การเงินเศรษฐกิจ

เงินดิจิทัลเฟส 3 ไม่ทำตามนี้ มีสิทธิอดได้เงิน 10000

เช็กเลย เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 หากแจกผผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน ต้องทำอย่างไร คาดระบบเสร็จ ก.พ.-มี.ค. 68

กระทรวงการคลังเตรียมความพร้อมการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไป ณ ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพัฒนาระบบดิจิทัลคาดการณ์ว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2568 จากนั้นจะมีการทดสอบระบบว่า สามารถใช้งานได้สมบูรณ์หรือไม่

Advertisements

หลังจากที่รัฐบาลได้เงินแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทในเฟสที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่าปัญหาที่หลายคนมักจะเจอเกี่ยวกับบัญชีธนาคารรับเงินไม่ถูกต้องจึงไม่สามารถรับเงิน 10,000 บาท ฉะนั้น กระทรวงการคลังจึงแนะนำวิธีการตรวจสอบบัญชีอย่างไรให้สามารถรับเงินดิจิทัลได้

สำหรับท่านที่กำลังรอรับเงิน 10,000 บาทในเฟส 3 และอยากเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับเงิน และไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเรื่องการรับเงินในอนาคตสามารถตรวจสอบบัญชีรับเงินเบื้องต้นได้ หากรัฐบาลแจกเงินผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ต้องทำอย่างไรบ้าง

1. ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก

2. บัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินต้องมีการเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะไม่สามารถใช้รับเงินได้

3. เลขบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินไม่ถูกต้อง

Advertisements

4. หากบัญชีธนาคารถูกปิด สามารถติดต่อสอบถามหรือแก้ไขได้ที่สาขาธนาคาร

5. ต้องมีเงินในบัญชีธนาคาร

สำหรับการแจกเงินดิจิทัลในเฟสที่ 3 นั้น คาดการณ์ว่าเงิน 10,000 บาทจะถึงประชาชนในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2568 ซึ่งการแจกเงินในรอบกลุ่มเปราะบางเฟสที่ 1 และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเฟสที่ 2 มีการโอนเงินรอบเก็บตกอีก 3 รอบ โดยผู้รับเงินต้องเร่งแก้ไขบัญชีให้ทันกำหนดการ มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ประสงค์จะรับเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และถูกตัดสิทธิอัตโนมัติ

ส่วนการแจกเงินเฟสที่ 3 นั้นยังไม่มีประกาศแน่ชัดว่า จะมีการโอนเงินรอบเก็บตกหรือไม่ ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลอีกครั้ง

เงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ระบบเสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2568

ใครมีสิทธิรับเงินดจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 บ้าง

กระทรวงการคลังเปิดคุณสมบัติและเงื่อนไขผู้สูงอายุที่มีสิทธิรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติใดบ้าง

  1. ผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวันที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ

2. ผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

3. มีรายได้ไม่เกิน 70,000 บาทต่อเดือน

4. มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566

5. มีเงินฝากในสถาบันการเงินเฉพาะกิจและธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ เงินฝากออมทรัพย์, บัตรเงินฝาก, เงินฝากประจำ และใบรับฝากเงิน รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ในวันที่ 31 มีนาคม 2567

6. เป็นบุคคลที่ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC ผ่านแอปฯ ทางรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

7. ไม่ใช่บุคคลต้องห้ามที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ 4 ประเภท ได้แก่ นักโทษเด็ดขาด ผู้ต้องขังระหว่าง ผู้ต้องกักขัง และผู้ต้องกักกัน ตามฐานข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567

8. ไม่เป็นบุคคลที่ถูกระงับสิทธิ, ถูกเรียกเงินคืน หรือ ฝ่าฝืนกฎ ในมาตรการของรัฐบาล

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button