ข่าวต่างประเทศ

วัยรุ่นสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ 12 ผ่านไป 5 ปี ทำทรุดเกือบตาย

อีกหนุ่มอุทาหรณ์ วัยรุ่นอังกฤษสูบบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่อายุ 12 ปี ก่อนเจอผลตรวจสุขภาพ 5 ปี ไอเป็นเลือด เข็ดไปจนตาย

เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ เจย์เดน ริชาร์ดสัน ที่ออกมาเปิดเผยว่าเขาเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่อายุ 12 ปี ซึ่งสาเหตุที่เริ่มเป็นสายควันเป็นเพราะอย่างเข้าสังคมเพื่อน และยังบอกอีกว่าปริมาณที่เขาสูบนั้นเทียบเท่ากับบุหรี่ราว 50 มวนต่อวัน

Advertisements

แต่อยู่มาวันหนึ่ง วัยรุ่นวัย 17 ปีรายนี้ก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เพราะเขาไอเป็นเลือกในวันสุดท้ายระหว่างทริปหน้าร้อนกับครอบครัวที่ประเทศตุรกีเมื่อเดือนสิงหาคม 2024

หลังจากบินกลับบ้านในวันถัดมา เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยคุณแม่เอลิตา ริชาร์ดสัน เล่าว่าหมอคิดว่าเป็นแผลในกระเพาะ คุณแม่เอลิตายอมรับว่าเธอคิดว่าอาจเกี่ยวกับเครื่องดื่ม อาหารมัน อีกทั้งตลอดทั้งทริปหน้าร้อน ลูกชายของเขาก็กินเคบับทุกวัน

แต่แล้วครอบครัวถึงกับช็อก เพราะเมื่อส่องกล้องเข้าไปพบว่าปอดของ เจย์เดน เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งแพทย์บอกว่าเกิดจากการติดบุหรี่ไฟฟ้า แม้ว่าจะเลิกบุหรี่ไฟฟ้า แต่เขาก็เลือกที่จะไปสูบอีกครั้งตอนฉลองวันเกิด เมื่อวันที่ 10 มกราคม และก็เริ่มมีอาการไอเป็นเลือดอีก

โดยทาง เอลิตา ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กโดยระบุว่า “กรุณาคิดให้ดีก่อนจะสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพราะคุณไม่มีทางคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง”

Advertisements

ในตอนนี้ เจย์เดน กำลังรอการตรวจซีทีสแกน และเขาเห็นด้วยกับการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งในเดือนมิถุนายน 2025 โดยสาบานว่าจะไม่มีวันใช้มันอีกโดยเขาได้บอกว่า “ผมกลัวมาก ไม่เคยคิดเลยว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้”

“มันเริ่มต้นที่ตุรกี คืนก่อนหน้านั้นผมรู้สึกเจ็บหน้าอกนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตื่นเช้ามาผมก็สูบบุหรี่ไฟฟ้านิดหน่อย แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอาการไอในอก”

“ผมไอ 2-3 ที แล้วรู้สึกเหมือนมีเสมหะ เลยจะบ้วนทิ้ง พอเห็นว่าเป็นเลือดก็ช็อกเลย ไม่รู้จะทำยังไงดี”

“ผมรีบบอกแม่ แม่เลยบอกว่า ‘ถ้ามันแย่ลงจะรีบมาหาทันที’ เพราะตอนนั้นแม่ออกไปทานข้าวเช้าอยู่ ผ่านไปประมาณห้านาที ผมก็ยังไอเป็นเลือดออกมานิดๆ พอแม่มาถึง ตอนแรกที่ไอก็ยังไม่แย่เท่าไหร่”

“แต่พอผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังจากดื่มอะไรนิดหน่อยแล้วลงสระว่ายน้ำ พอลงน้ำปุ๊บ ผมก็ไอเป็นเลือดออกมาใส่มือเยอะมาก เพื่อนแม่เลยรีบดึงผมขึ้นจากสระ”

“รีบวิ่งไปห้องน้ำ แล้วผมก็ไอเป็นเลือดออกมาเป็นไพนต์ๆ เลย เห็นแล้วกลัวมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็กอายุแค่นี้ มันน่าสะเทือนใจมาก ผมไอเป็นเลือดออกมาเยอะมากอยู่แบบนั้นประมาณ 10 นาทีเลย”

เจย์เดนพยายามบินกลับบ้านในวันถัดมา แต่พ่อต้องรีบพาเขาส่งโรงพยาบาลหลังจากที่เขาเริ่มไอเป็นเลือดอีกที่สนามบินเบอร์มิงแฮม คุณแม่เล่าว่าตอนแรกหมอปัดความรับผิดชอบ ด้วยการบอกว่าเป็นแผลในกระเพาะ หลังจากที่เธอบอกว่าลูกชายอาเจียนเป็นเลือด และเอกซเรย์ปอดก็ไม่พบอะไรผิดปกติ

แต่แล้ว 1 สัปดาห์ต่อมา จากการส่องกล้องทำให้เห็นว่า เขามีความเสียหายที่ปอดอย่างรุนแรง โดยเอลิตาเล่าว่า “พอฉันกลับมาถึง ลูกชายก็เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล แต่หมอก็แค่บอกว่าเป็นแผลในกระเพาะแล้วก็ปัดไป”

“เพราะฉันเข้าใจว่าเขาอาเจียนออกมา แต่จริงๆ แล้วเขาไอออกมา เขาแค่สำลัก ฉันก็คิดว่า ‘ฉันปล่อยให้เขาดื่มนิดหน่อยตอนไปเที่ยว เขากินแต่อาหารมันๆ กินเคบับทุกคืน'”

