หมอเบียร์ โพสต์ตัดพ้อ เตรียมลาออก หลังถูกสั่งตรวจเคสวัณโรค-เอชไอวี ศูนย์อพยพเพิ่ม ทั้งที่ภาระงานล้นมือ ดูแลผู้ป่วยในสัดส่วน 1 ต่อ 5,000
ไม่ทนอีกต่อไป! พญ.ณัฐกานต์ ชื่นชม หรือ หมอเบียร์ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด โพสต์ตัดพ้อ เตรียมลาออก หลังผู้บริหารสั่งตรวจเคส วัณโรค-เอชไอวี ในศูนย์อพยพ เพิ่มภาระงาน กระทบบริการคนไทย ชี้ เป็นปัญหาระดับชาติ ไม่ใช่สาธารณสุขท้องถิ่น วอนแก้กฎหมาย ดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศ
“เบียร์คิดมาหลายวันแล้ว ให้เวลาอีกครึ่งวัน ถ้าผู้บริหารยังไม่เปลี่ยนแนวคิด จะไปเขียนใบลาออกราชการวันนี้แหละ อายุราชการ 20 ปี ก็อุทิศตนมามากพอละ ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ไม่ทำเพื่อผู้อื่น”
ข้อความสุดอัดอั้นจากหมอเบียร์ ที่โพสต์ผ่านโลกออนไลน์ สะท้อนถึงวิกฤตภาระงาน ที่บุคลากรทางการแพทย์ชายแดนต้องแบกรับ จนถึงขั้นเตรียมยื่นใบลาออก
หมอเบียร์ ยังย้ำในโพสต์ถัดมาว่า ปัญหาการจัดการค่ายผู้อพยพ ไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขท้องถิ่น แต่เป็นเรื่องระดับชาติ ที่ต้องอาศัยการจัดการของรัฐบาล
ทั้งการแก้ไขกฎหมาย และการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศ โดยเธอเสนอให้ “จัดบุคลากรอีกชุดหนึ่ง” เพื่อดูแลค่ายอพยพโดยเฉพาะ และในช่วงเร่งด่วนก็ควร “หางบประมาณมาจ้างหมอเมียนมากลุ่มเดิม” ที่เคยดูแลอยู่แล้ว ระหว่างรองบประมาณใหม่
ทว่าข้อเสนอนี้กลับไม่ถูกนำไปปฏิบัติ หมอเบียร์ มองว่า ในระยะยาวควร “พูดคุยเรื่องการแก้กฎหมายผู้ลี้ภัยให้ถูกต้อง และมีการผลักดันกลับประเทศเดิม คนไทยชายแดนเสียสละมามากพอแล้ว ทุกวันนี้บุคลากรก็ไม่พอ…คนไข้ก็ต้องรอนาน รอทุกอย่างทั้งรอหมอและรอคิวในการตรวจ บางคนเป็นมะเร็งก็ต้องรอการวินิจฉัยและการรักษา”
ชนวนเหตุของโพสต์ตัดพ้อนี้เกิดจากผู้บริหารสั่งให้หมอเบียร์ รับตรวจเคสวัณโรคและเอชไอวี ในศูนย์อพยพ โดยอ้างว่าโรงพยาบาลชุมชนไม่สามารถดูแลได้ และจะให้ “รถโรงพยาบาลไปรับคนไข้มาให้ตรวจที่แม่สอด” โดยไม่ดูภาระงานที่ทำอยู่ตอนนี้เลย ทำให้หมอเบียร์รู้สึกไม่พอใจ เป็นอย่างมาก
“หมอเบียร์” ยังได้แชร์ประสบการณ์การทำงาน ผ่าน เรื่องเล่าหมอชายแดน โดยระบุว่า แพทย์ 1 คน ต้องดูแลคนไข้ประมาณ 5,000 คน
มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย หลายคนมาถึงโรงพยาบาลในอาการหนักแล้ว แถมยังมีอุปสรรคเรื่องการสื่อสารต้องพูดคุยผ่านล่าม ทำให้ต้องใช้เวลานานกว่าปกติ
นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการรักษา ปีละหลายสิบล้านบาท
“โรงพยาบาลแม่สอดมีหมอทั้งหมด 80 คน มีอายุรแพทย์ 10 คน ผู้ป่วยนอกที่มารับบริการจำนวน 350,000 ครั้งต่อปี เฉพาะแผนกอายุรกรรมมารับบริการ 180,000 ครั้งต่อปี พวกเรามาราวน์ทุกวันไม่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ออกตรวจผู้ป่วยนอกทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ มีโอกาสได้ไปประชุม หรือไปพักผ่อนส่วนตัวน้อยมาก เนื่องจากงานตึงมือ
ไม่ต้องพูดถึงแผนกศัลยกรรมและแผนกอื่นที่ต้องผ่าตัดที่มีแพทย์น้อยกว่านี้มาก ภาระงานโหลดจริงๆ ตามปกติองค์การอนามัยโลกแนะนำให้สัดส่วนแพทย์ 1 คนต่อคนไข้ 1,000 คน โรงพยาบาลเราก็ทำงานหนักมากกว่าปกติ 5 เท่าแล้ว” หมอเบียร์ ระบุ
“มนุษยธรรมเป็นสิ่งที่พวกเราชาวสาธารณสุขชายแดนมีมาตลอดอายุการทำงาน แต่ขอให้เราได้ทำงานที่พอเหมาะกับแรงที่เรามี ให้มันสามารถพยุงฉันทะ และวิริยะในงานของเราต่อไปด้วยเถิด ทุกวันนี้ทำงานจนเลยความสุข ความสนุก ไปจนถึงจุดทนแล้ว” หมอเบียร์ กล่าวทิ้งท้าย สะท้อนความอัดอั้น ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องแบกรับภาระเกินกำลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง : Nuttagarn Chuenchom 1 2
ข่าวล่าสุด
