กรมอุทยานฯ แจงปมปลูกต้นซากุระ ตอบข้อกังวลหวั่นเกิดเอเลี่ยนสปีชีส์
กรมอุทยานแห่งชาติ ชี้แจงกรณี ปลูกต้นซากุระในไทย ตอบข้อกังวลหวั่นเกิดเอเลี่ยนสปีชีส์ ดำเนินการปลูกไม่ให้อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีปลูกต้นซากุระในประเทศไทย หวั่นว่าจะทำให้เกิดเอเลี่ยนสปีชีส์ ว่า “จากประเด็นดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอชี้แจงความเป็นมาของการดำเนินงานและข้อเท็จจริง ดังนี้
1. จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ขอให้รัฐบาลไทยเปิดสถานกงสุลใหญ่เพิ่มเติม ณ เมืองฟุกุโอกะ เนื่องจากมีการติดต่อค้าขายกับประเทศไทยเป็นจำนวนมากและให้เกิดความสะดวกต่อการค้า แต่ยังไม่มีสถานกงสุล ณ บริเวณดังกล่าว
ทางรัฐบาลไทยจึงได้จัดตั้งสถานกงสุลขึ้นที่จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ทางจังหวัดฟุกุโอกะโดยรัฐบาลญี่ปุ่น จึงมีความประสงค์มอบต้นซากุระ ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1,000 ต้น เพื่อนำมาปลูกเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติในพื้นที่สูงที่มีอากาศเย็นและมีความเหมาะสม เป็นการขอบคุณให้แก่รัฐบาลไทยและแสดงถึงความสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น โดยจะมีการนำมาเริ่มทดลองปลูกเบื้องต้น จำนวน 200 ต้น เพราะการนำต้นซากุระเข้ามาปลูกในประเทศไทยจำเป็นต้องมีการศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปลูก เนื่องจากซากุระเป็นพืชที่ต้องปลูกในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ในพื้นที่ละติจูดที่สูง และมีความสูงจากระดับทะเลปานกลางมากกว่า 1,000 เมตร รวมถึงมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างต่ำหรือมีอากาศหนาวเย็นติดต่อกันอย่างน้อย 2 เดือน และเป็นพืชที่ต้องการแสง ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ร่มหรือภายใต้เรือนยอดไม้อื่น ดังนั้น การปลูกต้นซากุระจึงควรปลูกในพื้นที่เปิดโล่ง ทั้งนี้ เพื่อให้การศึกษาการปลูกต้นซากุระเป็นไปด้วยความเหมาะสม จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาและขับเคลื่อนการปลูกต้นซากุระเพื่อเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติขึ้น
2. ในการประชุมของคณะทำงานฯ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 13.30 – 16.30 น. ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ชี้แจงในที่ประชุม ว่าไม่สมควรนำต้นซากุระไปทดลองปลูกในพื้นที่อนุรักษ์ เนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้กำหนดนโยบายการจัดการอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ให้มีการควบคุมและจัดการพืชต่างถิ่น (Exotic species) ไม่ให้เกิดการะบาดหรือแพร่กระจายเข้าไปในระบบนิเวศธรรรมชาติ และเพื่อให้การศึกษาการปลูกต้นซากุระเป็นไปด้วยความเหมาะสม จึงมีการกำหนดพื้นที่ในการดำเนินการปลูกไม่ให้อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ โดยเลือกบริเวณพื้นที่ดังนี้
1. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
2. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (แม่จอนหลวง)
3. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ (เป็นพื้นที่ในการอนุบาลกล้าซากุระและพื้นที่ปลูก)
4. พื้นที่ในบริเวณชุมชนหมู่บ้านม้งดอยปุย ซึ่งไม่ได้เป็นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
ดอยสุเทพ – ปุย (ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาหารือความเหมาะสมสำหรับการปลูก) และ
5. โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ตามพระราชดำริ ในพื้นที่ภาคเหนือ (ดอยอินทนนท์) จังหวัดเชียงใหม่ (เป็นพื้นที่ในการอนุบาลกล้าซากุระเท่านั้น) เนื่องจากต้นซากุระจะถูกนำส่งมาด้วยวิธีการเปลือยราก จึงจำเป็นต้องพักฟื้นและอนุบาลกล้าเป็นระยะเวลา 6 เดือน
กรมอุทยานฯ ขออภัยหากการสื่อสารที่ผ่านมาก่อให้เกิดความกังวลใจแก่ประชาชน และยืนยันว่าจะดำเนินโครงการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มขับส่งลูกสิงโตงานเข้า กรมอุทยานเข้าสอบแล้ว โทษทั้งจำทั้งปรับ
- บินฮอไล่ช้างป่าภูกระดึง ดราม่าสนั่นกรมอุทยานฯ เลือกทำสัตว์แตกตื่น แทนที่จะเข้มงวดนทท.
- พารู้จัก ‘ลายเซ็นฉลาม’ ในคลิปไวรัล ที่แท้เป็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สะท้อนความชอบ