ข่าวการเมือง

จับลูกสาว อดีตรองนายกเล็กจันดี เอี่ยวแก๊งคอลเซนเตอร์ หนีกบดานข้ามปี

ตำรวจไซเบอร์ บุกจับ อาทิตยา ลูกสาวเจ๊เล็ก อดีตรองนายกเทศบาลจันดี นครศรีธรรมราช เอี่ยวขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ หนีกบดานนานข้ามปีก่อนสิ้นท่าสมุทรสาคร

วันนี้ (7 ก.พ.) มีรายงานจากตำรวจบช.สอท. ได้จับกุมตัว น.ส.อาทิตยา บุตรสาวของนางเรวดี หรือ “เจ๊เล็ก” รองนายกเทศมนตรีจันดี ตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 โดยจนท.ติดตามนานเกือบปี กระทั่งพบว่า ผู้ต้องหาหนีมากับสามีชาวจีนและเข้ามาเช่าอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อค้าขายสินค้าออนไลน์นำเข้าจากจีนจึงวางกำลังเข้าจับกุม

Advertisements

ทั้งนี้ น.ส.อาทิตยา เป็นบุตรสาวของนางเรวดี หรือ “เจ๊เล็ก” รองนายกเทศมนตรีจันดี บุคคลในครอบครัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับผลประโยชน์ จากแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยคดีนี้สืบเนื่องจาก 29 มี.ค.67 ตำรวจปูพรมตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด พื้นที่จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ โดยพบว่ามีขบวนการลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทย ชาวจีน ชาวรัสเชียและชาวญี่ปุ่น โดยครั้งนั้นจับกุมขบวนการชาวจีนและผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ 90 คน พร้อมยึดของกลางคอมพิวเตอร์ 192 เครื่อง, มือถือและซิมผี 854 เครื่อง, Router กระจายสัญญาณ 22 เครื่อง, และบัญชีม้า 342 เล่ม

จากนั้นมีการขยายผลจนพบความเชื่อมโยงว่า ขบวนการดังกล่าวมี น.ส.เรวดี หรือเจ๊เล็ก ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนมาใช้ปฎิบัติการและได้ผลประโยชน์จากการเช่าอาศัย โดย นายหลิน ดันหยาง หรือโกหยาง สามีของเจ๊เล็กมีการโอนเงินซื้อคอมพิวเตอร์,โทรศัพท์ให้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน และทำหน้าที่จ่ายเงินให้ลูกจ้างชาวไทย

ขณะที่ น.ส.อาทิตยา ลูกสาวนางเรวดี เป็นนอมินีปรากฎชื่อในบริษัทที่กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนใช้บังหน้าจึงนำมาซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ 7 ราย

ขณะที่ล่าสุดหลังจากคุมตัวลูกสาวมาสอบปากคำ ทางด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. อัปเดตความคืบหน้าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลถึงผู้อื่นที่เกี่ยวข้องและยังหลบหหนีกาารจับกุม

ส่วนการตรวจค้นข้อมูลพบว่า น.ส.อาทิตยา ผู้ต้องหามีการพูดคุยกับ เจ๊เล็ก ผู้เป็นแม่ ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ แต่ไม่มีเบอร์โทรติดต่อของนางเรวดี

Advertisements

ขณะเดียวกันในส่วนของน.ส.อาทิตยา ถูกแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอม พิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นซ่องโจร และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button