ข่าวการเมือง

ไอติม ถามแก้รัฐธรรมนูญ สงสัยพรรคร่วมฯ-สว. กังวลหรือไม่อยากแก้ จี้ไปตกลงอะไรกัน

ไอติม พริษฐ์ ตั้งกระทู้ถามแก้รัฐธรรมนูญ สงสัย “พรรคร่วมฯ-สว.” แค่กังวลข้อกฎหมายหรือไม่อยากแก้ จี้ ไปตกลงอะไรกัน ทำ “ภูมิใจไทย” กลับลำเห็นด้วยกฎหมาย “กาสิโน”

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (20 ก.พ.) ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจากับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องแนวทางการแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างต่อนโยบายรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นผู้ตอบแทน

Advertisements

นายพริษฐ์ กล่าวว่ามี 2 นโยบาย ที่เป็นที่คาดหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินการสุดความสามารถ แต่กลับเหมือนมีความเห็นต่างของพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายแรกเป็นนโยบายเร่งจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แม้รัฐบาลทราบเรื่องการพิจารณาการจัดทำรัฐธรรมนูญในสภามาตั้งแต่สิ้นปี แต่กลับไม่ได้มีความพยายามมากพอในการผลักดัน จะเสนอร่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาก็ไม่มี แม้แต่พูดคุยในที่ประชุม ครม.ก็ไม่มี แล้วพอถึงคิวที่ต้องพิจารณาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สส.รัฐบาลก็พยายามร่วมมือกันทำให้การประชุมดังกล่าวล่มลงไป พรรคต้นสังกัดของนายกรัฐมนตรี พยามยามหาคำตอบให้กับสังคมว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาลและ สว.กังวลข้อกฎหมาย อาจขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ต้องส่งศาลให้วินิจฉัย พร้อมถามรัฐบาลให้ยืนยันว่าเหตุผลที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลและสว. ยังไม่พร้อมสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ เป็นเพราะข้อกังวลทางกฎหมาย ไม่ใช่เพราะจุดยืนทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ลึกๆ แล้ว ไม่ได้อยากแก้รัฐธรรมนูญ

“ไอติม” ตั้งกระทู้ถามแก้รัฐธรรมนูญ สงสัย “พรรคร่วมฯ-สว.” แค่กังวลข้อกฎหมายหรือไม่อยากแก้
แฟ้มภาพ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในคำถามหลักนี้มีข้อสอบสงสัยย่อย 3 ประการ คือ 1.หากสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาล และ สว.ต้องการ เพื่อเดินหน้าต่อคือความชัดเจนทางศาลรัฐธรรมนูญ เหตุใด พรรคภูมิใจไทยและ สว.กลับไม่มาลงมติสนับสนุนให้เร่งส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ 2. อะไรจะเป็นหลักประกัน แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้คำตอบกลับมาว่าสามารถเดินหน้าต่อได้ สว. จะไม่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเหตุผลอื่น 3. แม้ว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะออกมาสัมภาษณ์ เมื่อ 2 วันที่แล้ว แต่ ณ เวลานี้ เราต้องตั้งคำถามของตัวเองว่าคำพูดของใครบ้างที่สามารถเชื่อถือได้ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเห็นว่าหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกับนายกรัฐมนตรีก็พูดไม่ตรงกันต่อหน้าประชาชน โดยนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าคุยกับพรรคร่วมเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยบระบุนายกฯยังไม่เคยคุย จึงสงสัยคำพูดใครน่าเชื่อถือ

ทำให้นายประเสริฐ ชี้แจงว่า เรื่องนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน จน มาถึงรัฐบาลนางสาวแพทองธาร โดยเสนอร่างกฎหมายจนประธานรัฐสภาบรรจุเข้าในวาระ ซึ่งมีฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลยังมีเจตนารมย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่

“ท่านก็ทราบดีว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้มีการเสนอญัตติเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในการเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่สมาชิกสงสัยเสียก่อน เพื่อป้องกันว่าเรามีเจตนาอันบริสุทธิ์ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าปล่อยให้มีการโหวต ก็จะไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ ผมยืนยันว่าในพรรคร่วมรัฐบาลกันเองไม่มีความขัดแย้งในเรื่องนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่อาจจะมีความเห็นต่างกันบ้างในเรื่องกระบวนการเท่านั้น เรามีจุดหมายปลายทางเดียวกัน การมีความเห็นแตกต่างกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมคิดว่าเป็นความงดงามของระบอบประชาธิปไตย” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดีอี
ภาพจาก : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ย้ำว่านายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็เป็นการให้สัมภาษณ์ของหันหน้าพรรคภูมิใจไทย ตนเชื่อว่าถ้าสมาชิกคลายข้อสงสัย ก็พร้อมโหวต คิดว่าไม่มีใครขวาง

