มรดก ต้าเอส มูลค่ากว่า 2 พันล้าน หลายคนจับตา ทรัพย์สินทั้งหมดจะเป็นของใคร
ภายหลังข่าวการจากไปอย่างกะทันหันของนักแสดงชื่อดัง ต้าเอส สวีซีหยวน นางเอกเจ้าของบทบาท ซันไช่ จากซีรีส์ F4 รักใสใสหัวใจ 4 ดวง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สร้างความโศกเศร้าให้กับสามี ครอบครัว รวมถึงแฟนคลับและเพื่อนร่วมวงการเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลย เธอเพียงแค่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ขณะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะอาการหนักจนถึงมีภาวะปอดอักเสบและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แน่นอนว่าการจากไปอย่างกะทันหันของ ต้าเอส ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มเกิดความกังวลเกี่ยวกับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรทั้ง 2 คนวัย 10 ขวบและ 8 ขวบของเธอกับสามีเก่า หวัง เสี่ยวเฟย เนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมาหลังการหย่าร้างของทั้งคู่ บาร์บี้ ซู เป็นผู้ดูแลลูก ๆ อย่างดีมาโดยตลอด แม้ว่าเธอจะตัดสินใจแต่งงานใหม่อีกครั้งกับ ดีเจคู (คู จุน-ยอบ) ก็ตาม
แต่หลังจากการเสียชีวิตจึงมีการคาดการณ์กันไปว่า เสี่ยวเฟย อดีตสามีของต้าเอส อาจจะต้องกลับมาดูแลลูก ๆ ทั้ง 2 คนอีกครั้งในฐานะพ่อผู้ให้กำเนิด ภายใต้กฎหมายไต้หวันที่จะมอบสิทธิ์อัตโนมัติในการดูแลบุตรให้กับผู้ปกครองที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตลง
คาดการณ์มรดกกว่า 2 พันล้านบาทของ ต้าเอส จะตกเป็นของใคร?
นอกจากนั้นในตอนนี้ยังมีการพูดคุยกันไปถึงเรื่องทรัพย์สินและมรดกของบาร์บี้ ซู ด้วย โดยสื่อไต้หวัน ได้รายงานว่า นักแสดงสาวทิ้งทรัพย์สินมูลค่ากว่า 110 พันล้านวอน หรือประมาณ 2.5 พันล้านบาทเอาไว้ ซึ่งตามกฎหมายแล้วจะตกเป็นของคู จุน-ยอบ และลูก ๆ ของเธอ อย่างไรก็ตามยังมีข้อถกเถียงเกิดขึ้นตามมาว่า หากหวัง เสี่ยวเฟย ได้รับสิทธิ์ในการดูแลบุตร เขาก็อาจจะได้สิทธิ์ในการควบคุมมรดกในส่วนของลูกทั้ง 2 คนได้ด้วยเช่นกัน
ทว่ารายงานจากแหล่งข่าวหลายแห่งตีข่าวในทำนองที่ว่า หวัง เสี่ยวเฟย อ้างว่าทรัพย์สินส่วนหนึ่งของบาร์บี้ ซู ได้มาจากการสนับสนุนทางการเงินของเขาในระหว่างการแต่งงานของพวกเขา ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์, บัญชีธนาคาร และการลงทุนร่วมกัน
ต้าเอส ทำพินัยกรรมไว้ล่วงหน้าแล้ว
อย่างไรก็ตามมีรายการเพิ่มเติมว่า บาร์บี้ ซู ได้ร่างพินัยกรรมเอาไว้แล้วตั้งแต่ปี 2024 โดยระบุว่า ทรัพย์สินทั้งหมดของเธอจะตกเป็นของแม่ และลูกทั้ง 2 คนของเธอ จากข่าวเรื่องพินัยกรรมนี้ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ที่ให้ความสนใจในเรื่องของเธอคาดการณ์ว่า มันอาจจะช่วยแก้ไขข้อพิพาทเรื่องมรดก 2 พันล้านบาทนี้ได้
ถึงอย่างไรจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการหรือหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการมีอยู่ของพินัยกรรมที่นักแสดงสาวผู้ล่วงลับจัดการเอาไว้แล้ว ซึ่งหากไม่มีการพบพินัยกรรม ทรัพย์สินของเธอจะถูกแบ่งให้กับลูก ๆ และสามีคนปัจจุบัน ดีเจคู ตามกฎหมาย
ต้าเอส-ดีเจคู ไม่ได้จดทะเบียนสมรส?
สื่อจีนรายงานว่า แม้ว่า ต้าเอส และ ดีเจคู จะแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศเกาหลีแล้วก็ตาม แต่ทั้งคู่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันในไต้หวัน
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า หากบาร์บี้ ซู ทิ้งพินัยกรรมไว้ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต มรดกจะถูกแบ่งตามข้อกำหนดของพินัยกรรม อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการทำพินัยกรรม ทรัพย์สินของเธอจะถูกแบ่งเท่าๆ กันระหว่างคู จุน-ยอบ และลูกๆ ของเธอ แต่เนื่องจากคู จุน-ยอบ ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเด็กๆ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นสามีของเธออย่างถูกกฎหมายในไต้หวัน เขาจึงเสี่ยงที่จะสูญเสียทั้งส่วนแบ่งมรดกและสิทธิ์ในการดูแลบุตร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนคำทำนาย หมอดู ทัก ต้าเอส-สามี อยู่ด้วยกันแค่ 3 ปี แม่นจนขนลุก
- ไข้หวัดใหญ่ระบาดญี่ปุ่น ต้นเหตุคร่า ‘ต้าเอส’ ป่วยพุ่ง 3.1 แสนคน เป็นประวัติการณ์
- เพจดังโยงปม ต้าเอส เสียชีวิต ชี้สาเหตุ รพ.ญี่ปุ่น ไม่ได้เปิด 24 ชม.ทุกแห่ง
อ้างอิงจาก : kbizoom, IG barbiehsu.fp