เด็กอนุบาลวัย 5 ขวบแอบหอมแก้มเพื่อนขณะนอนหลับ แสดงพฤติกรรมเลียนแบบจากสิ่งที่เห็นในละครและครอบครัว ผู้เชี่ยวชาญแนะพ่อแม่ควรเริ่มสอนเพศศึกษาเบื้องต้นตั้งแต่เล็ก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุการณ์น่าประหลาดใจในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง เมื่อคุณครูพบว่า “น้องถั่วถั่ว” เด็กชายวัย 5 ขวบ แอบเดินไปหอมแก้มเพื่อนผู้หญิงในช่วงนอนกลางวัน เหตุการณ์นี้สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้แก่คุณครูและผู้ปกครอง จนต้องพูดคุยทำความเข้าใจถึงต้นเหตุของพฤติกรรมดังกล่าว
ตามรายงานจากครูผู้ดูแล เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงกลางวัน ซึ่งเด็กอนุบาลมักจะพักผ่อนหลับนอนหลังมื้ออาหารเป็นเวลา 2 ชั่วโมง คุณครูจะคอยดูแลให้เด็ก ๆ เข้าที่นอน ห่มผ้า และจัดการเด็กที่ส่งเสียงดังหรือลุกเดิน แต่น้องถั่วถั่วเป็นเด็กที่ไม่ค่อยยอมนอนกลางวันและได้รับข้อยกเว้นเป็นพิเศษ เขามักหยิบของเล่นมาเล่นเองอยู่เสมอ แม้จะถูกตักเตือนหลายครั้ง แต่เนื่องจากไม่ได้รบกวนเพื่อน ครูจึงปล่อยผ่านไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง ครูได้ยินเสียงผิดปกติ จึงลุกไปตรวจสอบและพบว่าน้องถั่วถั่วลุกจากที่นอน เดินย่องไปหาเพื่อนผู้หญิง และแอบหอมแก้มเพื่อน เมื่อถูกจับได้ น้องถั่วถั่วถึงกับหน้าแดง ส่วนครูก็รีบพาเด็กชายออกมาพูดคุย พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้มารับทราบเรื่องราว
เบื้องหลังพฤติกรรมที่เกิดขึ้น
หลังจากพูดคุยกับผู้ปกครอง พบว่าสาเหตุของพฤติกรรมเลียนแบบนี้มาจากการที่น้องถั่วถั่วซึมซับพฤติกรรมจากสิ่งที่เห็นในละครและครอบครัว โดยแม่ของน้องถั่วถั่วมักเปิดละครที่มีฉากใกล้ชิดระหว่างชายหญิง และน้องมักนั่งดูด้วยความสงสัย เมื่อถามว่า “พวกเขากำลังทำอะไร” แม่มักตอบอย่างลวกๆ ว่า “กำลังเล่นเกมกัน” และรีบเบี่ยงเบนความสนใจลูกด้วยการให้เล่นโทรศัพท์
นอกจากนี้ น้องถั่วถั่วยังคงนอนร่วมเตียงเดียวกับพ่อแม่ ซึ่งบางครั้งผู้ใหญ่แสดงความใกล้ชิดต่อกัน โดยเข้าใจว่าลูกหลับแล้ว แต่แท้จริงน้องยังตื่นและรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมด พฤติกรรมของผู้ใหญ่ในบ้านจึงถูกเลียนแบบโดยไม่รู้ตัว
เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าพ่อแม่หลายคน โดยเฉพาะในสังคมเอเชีย มักหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องเพศศึกษาเพราะมองว่าเป็นเรื่องน่าอายหรือไม่เหมาะสม แต่การปิดบังข้อมูลหรือให้คำตอบที่ไม่ชัดเจนอาจส่งผลเสียต่อความเข้าใจของเด็กในระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า พ่อแม่ควรเริ่มต้นให้ความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาแก่ลูกตั้งแต่ยังเล็ก เช่น สอนให้ลูกรู้ว่าร่างกายเป็นของเขาเอง และไม่มีใครมีสิทธิ์แตะต้องร่างกายโดยไม่ได้รับอนุญาต เด็กควรเข้าใจว่าการสัมผัสตัวสามารถเกิดขึ้นได้ในบางกรณี เช่น การตรวจร่างกายโดยแพทย์ที่มีพ่อแม่อยู่ด้วย แต่ไม่มีใครควรแตะต้องอวัยวะเพศของเขาอย่างเด็ดขาด
การให้ความรู้เหล่านี้ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก เช่น การใช้หนังสือภาพประกอบหรือคำอธิบายง่าย ๆ เพื่อให้เด็กเข้าใจและป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบที่ไม่เหมาะสมในอนาคต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชายวัย 35 อ้วกเป็นเลือด 2 ลิตร หลอดอาหารฉีกขาด สาเหตุจากสิ่งที่คนชอบกินช่วงตรุษจีน
- ยังไม่หมด ทรัมป์ สั่งปลดเจ้าหน้าที่ DEI ยกชุด ตอกย้ำเลิกสนับสนุน LGBTQ+
- ชายมะกันเผย แฟนสาวขี้หึง บังคับให้เลือก “เธอ หรือ แมว” ก่อนได้คำตอบสุดช็อก
อ้างอิง: SohaVN
ข่าวล่าสุด
