หนุ่มเผาลูกเปตอง หวังทำความสะอาด สุดท้ายระเบิดสนั่น กระเด็นทะลุหลังคาห้องนอนเพื่อนบ้าน โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต เจรจาค่าเสียหายลงตัว
วานนี้ (23 ก.พ.) ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย กิ่งทอง เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุวัตถุคล้ายเศษโลหะตกใส่หลังคาบ้านทะลุจนได้รับความเสียหายในพื้นที่ ม.3 ต.หนองลาน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นผู้เสียหายถ่ายรูปส่งมาให้ดูและพบว่าไม่ใช่ลูกปืน เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบกับนายสันภาพ กลั่นดี ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนรีบลงพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งทันที
ที่เกิดเหตุพบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นเปลือกของลูกเปตองครึ่งซีก ไม่มีกลิ่นปืน จึงใช้ผ้าสัมผัสดูและพบว่ายังอุ่น ๆ อยู่ จึงตั้งข้อสงสัยว่าเกิดเหตุระเบิดได้อย่างไร และตกมาจากไหน เจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านจึงไปสอบถามชาวบ้านถึงเบาะแสและที่มาของวัตถุดังกล่าว
ภายหลังทราบจากชาวบ้านในละแวกว่า ได้ยินเสียงระเบิดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปที่บ้านต้นตอดังกล่าว ก่อนสอบถามหนุ่มเจ้าของบ้าน จึงทราบว่าเจ้าตัวนำลูกเปตองเก่าที่สนิมขึ้นจำนวน 3 ลูกมาเผาไฟเตาถ่านเพื่อทำความสะอาด ทว่าจังหวะที่เจ้าของเดินออกไปดูลูกที่หน้าบ้านนั้น จู่ ๆ ลูกเปตองก็เกิดระเบิดขึ้นมา และพอเดินกลับเข้าไปดูก็พบว่าเตาถ่านที่ใช้เผาแตกกระจัดกระจายไปแล้ว
ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ภายในลูกเปตองจะมีวัสดุคล้ายทรายที่เรียกว่า Mortar บรรจุอยู่ ซึ่งบางรุ่นอาจมีการอัดก๊าซไฮโดรเจนไว้ภายใน ทำให้เมื่อนำไปเผาไฟ ตัวก๊าซและอากาศภายในจะขยายตัวและเกิดระเบิดอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงขอฝากไปถึงพี่น้องประชาชนว่าอย่านำลูกเปตองหรือวัตถุที่มีลักษณะเช่นนี้ไปเผาไฟ
หากมีคนอยู่ในละแวกนั้นอาจได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียถึงชีวิตได้ ถ้าไม่มีความรู้ ควรใช้วิธีอื่นที่หลีกเลี่ยงการเผา โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย เบื้องต้นได้เรียกผู้เสียหายมาพูดคุยกับผู้ที่เผาลูกเปตอง และตกลงค่าเสียหายกันเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดี เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเคสลูกเปตองระเบิดในปี 2009 ที่มีผู้เสียชีวิตเอาไว้ว่า “หลังการระเบิดในปี 2009 ทาง Swiss Federal Laboratory for Materials Science and Technology (EMPA) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุและได้สรุปผลดังนี้
ลูกเปตองเป็นลูกบอลทำด้วยโลหะ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 70-80 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 650-800 กรัม โดยจะมีเปลือกเป็นโลหะสองซีกประกบกันเรียกว่า shell และบรรจุช่องว่างข้างในด้วยวัสดุคล้ายทรายเรียกว่า motar และเชื่อมโลหะปิดสนิทเพื่อป้องกันน้ำเข้า น้ำหนักรวมของลูกเปตองปรับได้ด้วยความหนาของเปลือกโลหะ
ทาง EMPA ได้ตรวจสอบพบว่าลูกเปตองจำนวนมากมีกาซไฮโดรเจนอยู่ข้างใน โดยบางลูกอาจมีกาซอยู่มากถึง 1 ลิตร สาเหตุที่เกิดกาซพบว่ามาจากฝุ่นละอองโลหะในทรายทำปฏิกิริยากับความชื้นเล็กน้อยภายใต้สภาพที่ไม่มีออกซิเจน ทำให้เกิดกาซไฮโดรเจนขึ้น และเนื่องจากลูกเปตองถูกเชื่อมปิดสนิท กาซที่เกิดขึ้นจึงสะสมอยู่ข้างในและทำให้ลูกเปตองกลายเป็นภาชนะเก็บความดัน ซึ่งมีโอกาสที่จะระเบิดได้ถ้าความดันข้างในสะสมจนมากกว่าความแข็งแรงของเปลือกโลหะ
โดยสรุปคือลูกเปตองที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน อาจะมีกาซไฮโดรเจนความดันสูงสะสมอยู่ข้างใน และเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่สามารถจะระเบิดได้ด้วยตัวเอง การระเบิดของลูกเปตองอาจมีมากกว่านี้ แต่อาจไม่ได้ถูกรายงาน กรณีของไทยเป็นการระเบิดของลูกเปตองครั้งที่สามที่ถูกรายงานเป็นข่าว และเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิต”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก FB : Drama-addict
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ปกครองร้องสื่อ ครูลงโทษเด็ก ป.5 โยนเปตองไม่เข้า สั่งลุกนั่งจนเดินแทบไม่ได้
- ระทึก! พาวเวอร์แบงก์ระเบิดใส่หน้า สาวออฟฟิศหวิดดับ ย้อนเล่าวินาทีไฟลุกติดผม-หน้า
- ด่วน! ระเบิดสนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่ไหว้พระ
ข่าวล่าสุด