“พวกหมอส่งเขาไปเอกซเรย์ปอด แต่ก็ไม่เจออะไรในภาพเอกซเรย์ พวกเขาก็เลยถามว่า ‘เป็นเลือดกำเดาไหลรุนแรงหรือเปล่า?’ เพราะมีเลือดออกทางจมูกด้วย ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยเป็นเลือดกำเดาเลย”

“ฉันคิดว่าพวกหมอกำลังหาสาเหตุทุกอย่างที่เป็นไปได้ โดยไม่คิดว่าเด็กอายุขนาดนี้จะมีความเสียหายที่ปอดรุนแรงขนาดนี้ อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาเขาถึงได้ส่องกล้อง หมอบอกว่าไม่เคยเห็นปอดเสียหายขนาดนี้ในเด็กมาก่อน มันแย่มาก พวกเขาบอกว่าเป็นเพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้าหนักเกินไป มันน่าตกใจมาก”

“มันแย่มากจริงๆ ฉันยังโชคดีที่รู้ตัวตอนนี้ ฉันกลัวว่าถ้าปล่อยให้เป็นต่อไปอีก มันอาจจะแย่กว่านี้ และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ตอนที่มันเกิดขึ้นอีกครั้ง นักแสดงจากฮอลลีโอ๊คส์ก็เสียชีวิต (และมีการเชื่อมโยงปัญหาสุขภาพของเขา) กับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าหนักเกินไป”

ขณะที่ เจย์เดน ได้รับยาและตัดสินใจเลิกบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้อาการเลือดออกหยุดลงในอีกไม่กี่วันต่อมา อย่างไรก็ตาม วัยรุ่นรายนี้ยอมรับว่าเขากลับไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าอีกครั้งในช่วงวันเกิดหลายเดือนถัดมา เพราะคิดว่าความเสียหายเกิดขึ้นไปแล้ว แต่สุดท้ายก็กลับมาไอเป็นเลือดอีก และตอนนี้กำลังรอการตรวจซีทีสแกน

โดย เจย์เดน ได้เล่าว่า “ผมกลับไปลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าอีก โง่จริงๆ ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมทำแบบนั้น ผมไม่ได้ใช้หนักมาก แต่ก็ใช้ค่อนข้างบ่อย จู่ๆ ตอนนอนอยู่บนเตียงก็มีอาการไอ จากเสียงไอที่ได้ยิน ผมรู้เลยว่าต้องเป็นเลือดแน่ๆ พอบ้วนออกมา เลือดไม่ได้ออกมาเยอะเท่าไหร่ แต่ก็ไม่น่าดูเลย มันทำให้เครียดมาก”

“ผมคิดว่าความเสียหายมันเกิดขึ้นไปแล้ว และมันคงจะหายเองได้ เลยคิดว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าแค่ไม่กี่ครั้งคงไม่เป็นไร แต่ผมคิดผิดถนัด ไม่น่าเชื่อว่ามันจะกลับมาเสียหายได้ง่ายขนาดนี้”

“ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บที่ด้านซ้ายมาก ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นปอดซ้าย ผมมีอาการเจ็บบ่อยๆ บางทีก็นั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร แต่จู่ๆ ก็มีอาการเจ็บแปลบเหมือนโดนแทง เวลาไอก็เจ็บ มันแย่มากจริงๆ”

เขายอมรับว่าใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขนาด 10 มิลลิลิตรหมดขวดทุก 2-3 วัน ซึ่งเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ประมาณ 50 มวนต่อวัน โดยเจ้าตัวได้บอกว่า “ทุกคนรอบตัวผมสูบกันหมด ผมรู้สึกว่าต้องสูบเพื่อให้เข้ากับเพื่อน แล้วมันก็ดูเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ผมสูบทุกวัน พูดตามตรงคือแทบไม่วางเลย มันเป็นนิสัยที่แย่มาก พอเริ่มแล้ว มันก็ติดง่ายมาก เลิกยากมาก”

“ตอนที่บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งกำลังฮิต คุณไม่รู้หรอกว่าข้างในมันมีอะไรบ้าง บางอันก็เป็นของปลอม ไม่มีอันไหนดีหรอก แต่พวกนี้อันตรายมากเป็นพิเศษ มีสารเคมีสารพัด คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาใส่อะไรลงไปบ้าง มันอันตราย ไม่ควรมีใครแตะมันเลย ควรแบนในทุกประเทศ”

“ถ้าย้อนเวลากลับไปตอนที่เริ่มสูบครั้งแรกได้ ผมจะบอกตัวเองว่า ‘อย่าแตะมันเลย’ มันบ้ามาก ที่มันอันตรายขนาดนี้และทำร้ายร่างกายคนได้ขนาดนี้ ตอนที่สูบเราไม่รู้หรอก แต่มันส่งผลในระยะยาว ผมจะไม่มีวันแตะมันอีกเลย”

อ้างอิง : www.mirror.co.uk

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Bas

ผู้สื่อข่าวกีฬา จบการศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีประสบการณ์เขียนข่าวกีฬากับ SMMSport กว่า 10 ปี เริ่มทำงานกับ Thaiger เมื่อ 2021 ชอบและติดตามกีฬามาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งบอลไทย และต่างประเทศ 5 ลีกดังของโลก พร้อมอัปเดตข่าวสารวงการฟุตบอล แบบเข้าใจง่าย ให้เพื่อนๆและแฟนบอลได้ติดตามกันทุกวัน ช่องทางติดต่อ saral@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button