เปิดข้อมูลสู้โคนัน ทำไมศพเน่า ดูเหมือนศพที่ได้รับบาดเจ็บ ไขกระจ่างคดีแตงโม
เพจดัง ‘อีซ้อขยี้ข่าว’ งัดข้อมูลทางวิชาการ จากแพทย์นิติเวช ไขคดีแตงโม กระจ่างชัด “ทำไมศพเน่า ถึงดูเหมือนศพที่ได้รับบาดเจ็บ” โต้กลับเหล่าชาวเน็ตนักสืบ
กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ สำหรับโพสต์ล่าสุด (24 มกราคม 2568) ของเพจตีแผความจริง อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ที่มีผู้ติดตามกว่า 6.4 แสนคน ซึ่งได้ออกมาเปิดความจริงในคดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ จากมุมมองของแพทย์นิติเวชศาสตร์
เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้หยิบยกข้อความในโพสต์ของ “นาวาตรี นพ.อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย” แผนกนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ที่ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Atthasit Dul-amnuay ว่าด้วยเรื่อง ทำไมศพเน่าจึงดูเหมือนศพที่ได้รับการบาดเจ็บ ? พร้อมแนบข้อความกล่าวถึงกลุ่มชาวเน็ต ที่เห็นต่างจากข้อมูลตามหลักสูตรนิติเวชศาสตร์ โดยโพสต์ดังกล่าวได้ระบุข้อความไว้ดังนี้
“อย่าขัดใจโคนัน ! ในมือ “แตงโม” กำทราย “ทราย” ภาษาอังกฤษ อ่านว่า แซนด์ เป็นหมอนิติเวชได้ยังไง
นาวาตรี นพ.อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย แพทย์นิติเวชศาสตร์ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ไขข้อข้องใจ “ทำไมศพเน่าจึงดูเหมือนศพที่ได้รับการบาดเจ็บ” แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก Atthasit Dul-amnuay ระบุว่า
1. ศพเน่าเต็มที่จากการจมน้ำประมาณ 48 – 72 ชั่วโมง แบคทีเรียจะเจริญเติบโตภายหลังการตายและมีการสร้างก๊าซทั้งภายนอกและภายในลำตัว ศพจึงบวมพองโดยทั่วเหมือนลูกโป่ง (bloating) และมีกลิ่นแรง สภาพจึงเปลี่ยนไปไม่เหมือนศพจมน้ำหรือผีที่เห็นในหนัง…
2. ใบหน้าจะบวมพอง เปลือกตาบวม ตาถลนออกจากเบ้า ลิ้นจุกคับปาก ริมฝีปากเผยอปลิ้นออก เนื่องจากการดันตัวของก๊าซทำให้ดูเหมือนการถูกรัดคอได้ (strangulation)
3. ถุงน้ำ (blisters) ที่เกิดจากการสะสมของเหลวที่เกิดจากการเน่า จะดูบวมพองเหมือนโดนความร้อนได้ พอถุงน้ำเหล่านี้แตกออกก็จะเกิดผิวหนังหลุดลอกตามมา (slippage of skin) เนื่องจากเกิดการเสียดสี ทำให้ดูเหมือนมีบาดแผลถลอกได้ (abrasion)…
4. ผิวหนังของศพเน่าจะเปลี่ยนสีเป็นแดง ม่วง เขียวและดำ (discoloration) ทำให้ดูเหมือนบาดแผลฟกช้ำได้(contusions) และเลือดในเส้นเลือดเปลี่ยนสภาพกลายเป็นลวดลายเหมือนหินอ่อน (marbling) ส่งผลให้ดูน่ากลัวขึ้นไปอีก
5. ของเหลวที่เกิดจากการเน่า (purge fluid) จะไหลออกช่องเปิดต่างต่างของร่างกาย เช่น ปาก จมูก และทวารหนักทำให้ดูเหมือนเลือดได้ด้วยในคนที่ขาดประสบการณ์…
6. ผิวหนังตามธรรมชาติของมนุษย์จะมีรอยพับหรือรอยย่น (skin folds หรือ creases) ซึ่งเมื่อเสียชีวิตแล้วเกิดสภาพเน่าจะพบเห็นรอยพับและรอยย่นชัดขึ้นเป็นแถบสีซีดได้ และมักถูกตีความผิดว่าเป็นรอยมัดจากเชือก (ligature mark)
7. ระหว่างที่ศพลอยอยู่ในน้ำอาจมีการเกิดบาดแผลภายหลังการตายต่างต่างมากมาย จากสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุอื่นอื่นที่มากระทำหรือกระทบกระแทก (postmortem artifacts) เช่น ปลา ปู ตัวเงินตัวทอง เรือ ใบพาย เป็นต้น
8. การเคลื่อนย้ายศพขึ้นจากน้ำทำได้หลายวิธี จากประสบการณ์ส่วนใหญ่จะใช้วิธีใช้เชือกผูกกับศพแล้วลากไปยกขึ้นบนเรือหรือขึ้นบนบก แล้วแต่กรณีกรณีไป เพราะฉะนั้นถ้าเจอเศษเชือกผูกมากับศพก็ไม่แปลก
P.S. ดังนั้นการดูศพเน่าโดยผู้ไม่มีประสบการณ์มากพอมักจะแปลปรากฎการณ์เน่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นบาดแผลที่เกิดการบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายอยู่บ่อยครั้ง…”
ไม่เพียงเท่านั้น ทางเพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ยังได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมไว้ในใต้โพสต์ ในข้อความที่กล่าวว่า “ชาวเน็ตจะรู้ดีกว่าหมอนิติเวชแน่นอนค่ะ โอเค มันคือฆาตกรรม !”, “เรียกร้องความยุติธรรมไม่ผิดแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานแห่งความจริงด้วย ซ้อเชื่อว่ากระบวนการการสืบสวนอาจบิดเบี้ยวจริง แต่สาเหตุการเสียชีวิตอยากให้เชื่อผู้เชี่ยวชาญค่ะ” และ “บางเรื่องถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง บางเรื่องถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ”
ทั้งนี้ หลังเผยแพร่โพสต์ดังกล่าวออกไปไม่นาน บรรดาชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้กันอย่างล้นหลาม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้าใจในมุมของข้อมูลตามวิทยาศาสตร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ปักเชื่อข้อมูลฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- DSI แถลงยืนยัน “คดีแตงโม” ยังไม่รับเป็นคดีพิเศษ อนุมัติสืบสวนแค่ให้อำนาจ
- พี่หนุ่ม กรรชัย เฉลยแล้วทำไมไม่ทำคดีแตงโมต่อ ยืนยันไม่มีใครบงการได้
- แซน วิศาพัช ซัดเดือด รื้อคดีแตงโมตกน้ำ ละครไร้คุณธรรม หลับหูหลับตาจำลอง