Advertisements

จากนั้นนายพริษฐ์โต้กรณีที่บอกว่าไม่มีความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล คงไม่ใช่ เพราะสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้เร่งส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยไม่มาร่วมสนับสนุนญัตติดังกล่าว เพราะฉะนั้น ความขัดแย้งก็เป็นที่ประจักษ์ แต่ที่สงสัยคือนายกรัฐมนตรีได้พยายามคลี่คลายความขัดแย้งก่อนหน้านั้นแล้วหรือไม่

จากนั้น นายพริษฐ์ ถามถึงนโยบายเอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์ ความพยายามของพรรคเพื่อไทยเริ่มต้นอย่างจริงจัง หลังจากที่สภามีมติรับทราบรายงานผลการศึกษาร่างกฎหมายดังกล่าว ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่าไม่เห็นด้วยกับร่างกฏหมายกาสิโน แต่เวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกลับให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้มีปัญหา ซึ่งตนเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยกังวล 4 ข้อ ที่ไม่ได้รับการแก้ไข พร้อมถามว่ารัฐบาลทำอะไรถึงไปโน้มน้าวพรรคภูมิใจไทยได้ ไม่ได้ตกลงหลังห้อง ว่าจะตั้งจังหวัดไหนแล้วหรือไม่ ไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยนกันระหว่างการทำกาสิโนบนดินและออนไลน์ ไม่ได้เอาเรื่องกัญชามาแลก

ช่วงหนึ่งของการตั้งคำถาม นายวันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวเตือนขออย่ากล่าวพาดพิงพรรคอื่นโดยไม่จำเป็น ขอให้ฝ่ากไปยังรัฐบาล เพราะจะเกิดการประท้วงขึ้น เนื่องจากเป็นการอภิปรายรัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมือง ทำให้นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ลุกประท้วงว่าอดทนตั้งแต่คำถามแรกแล้ว ไม่อยากขัดจังหวะพอรู้ว่านายพริษฐ์ตั้งใจที่จะหาคำตอบ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสภา แต่อยากฝากว่าไม่จำเป็นจริงๆ คำพูดต่างๆ ที่บอกว่ามีความขัดแย้งจากพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เดี๋ยวจะกลายเป็นพรรคภูมิใจไทยเราไม่ได้เห็นด้วยกับการแก้ไข

แต่นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ลุกท้วงประธาน ให้ควบคุมดูแลการประชุม พร้อมกล่าวว่า การเอ่ยชื่อพรรคการเมืองโดยที่ยังไม่ได้อะไรเสียหาย ไม่แน่ใจว่าผิดข้อบังคับข้อไหน ในสภามีความแตกต่างหลากหลายทางประชาธิปไตย

ต่อมา นายประเสริฐชี้แจงว่าการที่พยายามทำให้รัฐบาลเกิดความแตกแยก เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะรัฐบาลต้องรับฟังความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล และการทำนโยบายดังกล่าวมีพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยตอนแรกและภายหลังต่อมาไม่มีปัญหา เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองพูดคุยในรายละเอียดของข้อที่ไม่เข้าใจ เมื่อพูดคุยได้เข้าใจและเห็นด้วย ไร้ข้อสงสัย ดังนั้นร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เมื่อเข้าสภาฯแล้ว สส.สามารถแสดงความเห็นได้ตั้งแต่วาระรับหลักการและวาระสาม รวมถึงยังมีชั้น สว. ซึ่งการตรากฎหมายก็มีกระบวนการ เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาต้องการร่างกฎหมายออกมาให้ดีที่สุด ส่วนที่มีการทักท้วงรายละเอียดของกฎหมาย ก็มีอีกหลายขั้นตอนที่สมาชิกต้องแสดงความเห็น เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ส่วนการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลของนายกฯ นั้น เพราะนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องคุยกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลต่างๆ ทั้งใน ครม. และที่ต่างๆ ที่ต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น หลายเรื่องต้องสร้างความเข้าใจ ซึ่งการสร้างความเข้าใจไม่มีข้อแลกเปลี่ยนใดๆ ทำให้นายพริษฐ์ตั้งคำถามด้วยว่าเป็นความแตกต่างในการทำงานของรัฐบาลที่ปล่อยเกียร์ว่างในนโยบายที่ต้องการผลักดัน ไม่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่กับอีกนโยบายที่ไม่ประกาศไว้ตอนหาเสียงกลับใช้วิธีการพูดคุย ทั้่งนี้ได้ตั้งคำถามถึงการเรียงลำดับความสำคัญในนโยบายรัฐบาล เช่น ค่าแรง นิรโทษกรรมทางการเมือง

ทั้งนี้ นายประเสริฐ ชี้แจงว่าเจตจำนง 2 นโยบายหลักได้แถลงไว้ต่อสภาฯ และนายกฯ ใช้ภาวะผู้นำในการคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีเดินอ้อม เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องดำเนินการต่อ ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น กัญชา ค่าแรง ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่การเรียงลำดับขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส.

ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button