จีน ปลดแบน เกาหลีใต้ เตรียมรับ K-Content หลังแบนนาน 8 ปี เซ่นปม THAAD

แฟนจีนเตรียมเฮ รัฐบาลจีน เตรียมปลดแบน คอนเทนต์เกาหลี หลังใช้มาตรการคว่ำบาตรนานถึง 8 ปี นับตั้งแต่เกาหลีใต้ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD เมื่อปี 2017
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าว hankyung แห่งเกาหลีใต้ รายงานว่า รัฐบาลจีน เตรียมยกเลิกการแบน “คอนเทนต์เกาหลี” (K-Content) ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากใช้มาตรการคว่ำบาตรมานานถึง 8 ปี นับตั้งแต่เกาหลีใต้ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ THAAD ในปี 2017
แหล่งข่าววงในระดับสูงจาก ศูนย์ความร่วมมือจีน-เอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมงานประชุมสุดยอด APEC ที่จีนจะเป็นเจ้าภาพ ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า “จีนจะเริ่มต้นด้วยการส่งคณะผู้แทนด้านวัฒนธรรมไปเยือนเกาหลีในเดือนหน้า และวางแผนที่จะขยายการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างเต็มรูปแบบภายในครึ่งปีแรก” นั่นหมายถึงการยกเลิกมาตรการแบน THAAD ที่ปิดกั้นการเผยแพร่คอนเทนต์เกาหลี ทั้งละคร ภาพยนตร์ เกม และการแสดงคอนเสิร์ต K-pop ในจีน
ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลจีน ก็คือการที่จีนและเกาหลีใต้ต่างก็จะเป็นเจ้าภาพและประธานหมุนเวียนของการประชุมสุดยอด APEC ในปีนี้และปีหน้า ทำให้การกระชับความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างสองประเทศเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเปิดรับวัฒนธรรมก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน
แม้ว่ารัฐบาลจีนจะปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่า ไม่มีการแบน THAAD แต่ในทางปฏิบัติ จีนได้จำกัดการเผยแพร่คอนเทนต์เกาหลีอย่างเข้มงวด การส่งออกคอนเทนต์เกาหลีไปจีนต้องได้รับการตรวจสอบและอนุมัติจากรัฐบาลจีน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะถูกปฏิเสธ
สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์อนาคต KDB ในเครือธนาคาร Industrial Bank of Korea ประเมินว่า ความเสียหายต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายในประเทศในช่วงการแบน THAAD ในปี 2560 สูงถึง 22 ล้านล้านวอน หรือราว ๆ กว่า 5 แสนล้านบาท
เจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีในประเทศจีนกล่าวว่า “เราได้ร้องขอให้รัฐบาลจีนยกเลิกการแบน THAAD อย่างต่อเนื่อง และเร็ว ๆ นี้เราพบว่ามีความคืบหน้าในเชิงบวกจากรัฐบาลจีน” เนื่องจากการแบน THAAD ไม่ใช่ข้อบังคับอย่างเป็นทางการที่ระบุไว้ที่ใดที่หนึ่ง จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าแทนที่รัฐบาลจีนจะประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อนักร้อง K-pop ยื่นเรื่องขอแสดงในประเทศจีน พวกเขาจะได้รับการอนุมัติ ซึ่งแตกต่างจากในก่อนหน้านี้ และในที่สุดคอนเทนต์เกาหลีทั้งหมดก็จะเปิดกว้าง
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ถูกมองว่า เป็นการต่อรอยร้าวความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ เพราะความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของ โดนัลด์ ทรัมป์ จีนดำเนินนโยบายประนีประนอมต่อเกาหลีใต้ รวมถึงการเพิ่มเกาหลีใต้ในโครงการยกเว้นวีซ่าเมื่อปลายปีที่แล้ว และล่าสุดประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็ได้พบกับประธานรัฐสภาอู วอน-ชิก ระหว่างการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวด้วย
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จีนกำลังมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูความต้องการภายในประเทศเพื่อตอบโต้แรงกดดันจากรัฐบาลของทรัมป์ เกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูงและการค้า ในขณะเดียวกันก็กระตือรือร้นมากขึ้นในการปรับปรุงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนี่เป็นกลยุทธ์เพื่อลดความขัดแย้งทางการทูตที่ไม่จำเป็น และเอาชนะพันธมิตรของอเมริกา ด้วยการสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน ยกเว้นสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ การยกเลิกการแบน THAAD คาดว่า จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ แม้ว่าจะยังมีการวิจัยไม่มากนักเกี่ยวกับขนาดของความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศเนื่องจากการแบน THAAD แต่ในปี 2560 สถาบันวิจัยยุทธศาสตร์อนาคต KDB ประเมินความเสียหายไว้ที่ 22 ล้านล้านวอนต่อปี (ประมาณ 5 แสนล้านบาท)
ขณะที่สถาบันวิจัยอุตสาหกรรมประเมินไว้ที่ 15 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 3.5 แสนล้านบาท) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ผลกระทบจากการลดการผลิตในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และอาหารนั้น ค่อนข้างมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกาหลีใต้ สั่งห้ามดาวน์โหลด DeepSeek แอปฯ AI จีน ชั่วคราว พบแฮกข้อมูลส่วนตัว
- คิมจองอึน สั่งแบนออกอากาศ “ทีมดังพรีเมียร์ลีค” ตามนโยบายเกาหลีเหนือ
- สัมพันธ์สองเกาหลีระอุ เกาหลีใต้ประณามเปียงยาง ระเบิดรื้อศูนย์รวมญาติสองฝั่ง