สลด ชายชั่ว 60 คน ข่มขืน ด.ญ.อินเดีย 13 ขวบ นาน 5 ปี แต่ไม่ถูกตั้งข้อหา

สะเทือนใจในทุกรายละเอียด เกิดคดีเด็กหญิงถูกข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 13 ปี นานกว่า 5 ปี รวบผู้ก่อเหตุได้แล้ว 60 คน แต่ยังไม่มีการตั้งข้อหา
กลายเป็นเรื่องราวที่น่าสลดและสุดสะเทือนใจ เมื่อเด็กหญิงคนหนึ่งที่อยู่ในวรรณะจัณฑาล ถูกล่วงละเมิดทางเพศมานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่ตอนที่เธออายุ 13 ปี โดยที่มีผู้ก่อเหตุมากถึง 60 คน
ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน เด็กหญิงวัย 13 ปีรายนี้ ที่เป็นลูกสาวของคนงานรับจ้าง ถูกเพื่อนบ้านในหมู่บ้านที่เธออาศัยอยู่ล่วงละเมิดทางเพศ และได้มีการถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ขณะที่ทางตำรวจกำลังอยู่ในกระบวนการสืบสวนว่าเขาใช้ภาพดังกล่าวเพื่อแบล็คเมล์และบังคับเธอให้ถูกข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศโดยผู้ชายทั้งเด็กและผู้ใหญ่อีกหลายสิบคนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาหรือไม่
ตำรวจได้เปิดเผยว่า ข้อกล่าวหานี้เพิ่งถูกเปิดเผยหลังจากที่เด็กสาวคนดังกล่าวที่ในตอนนี้มีอายุ 18 ปี เข้ามาพูดคุยกับที่ปรึกษาที่ไปเยี่ยมวิทยาลัยของเธอในรัฐเกรละ โดยเธอได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดที่เธอถูกกระทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันมีการจับกุมชายทั้งผู้ใหญ่และเด็กได้แล้ว 58 ราย ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน และข่มขืนหมู่เด็กหญิงคนดังกล่าว ขณะที่ชายอีก 2 คนนั้นมีข้อมูลว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
ที่ยิ่งสะเทือนใจกว่านั้น เพราะในเหล่าผู้ต้องสงสัยเหล่านี้มีทั้งเพื่อนร่วมชั้นเรียน, ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านของเธอ แถมยังมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่จนถึงอายุราวๆ 40 ปี อีกทั้งยังไม่มีการตั้งข้อหากับเหล่าชายโฉดเหล่านี้ทั้ง 58 เลยแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ไม่เคยถูกพูดถึงในประเทศอินเดีย นั่นเป็นเพราะเด็กหญิงรายนี้ที่เป็นเหยื่ออยู่ในวรรณะ “จันฑาล (Dalit)” ซึ่งเป็นวรรณะที่ต่ำที่สุดของสังคม ทำให้ไม่มีใครเกิดความเคียดแค้น หรือมีการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเธอ เหมือนกับเคสการข่มขืนและฆาตกรรมแพทย์ฝึกหัดในเมืองโกลกาตา เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน
อ้างอิงข้อมูลจากคัมภีร์ฮินดูระบุว่า จันฑาล จะต้องทำอาชีพที่ถูกมองว่าเป็นพิธีกรรมที่ไม่สะอาด เช่น การเก็บขยะและการกวาดถนน โดยพวกเขาถูกห้ามไม่ให้เข้าวัดและถูกบังคับให้ใช้ชีวิตอยู่ห่างจากชุมชนที่มีวรรณะที่สูงกว่า นั่นทำให้ชุมชนจันฑาลมักจะมีสภาพที่เสื่อมโทรมและห่างไกลจากการเข้าถึงบริการทางสังคมอื่นๆ
แม้ว่าปัจจุบีนจะมีตีกฎหมาย ห้ามเลือกการปฏิบัติโดยพิจารณาจากวรรณะ แต่ก็มีนักเคลื่อนไหวกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวทำให้จันฑาลที่มีมากถึง 260 ล้านคนในอินเดีย เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดและไม่สามารถเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพวกเขาได้
