ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี มอบ 5 หมื่น ผู้แจ้งเบาะแสลอบเผาป่า จับรายแรกของจังหวัด
เคสตัวอย่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบเงินรางวัลนำจับ 50,000 บาทแก่ผู้แจ้งเบาะแสลอบเผาป่า ผู้ถูกจับกุมถือเป็นรายแรกของกาญจนบุรี หลังจากพ่อเมืองประกาศคำสั่งห้ามเผาโดยเด็ดขาดทุกพื้นที่
นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมมอบเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้แจ้งเบาะแสการลักลอบเผาป่าจนนำมาสู่การจับกุมและดำเนินคดี นายอุดมพล ชาว ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากการเผาพื้นที่ มีนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รอง ผวจ.กาญจนบุรี ร่วมเป็นสักขีพยาน
การมอบรางวัลนั้นสืบเนื่องมาจาก เมื่อ 25 ม.ค.68 นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งพลเมืองดีว่า พบบุคคลกำลังใช้เลื่อยตัดไม้ รวมถึงเผาหญ้าและกิ่งไม้ที่บริเวณป่าไร่ยูคาลิปตัส ท้องที่หมู่ 7 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
นายสมบูรณ์จึงเร่งสั่งการให้ว่าที่ร้อยตรีธนายุทธ พินิจมนตรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส.ร้อย อส.อ. เมืองกาญจนบุรี ที่ 2 รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเป็นชาย ชาว ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 1 ราย
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางพร้อมกับคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมรายดังกล่าวถือว่าเป็นรายแรกของจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากที่นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประกาศเรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2568 ลงวันที่ 16 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สำหรับปัญหาไฟป่าของจังหวัดกาญจนบุรี วันนี้เราได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีคือท่านวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านได้เข้ามาพบและได้พูดคุยกันว่าท่านมีความตั้งใจที่จะตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อมอบเงินรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุมตัวดำเนินคดี เบื้องต้นท่านได้ตั้งกองทุนเอาไว้แล้วประมาณ 50,000 บาท ซึ่งวันนี้เราได้มอบรางวัลให้กับพลเมืองดีรายแรกของจังหวัดกาญจนบุรีที่แจ้งเบาะแสเข้ามาจนนำไปสู่การจับกุมตัวดำเนินคดี
ด้าน นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนไปถึงประชาชนชาวกาญจนบุรีในทุกพื้นที่ว่า หากท่านพบผู้กระทำผิดลักลอบเผาป่า เผาขยะ เผาพื้นที่การเกษตร ทั้งกลางคืนรวมถึงที่โล่งแจ้ง ท่านสามารถแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานราชการได้ทั้ง 13 อำเภอ หากแจ้งเบาะแสเข้ามาแล้วนำไปสู่การจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่นั้นๆดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด ท่านก็จะได้รับรางวัลนำจับในทันที ซึ่งทางท่านวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี ให้ความสำคัญเกี่ยวการเผาเป็นอย่างมาก เพราะการเผาเป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวกาญจนบุรีและจังหวัดข้างเคียง
ขณะที่ นายวิเชียร เจนตระกูลโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นผมได้ตั้งกองทุนเป็นเงินรางวัลมอบให้กับผู้แจ้งเบาะแสการเผาป่าจนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี จำนวน 50,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้เรียนกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีว่าจะมอบเงินรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสในอัตราที่เหมาะสม ที่ผมทำไปก็เพื่อหวังให้เป้นกรณีตัวอย่าง ซึ่งจะส่งผลทำให้ยอดจำนวนการลับลอบเผาป่าหรือเผาพื้นที่ทางการเกษตรให้ลดลง เพื่อสุขภาพที่ดีของชาวกาญจนบุรีและพื้นที่จังหวัดข้างเคียง
ทั้งนี้ บทลงโทษของผู้ลักลอบเผานั้น อ้างอิงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 วรรคแรก ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท
และมาตรา 25 วรรคสี่ แห่งพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 การกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ.
อ่านข่าวเพิ่มมเติม
- มท.4 ผุดไอเดีย ป้ายรถเมล์ติดแอร์ สู้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โต้ปมใช้งบ 140 ล้าน
- สาวโคราชใจถึง แปะ ผ้าอนามัย ประชดฝุ่น PM 2.5 ลั่น แค่แมสมันเอาไม่อยู่
- โต้ถลุงงบ 140 ล้าน ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี สุริยะ ยันช่วยลดฝุ่น PM2.5 ได้จริง
- ไฟป่าดงพญาเย็น ดับแล้ว หลังลาม 10 วัน เผาพื้นที่ 1.7 พันไร่