สื่อสหรัฐ ผวา DeepSeek AI ของจีน เสี่ยงเขย่าเศรษฐกิจาอเมริการ้ายแรง เพราะบ้าแต่โว้ก
สื่อสหรัฐผวา DeepSeek บริษัท AI จีน สร้างความเสี่ยงร้ายแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ พลาดโอกาสเป็นผู้นำเทคโนโลยีไป 4 ปี เพราะนโยบายโว้ก
DeepSeek บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของจีน กำลังเป็นที่กล่าวขานว่าสามารถพัฒนา AI ได้ในราคาที่ถูกกว่าและดีกว่าบริษัทชั้นนำอย่าง Nvidia ของสหรัฐฯ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Nvidia ร่วงลงกว่า 16 ล้านล้านบาท และดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 3% ภายในช่วงเช้าวันจันทร์
คอลัมนิสต์ของสำนักข่าวนิวยอร์กโพสต์ ระบุว่า ผู้เขียนยังคงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับภัยคุกคามของ DeepSeek โดยไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวง แต่เขาไม่เชื่อถือสิ่งใดก็ตามที่มาจากจีน ว่าจะมีศักยภาพตามที่กล่าวอ้างได้จริง
อย่างไรก็ตาม DeepSeek ก็เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนสำหรับภาคธุรกิจและผู้กำหนดนโยบายในรัฐบาลทรัมป์ แม้ว่าโมเดล AI ที่ DeepSeek พัฒนาขึ้นอาจจะยังไม่ดีเท่ากับของอเมริกาในตอนนี้ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ความตั้งใจของจีนที่จะเล่นเกมนี้อย่างจริงจัง เพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ
หากธุรกิจและผู้กำหนดนโยบายของอเมริกาไม่พร้อมที่จะปลดปล่อยศักยภาพของอเมริกาอย่างเต็มที่ พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้
ข่าวดีก็คือ ผู้กำหนดนโยบายในทำเนียบขาวของทรัมป์ เข้าใจถึงภัยคุกคามนี้เป็นอย่างดี รัฐบาลทรัมป์ได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจด้าน AI นำโดย เดวิด แซคส์ เพื่อปรับลดภาระด้านกฎระเบียบที่รัฐบาลไบเดนเคยบังคับใช้ ซึ่งรัฐบาลไบเดนมีความกังวลว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในทุกๆ ด้านของการจ้างงาน
แน่นอนว่า เมื่ออัลกอริทึมสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่ามนุษย์ทั่วไปถึง 500 เท่า ย่อมต้องมีการโยกย้ายแรงงานบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือ มนุษย์ยังคงจำเป็นในการสร้าง AI ผลิตชิปที่ใช้สำหรับ AI และในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จะเติบโตและเฟื่องฟู เมื่อ AI นำไปสู่การเพิ่มผลผลิตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
รัฐบาลทรัมป์เข้าใจอีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือ อเมริกากำลังสูญเสียความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีและด้านอื่นๆ อย่างรวดเร็ว เพราะสิ่งที่ทำให้ประเทศนี้ยิ่งใหญ่ นั่นคือ ระบบคุณธรรมนิยม กำลังถูกทำลายโดยการเมืองแบบ “โว้ก” รวมถึงการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานและการเลื่อนตำแหน่ง ที่เรียกว่า DEI (Diversity, Equity, and Inclusion)
แน่นอนว่าไม่มีใครต่อต้านความหลากหลาย แต่ DEI ที่ถูกนำไปปฏิบัติในภาคธุรกิจของอเมริกา กลับทำให้ความสามารถกลายเป็นเรื่องรอง โดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา
ตลอด 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ล้วนสร้างขึ้นบน DEI แม้กระทั่งการแต่งตั้งรองประธานาธิบดี (ตามคำกล่าวของเขาเอง) มันแทรกซึมไปถึงการทำสัญญากับรัฐบาลกลาง ซึ่งกำหนดมาตรฐานเหล่านี้ให้กับบริษัทต่างๆ ว่าการจ้างงานและการเลื่อนตำแหน่งจะต้องดำเนินการบนพื้นฐานของ intersectionality โดยให้ความสำคัญมากกว่าความสามารถ
มีการสร้างอุตสาหกรรม DEI ทั้งหมดขึ้นมาเพื่อบังคับใช้มาตรการที่ไร้สาระและผิดกฎหมายเหล่านี้ แล้วเราได้อะไร? ในฐานะประเทศชาติ เราได้ความแตกแยกทางวัฒนธรรม ในฐานะเศรษฐกิจ เราได้ระบบคุณธรรมนิยมที่อ่อนแอลง ซึ่งกำลังกัดกร่อนความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของเรา ท่ามกลางภัยคุกคามจากจีน
นั่นเป็นเหตุผลที่ทรัมป์ไม่รอช้าที่จะยุติ DEI ในรัฐบาลกลาง และแจ้งเตือนภาคธุรกิจของอเมริกาให้ดำเนินการเช่นเดียวกัน
ทีมงานของทรัมป์เข้าใจดีว่า การเสียเปรียบจีนในการผลิตเสื้อผ้า เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเราแพ้สงครามเทคโนโลยี และแพ้การต่อสู้ด้าน AI ซึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ การบริโภคข่าวสารและความรู้ และการเตรียมความพร้อมทางทหาร เราจะหมดสิ้นความเป็นมหาอำนาจ
DeepSeek คือสัญญาณเตือนว่า หากเราไม่ปลดปล่อยศักยภาพความเป็นอเมริกาอย่างเต็มที่ จีนจะ Deep Six (ทำลาย) เศรษฐกิจสหรัฐฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ม้ามืด DeepSeek AI ทำหุ้น Nvidia ร่วงหนัก สูญเงินเกือบ 6 แสนล้าน
- รู้จัก DeepSeek Ai จากจีน ท้าชน OpenAI อัจฉริยะเกินราคา ถูกและดีมีจริง