ทนายอั๋น บุรีรัมย์ หอบหลักฐานร้อง กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบ สว.หมอเกศ อีกคำรบ ประเด็น “แขวนใบประกอบ” เบาะแสพิรุธอาจไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ หรือทำงานจริงๆ ในคลีนิก จ.เพชรบุรี
วันนี้ (29 ม.ค.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น” เข้ายื่นหนังสือถึง รมว.สาธารณสุข โดยขอให้ติดตามและกำชับการดำเนินการของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กรณีแพทย์หญิงเกศกมล เปลี่ยนสมัย ซึ่งจากข้อมูลที่นักกฎหมายอ้างว่าำได้รับมานั้น อีกฝ่ายส่อเข้าข่าย “แขวนป้ายหมอ” ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี
ทนายความมที่การพาดพิง โดยอ้างว่า พญ.เกศกมล ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่แพทย์ในคลินิกดังกล่าวแต่เป็นการแขวนชื่อไว้ จึงอยากขอให้ทางสธ. โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเข้าตรวจสอบว่ากรณีนี้เข้าข่ายความผิดใด
ส่วนการที่ สว.หมอเกศมีรายได้จากการเป็นแพทย์ในขณะที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาได้ยื่นเรื่องถึง กกต.ให้มีการตรวจสอบเรื่องคุณสมบัติแล้วด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว “กระทรวงสาธารณสุข” จะตรวจสอบในข้อข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติสถาน พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ข้อบังคับแพทยสภาและประกาศแพทยสภา
การตรวจสอบมี 2 ลักษณะ คือ ประสานสาธารณสุขจังหวัดลงตรวจสอบคลินิกว่ามีการขออนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลถูกต้องหรือไม่
ส่วนตัวของแพทย์หญิงเกศกมล ต้องตรวจสอบว่าเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือไม่ รวมทั้งหากตรวจพบมีการนำป้ายชื่อมาแขวนในคลินิก โดยไม่ใช่แพทย์หลักที่ทำการรักษาตามที่ถูกกล่าวหาแต่ให้บุคคลอื่นบุคคลใดเข้ามาดำเนินการแทน ก็จะถือว่ามีความผิด ซึ่งทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกันเรื่องมีการนำชื่อแขวนในคลินิก โดยที่เจ้าตัวเองไม่ได้อยู่ประจำคลินิกดังกล่าวจะถือเป็นความผิดหรือไม่นั้น ต้องประสานกับแพทยสภาร่วมด้วย โดยบ่ายวันนี้ (29 ม.ค.) จะมีการประสานให้สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีและกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว
ตามข้อมูลของแพทยสภา กรณีแพทย์แขวนป้ายหรือการที่แพทย์นำชื่อตนเองไปให้ใช้เปิดคลินิก โดยที่ตัวเองไม่ได้เข้าไปควบคุมตามกฎหมาย ถือว่ามีความผิดประกาศของแพทยสภา ล่าสุดที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ ก.พ.2568 จะเริ่มตั้งแต่พักใช้ใบอนุญาตฯ 1 ปีทันที หากทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 หรือไปถึงครั้งที่ 3 แปลว่าไม่อยากเป็นแพทย์แล้ว โดยการนำชื่อตัวเองไปให้มีการเปิดคลินิกเถื่อน 3 ครั้งแล้ว ก็จะเพิกถอนใบอนุญาตฯ
ขณะที่ นายกองตรีธนกฤต จิตอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพซึ่งเป็นผู้รับเรื่องแทนได้ให้ข้อมูลจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เมื่อปี 2567 พญ.เกศกมล ยื่นขอลาออกจากการเป็นผู้บริหารของคลินิกดังกล่าวแล้ว แต่จะคาบเกี่ยวห้วงเวลาที่มีการเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่ ต้องให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งจะเป็นผู้ตรวจสอบ.
อ่านข่าวเพิ่มมเติม
- เปิดรายได้ สว.หมอเกศ ทรัพย์สินรวม 126 ล้าน หนี้ 43 ล้าน
- กกต. สั่งสอบเพิ่ม ยังไม่ฟัน หมอเกศ เหตุยังมีประเด็นที่ไม่ชัดเจน
- หมอเกศ ปัดกังวล กกต. สอบปมวุฒิปลอม ยันพร้อมกางหลักฐานแจง
ข่าวล่าสุด
