สธ. เตือน ห้ามดื่มนมดิบ หลังเจอ ไข้หวัดนก ระบาดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สธ. ห่วง “ไข้หวัดนก” กลายพันธุ์ หลังพบระบาดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ยกระดับเฝ้าระวังเข้ม หวั่นแพร่เชื้อสู่คน แนะเลี่ยงสัมผัสสัตว์ป่วย-ตาย เตือน งดดื่มน้ำนมดิบ ย้ำเชื้อจากกัมพูชารุนแรง อัตราตายสูงถึง 50%
วันที่ 23 มกราคม 2568 พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค จัดแถลง ณ กระทรวงสาธารณสุข รายงานถึงสถานการณ์ “โรคไข้หวัดนก” ว่า ขณะนี้มีสัญญาณเตือนที่ต้องเฝ้าระวัง จากเดิมที่พบการระบาดในสัตว์ปีก แต่ปัจจุบันพบการระบาดของไข้หวัดนก H5N1 ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วย เช่น โคนม เสือ และหมู ซึ่งเป็นข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่า ไวรัสมีการปรับตัวให้สามารถก่อโรคในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้
สำหรับในประเทศไทย มีการยกระดับการเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดนก โดยจากเดิมที่เน้นการเฝ้าระวังในผู้ป่วยที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ และมีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก แต่ปัจจุบันจะขยายการเฝ้าระวังไปยังผู้ที่มีประวัติสัมผัสฟาร์มโคนม และมีสัตว์ป่วยตายผิดปกติ โดยได้แจ้งไปยังกรมปศุสัตว์แล้ว ส่วนการท่องเที่ยวฟาร์มสัตว์ หรือการสัมผัสสัตว์นั้นยังสามารถทำได้ แต่ต้องมีการป้องกันตัวเอง
ทาง พญ.จุไร ยังได้เน้นย้ำถึงรายงานจากสหรัฐอเมริกา ที่พบเกษตรกรในฟาร์มโคนมติดเชื้อไข้หวัดนก ดังนั้นจึงขอให้ประชาชน หลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำนมดิบ ควรดื่มนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์แล้วเท่านั้น
ทั้งนี้ ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ไข้หวัดนกมีหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่พบในสหรัฐฯ นั้น ผู้ป่วยมักมีอาการไม่รุนแรง แต่ล่าสุดพบผู้เสียชีวิต 1 รายที่รัฐลุยเซียนา ขณะที่สถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา พบว่าเมื่อติดเชื้อแล้ว อาการค่อนข้างรุนแรง ซึ่งประเทศไทยอยู่ใกล้กับกัมพูชา และเชื้อที่กัมพูชานั้นแรง อัตราการเสียชีวิตสูงถึง 40-50% จึงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะต้นปีนี้ กัมพูชามีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไข้หวัดนก ยังไม่ปรับยกระดับเตือนภัย
- สื่อนอกเผย เสือ 20 ตัวในวอร์ชิงตัน เสียชีวิต ติดไข้หวัดนก ในเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์
- พบผู้ป่วยไข้หวัดนก H5N1 ป่วยรุนแรง รายแรกของสหรัฐฯ