่มีหลักฐานที่แสดงถึงการอนุญาตให้ครอบครองวัตถุอันตราย พนักงานเจ้าหน้าที่จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 54 (3) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ดำเนินการยึดอายัดวัสดุ สิ่งของ และอื่น ๆ โดยตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้สุ่มเก็บตัวอย่างสารเคมีเพื่อส่งมอบให้ตรวจสอบโดยละเอียดเพิ่มเติม

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำข้อมูลเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ณ สถานีตำรวจภูธรอุทัย ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง อันมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งข้อหาอื่นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง