ข่าว

เพื่อไทย โว ผลักดัน ระบบตั๋วร่วม ใบเดียวเดินทางได้ทุกระบบขนส่งมวลชน

วันนี้ 29 มกราคม 2568 เฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย รายงาน พรรคเพื่อไทย นำโดย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้เสนอร่างในนามของคณะรัฐมนตรี นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย และนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. … (พ.ร.บ.ตั๋วร่วม) โดยชี้ให้เห็นจุดเด่นในการปฏิรูประบบขนส่งสาธารณะของไทยว่า จะเป็นการใช้บัตรใบเดียวเดินทางได้ทุกระบบอย่างไร้รอยต่อ กำหนดอัตราค่าโดยสารเป็นธรรม ลดภาระค่าครองชีพประชาชน และยังมีกฎหมายกำหนดมาตรฐานการให้บริการและบทลงโทษแก่ผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามกฎหมายด้วย

บัตรใบเดียว เดินทางได้ทุกระบบ

Advertisements

นางมนพร เจริญศรี กล่าวถึงเหตุผลการเสนอร่างพระราชบัญญัติตั๋วร่วมฯ ว่าโดยที่ปัจจุบันนี้ ระบบขนส่งสาธารณะมีผู้ให้บริการหลายราย แต่ละรายมีต้นทุนและการบริหารการจัดเก็บค่าโดยสารหรือค่าธรรมเนียมของตัวเอง ทำให้ต้นทุนในการให้บริการขนส่งสาธารณะอยู่ในอัตราสูง และประชาชนต้องรับภาระแบกต้นทุนดังกล่าว และยังเกิดความไม่สะดวกในการเดินทาง

ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ลดค่าใช้จ่าย ให้สามารถใช้บัตรโดยสารใบเดียวเดินทางได้ทุกระบบขนส่งสาธารณะ อันเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนปรับพฤติกรรมการเดินทาง รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการดำเนินการจัดเก็บค่าโดยสารของผู้ให้บริหารอันจะทำให้ค่าโดยสารลดลงและเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน จึงสมควรจะมีการให้บริหารร่วมกันในรูปแบบระบบตั๋วร่วม โดยจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ การพัฒนา และบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้

อัตราค่าโดยสารเป็นธรรม

พระราชบัญญัติตั๋วร่วม ว่ามีหลักการสำคัญในการจัดทำอยู่ 5 ประการ คือ

1. จัดทำมาตรฐานทางเทคโนโลยีของระบบตั๋วร่วมเพื่อเป็นมาตรฐานกลาง โดย สนข. เป็นหน่วยงานผู้กำหนดมาตรฐานของระบบตั๋วร่วมและใช้เป็นมาตรฐานกลาง สำหรับการให้บริการตั๋วร่วมในอนาคตและสำหรับผู้ให้บริการปัจจุบันที่จะเข้าสู่ระบบตั๋วร่วมตาม กม.นี้

Advertisements

2. กำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม เป็นอำนาจ รมต.คมนาคม ในการออกกฏกระทรวงเพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม ทั้งนี้ จะนำไปใช้บังคับในสัญญาสัมปทานของขนส่งสาธารณะในอนาคตด้วย

3. จัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ พัฒนา การบริหารระบบตั๋วร่วมและให้เอกชนที่ประกอบกิจการตั๋วร่วมได้กู้ยืมด้วย

4. ผู้ประกอบการที่จะมีสิทธิขอรับการสนับสนุนจากกองทุนระบบตั๋วร่วม ต้องได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญ้ตินี้

5. ในกรณีจำเป็น ให้ตราพระราชกฤษฏีกากำหนดให้ประกอบกิจการขนส่งสาธารณะใดเป็นกิจการที่ต้องใช้ระบบตั๋วร่วม และต้องได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับระบบตั๋วร่วม ป้องกันความเสียหายต่อสาธารณะ จะต้องเจรจาทำข้อตกลงร่วมกันกับผู้ประกอบการที่จะถูกบังคับและต้องดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำมาประกอบการพิจารณา

โดยสาระสำคัญของพระราชบัญญัติดังกล่าว ประกอบด้วย 7 หมวด และบทเฉพาะกาล 54 มาตรา ดังนี้ คือ หมวด 1 เรื่องคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม กำหนดอำนาจ หน้าที่ ในการกำหนดนโยบาย มาตรฐานทางเทคโนโลยี หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดค่าโดยสาร หมวด 2 เรื่องการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม หมวด 3 อัตราค่าโดยสารร่วม หมวด 4 กองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม หมวด 5 พนักงานเจ้าหน้าที่ หมวด 6 มาตรการปรับเป็นพินัย และ หมวด 7 โทษทางอาญา และ บทเฉพาะกาล

ระบบตั๋วร่วม สำเร็จได้ในรัฐบาลเพื่อไทย

รวมรถตู้ รถสองแถวเข้าระบบ

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ กล่าวว่า ระบบตั๋วร่วมเป็นการเปลี่ยนการชำระค่าโดยสารในระบบขนส่งสาธารณะ เป็นหนึ่งในวิธีการลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน ต่อไปนี้การเดินทางด้วย รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ทางด่วน รถเมล์ เรือ หรือการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟีดเดอร์ (feeder) ของเอกชนอื่นๆ เช่น รถตู้โดยสาร รถสองแถว เข้าด้วยกัน ให้สามารถจ่ายค่าโดยสารทุกระบบด้วยบัตรใบเดียว เพิ่มความสะดวกสบายให้พี่น้องประชาชนมากขึ้น และรวบรวมเอาฐานข้อมูลการเดินทางทั้งหมดมาเก็บไว้จุดเดียว เป็นกลไกสำคัญให้การทำระบบค่าโดยสารร่วมที่ผู้โดยสารไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน และนโยบาย “20 บาทตลอดสาย” ที่แม้ฝ่ายค้านจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้หรือไม่ควรทำ แต่รัฐบาลเพื่อไทยพร้อมพิสูจน์ว่าเราทำได้

อยู่ ‘บ้านเพื่อคนไทย’ เดินขึ้นรถไฟฟ้า ‘20 บาทตลอดสาย’
.
พรรคเพื่อไทย มีแนวคิดเรื่องการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในระบบรถไฟฟ้า เพื่อทำให้ขนส่งสาธารณะระบบนี้เป็นบริการที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างแท้จริง ผ่านนโยบายหลายอย่าง อาทิ การเพิ่มความสะดวกด้วยระบบตั๋วร่วม การลดค่าโดยสารเหลือ20บาทต่อการเดินทางแต่ละครั้ง และการส่งเสริมการอยู่อาศัยโดยรอบสถานีรถไฟผ่านนโยบาย “บ้านเพื่อคนไทย” เพราะนโยบายเหล่านี้ นอกเหนือจากการช่วยเฉลี่ยต้นทุนให้งบประมาณที่ต้องใช้ชดเชยค่าโดยสารลดลงแล้ว ยังส่งเสริมการพัฒนาที่ดินโดยรอบสถานี ส่งเสริมการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดปัญหารถติด และ pm2.5 อย่างยั่งยืน และที่สำคัญที่สุดคือ การช่วยเหลือให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถมีต้นทุนค่าครองชีพที่ลดลงได้อย่างมาก ให้มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้ และสามารถตั้งตัวหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองได้เร็วขึ้น

หมดหวัง ‘บัตรแมงมุม’ มีหวัง ‘ตั๋วร่วม’
.
“การทำตั๋วร่วม หรือที่หลายคนเคยมีความหวังกับบัตรแมงมุม เป็นเรื่องที่พูดกันมานานในสังคมไทย แต่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จ ซึ่งการเสนอ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ในครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การเปลี่ยนผ่านจากระบบตั๋วใครตั๋วมัน เป็นระบบตั๋วร่วม สำเร็จได้จริงภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย” นายชนินทร์กล่าว

ลดฝุ่นควันจากรถโดยสารส่วนบุคคล

นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ กล่าวว่าระบบตั๋วร่วม มีข้อดีคือสะดวกสำหรับผู้โดยสาร เพราะบัตรเดียวใช้ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ เรือโดยสาร สะดวกในการพกบัตรใบเดียวใช้ได้ทุกการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางหลายระบบ ทำให้ราคาค่าโดยสารเป็นธรรมกับประชาชน และยังลดปัญหาฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ของรถโดยสารสาธารณะ ลดปัญหาการติดขัดจราจร ลดความเหลื่อมล้ำให้พี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม ได้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะของรัฐได้

มีกองทุนตั๋วร่วมช่วยผู้ประกอบการ

นางสาวประภาพร ทองปากน้ำ กล่าวว่าการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน การพัฒนาและการส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพราะการจัดตั้งกองทุนระบบตั๋วร่วม จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาระบบ และช่วยเหลือผู้ประกอบการในการปรับตัว โดยเฉพาะผู้ให้บริการด้านรถเมล์ เรือสาธารณะ ซึ่งจะต้องมีการลงทุนในการปรับปรุงระบบ การจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติทั้งหมด จึงต้องบอกว่า ร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมนี้จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับประชาชน ให้ความสำคัญกับผู้เดินทางเพราะมีการกำกับดูแลมาตรฐานผู้ให้บริการรวมถึงบทลงโทษแก่ผู้ประกอบที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และกฏหมายนี้จะช่วยสนับสนุนจูงใจให้พี่น้องลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวและมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น

ระบบจ่ายเงินอาจเชื่อมพร้อมเพย์หรือดิจิทัลวอลเล็ตได้

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ กล่าวว่ากฏหมายนี้ศูนย์บริการกลาง มีความสำคัญเพราะมีส่วนการในการบริหาร ต้นทุน ค่าใช้จ่าย ของแต่ละระบบขนส่ง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เพราะถ้าเรารู้ว่าผู้โดยสารขึ้นรถเมล์กี่ป้าย เดินทางไปกี่ร้อยเมตรกี่กิโลเมตร ก็สามารถคำนวณออกมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เองไม่เกินความสามารถของระบบที่จัดการได้ และขั้นตอนต่อไปก็อาจไปลิ้งจ่ายชำระเงินได้กับระบบจ่ายเงินอื่นได้เช่น พร้อมเพย์ หรือ ดิจิทัลวอลเล็ตได้ด้วย

ในที่สุด ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงคะแนนเห็นชอบรับหลักการร่างพระราชบัญญัติตั๋วร่วมทั้งสองฉบับ โดยมีจำนวนผู้ลงมติ 371 คน เห็นด้วย 367 คน ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 1 คนและไม่ลงคะแนน 3 คน จากนั้นจึงได้ตั้งคณะกรรมาธิการรวม 31 คน เพื่อพิจารณา ในวาระที่ 2-3 โดยใช้ฉบับของคณะรัฐมนตรีเป็นร่างหลัก ต่อไป

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ค. 67 ค่ารถไฟฟ้า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button