ซินเทีย สตีเฟ่น นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและนักวิจัยนโยบายสังคมจันฑาล ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า “โดยทั่วไป เมื่อเหยื่อเป็นผู้หญิงจันฑาล ความโกรธแค้นจะน้อยกว่า และจะมีการมองว่า ‘ก็เด็กสาวคนนี้ไม่ใช่คนของเรานิ'”
ส่วนทางด้าน อจีธา เบกุม รองผู้บัญชาการตำรวจรัฐเกรละ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ผู้ล่วงละเมิดอย่างน้อย 3 คนสัญญาว่าจะแต่งงานกับเหยื่อ แต่หนึ่งในนั้นขู่ว่าจะฆ่าเธอ หากเธอตัดสินใจไปแจ้งความ พร้อมบอกว่า ชายบางคนลงมือเพียงลำพัง แต่บางคนถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหมู่ แลไม่ใช่ว่าทุกคดีจะเชื่อมโยงกัน แต่ในเคสหนึ่งอาจมีผู้ต้องหา 4-5 คน
ตำรวจยังบอกอีกว่า ผู้ชายหลายคนติดต่อเด็กสาวทางโทรศัพท์ของพ่อเหยื่อผ่านทางโซเชียลมีเดีย หลังจากที่พ่อของเธอเข้านอน
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า การล่วงละเมิดสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในพื้นที่ส่วนตัวและสาธารณะ ในบ้านและรถยนต์ ป้ายรถเมย์ และทุ่งนา แถมบางเคสเกี่ยวพันกับคนแปลกหน้าที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร
ตำรวจกล่าวว่า บางเคสอาจมีการกล่าวหาว่าเป้นการค้ามนุษย์ เพราะชายเหล่านั้นบังคับให้เด็กสาวเดินทางออกจากหมู่บ้าน ขณะที่พ่อแม่ของเด็กสาวจะต้องทำงานหนักหลายชั่วโมง และแน่นอนว่าพวกเขาไม่เคยรู้เรื่องที่ลุกสาวของตนถูกล่วงละเมิดเลย
สิ่งที่สะเทือนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อคดีถูกเปิดเผย ผู้หญิงบางคนในชุมชนกลับไปเห็นใจผู้ต้องหาและโกรธเคืองเหยื่อ พร้อมกับวิจารณ์เสื้อผ้าและวิธีชีวิตของเด็กสาว พร้อมกับตำหนิแม่ของเหยื่อที่ที่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด
แม่ของหนึ่งในผู้ต้องสงสัยได้บอกว่าลูกชายของเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ เธอบอกอีกว่าลูกชายรู้จักเด็กสาวมาตั้งแต่เธอยังเป็นทารกและเลี้ยงดูเด็กสาวในอ้อมแขนของเขา
รองผู้บัญชาการตำรวจรัฐเกรละ ได้เผยว่าในตอนนี้ เด็กสาวคนดังกล่าวอยู่ในสถานพักพิง โดยเธอจะได้รับคำปรึกษาและการสนับสนุนในด้านต่างๆ ขณะที่แม่ของเด็กหญิงยังได้รับคำปรึกษา และมีทางเลือกที่จะอยู่ในสถานพักพิงสตรี หากว่าเธอรู้สึกไม่ปลอดถัยในละแวกนั้น ซึ่งทาง เบกุม กล่าวว่า ตำรวจได้ทุ่มเทกำลังสูงสุดสำหรับคดีนี้
แต่อีกหนึ่งสิ่งที่น่ากังวลนั่นก็คือ คดีนี้อาจจะใช้เวลาหลายปีในการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีใน อีกทั้งคดีข่มขืนยังมีอัตราการตัดสินโทษอาชญากรรมร้ายแรงต่ำที่สุดคดีหนึ่ง อ้างอิงจากปี 2022 มีการลงโทษคดีข่มขืนเพียงแค่ 27 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
อ้างอิง : CNN
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สยอง นกคาบมือขาด ทิ้งไว้กลางโรงเรียนไอร์แลนด์ ตำรวจหาคำตอบมือใคร?
- นักสู้ MMA ‘กิลเฮอร์เม’ เสียกะทันหัน เพียง 38 ปี รู้สาเหตุยิ่งเศร้า
- อีลอน มักส์ อ่วม ชาวแคนาดากว่า 9 หมื่นคน ลงชื่อให้ถอนสัญชาติ