ยุน ซอก-ยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ปรากฏตัวในศาลกรุงโซลเมื่อวันพฤหัสบดี (20 ก.พ.) เพื่อรับการไต่สวนคดีครั้งแรกในข้อหากบฏ ซึ่งเป็นการดำเนินคดีอาญาครั้งแรกกับผู้นำที่ดำรงตำแหน่งในประเทศ
จากกรณีที่เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา อัยการได้สั่งฟ้องนายยุน ซอก-ยอล อดีตประธานาธิบดีแดนโสมขาว หลังจากมีการกล่าวหาว่า เจ้าตัวเป็นตัวการก่อความไม่สงบด้วยการประกาศกฎอัยการศึกในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 25657
รายงานจากรอยเตอร์สระบุ ขบวนรถของกระทรวงยุติธรรมได้นำตัวนายยุนจากศูนย์กักกันกรุงโซล ซึ่งเป็นที่ถูกคุมขังไปยังศาล ท่ามกลางรถตำรวจจอดเรียงรายเพื่อรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้อัยการเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยพิจารณาถึงความร้ายแรงของคดี แต่ทนายความของยุน กล่าวว่า พวกเขาต้องการเวลามากขึ้นเพื่อตรวจสอบบันทึก
“นายยุน ไม่มีเจตนาที่จะทำให้ประเทศเป็นอัมพาต” หนึ่งในทนายความกล่าวต่อศาล โดยเสริมว่าการประกาศกฎอัยการศึกของอดีตประธานาธิบปีมุ่งเป้าไปที่การบอกให้ประชาชนทราบถึงเผด็จการทางกฎหมายของพรรคฝ่ายค้านขนาดใหญ่ และหากถูกตัดสินว่ามีความผิด นายยุนอาจต้องโทษจำคุกหลายปีเกี่ยวกับกรณีพระราชกฤษฎีกากฎอัยการศึกดังกล่าว ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้กับประเทศและพยายามที่จะสั่งห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา ตลอดจนความพยายามที่จะควบคุมสื่อ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของเอเชียและพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีก็ถูกฟ้องร้องและระงับอำนาจ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงถูกตั้งข้อหาในส่วนของพวกเขาในเรื่องนี้
ศาลยังได้พิจารณาคำร้องของทนายความของยุนให้ยกเลิกการควบคุมตัวเขา โดยกล่าวว่าเรื่องนี้ได้รับการสอบสวนในลักษณะที่ผิดกฎหมาย และไม่มีความเสี่ยงที่ยุนจะพยายามทำลายหลักฐาน
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าศาลจะมีคำตัดสินเกี่ยวกับการควบคุมตัวเมื่อใด แต่ผู้พิพากษาได้กำหนดการไต่สวนคดีอาญาครั้งถัดไปในวันที่ 24 มีนาคม
หลังจากคดีอาญา ยุนยังได้เข้าร่วมการพิจารณาคดีถอดถอนคู่ขนานโดยศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ซึ่งเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว พยานที่ให้การต่อศาลรวมถึงนายกรัฐมนตรี ฮัน ด็อก-ซู ซึ่งถูกฟ้องร้องและรอคำตัดสินของศาลเกี่ยวกับชะตากรรมของเขาเช่นกัน
“ผมรู้สึกหนักใจอย่างมากกับความสิ้นหวังที่ประชาชนของเราแต่ละคนรู้สึก เนื่องจากการเมืองสุดขั้วที่เกิดขึ้นก่อน-ระหว่าง และหลังกฎอัยการศึกฉุกเฉิน” นายฮัน ระบุ
“ขั้นตอนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกฎอัยการศึกฉุกเฉินจะต้องดำเนินการอย่างยุติธรรมและสมเหตุสมผล … เพื่อที่จะไม่มีประกายไฟแห่งความแตกแยกในชาติอีกต่อไป”
ศาลรัฐธรรมนูญกำลังตรวจสอบการถอดถอนยุนโดยรัฐสภาเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา และจะตัดสินว่าจะถอดนายยุนออกจากตำแหน่งอย่างถาวรหรือ “คืนตำแหน่งให้!”
นายยุน ซอก-ยอล อายุ 64 ปี และทนายความของเขาโต้แย้งว่า ไม่มีเจตนาที่จะบังคับใช้กฎอัยการศึกอย่างเต็มกำลัง แต่มีความหมายเพียงมาตรการดังกล่าวเป็น “คำเตือน” เพื่อทำลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น
ทั้งนี้ หากนายยุนถูกถอดถอนจะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ ภายใน 60 วัน.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ประวัติ ยุน ซอกยอล ปธน.เกาหลีใต้ คนแรกในประวัติศาสตร์ ถูกจับขณะดำรงตำแหน่ง
- ยุน ซอกยอล ปธน.เกาหลีใต้ โดนตั้งข้อหากบฏ โทษหนักถึงประหารชีวิต
- ยุน ซอกยอล ปธน.เกาหลีใต้ โดนจับแล้ว อ้างเลี่ยงการนองเลือด
ข่าวล่าสุด
