จีนประหาร ครูต่างชาติผิวดำ ฆ่าแฟนนศ.ดับ โกรธถูกบอกเลิก จับได้มีเมียแล้ว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศจีนเปิดกว้างต้อนรับชาวต่างชาติมากขึ้น คนจีนจำนวนมากคุ้นเคยกับชาวต่างชาติ และมักมองว่าชาวต่างชาติแม้จะมีรูปร่างหน้าตาที่ดูน่าเกรงขาม แต่แท้จริงแล้วเป็นคนที่เป็นมิตร อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเรื่องของบุคลิกภาพส่วนบุคคล ไม่ควรเหมารวมและตัดสินชาวต่างชาติจากภายนอก เพราะในความเป็นจริงแล้ว ก็เคยเกิดคดีอาชญากรรมร้ายแรงโดยชาวต่างชาติในประเทศจีนเช่นกัน
ย้อนกลับไปในปี 2564 เกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ครูชาวต่างชาติผิวสีชาวอเมริกัน ก่อเหตุฆาตกรรมแฟนสาวชาวจีนอย่างโหดเหี้ยม คดีนี้มีการพิจารณาคดีต่อสาธารณชนอย่างเปิดเผย แม้จะใช้เวลานาน แต่ในที่สุดเดือนเมษายน 2565 ศาลก็ได้ตัดสินประหารชีวิตฆาตกรโหดรายนี้
จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมนี้ เกิดขึ้นในปี 2562 “เฉิน หว่านถิง” นักศึกษาสาววัย 20 ต้นๆ ได้รู้จักกับ “ชาดีด อับดุลมาทีน” (Shadeed Abdulmateen) ครูสอนภาษาอังกฤษชาวอเมริกันผิวสี ที่เพิ่งเข้ามาสอนในมหาวิทยาลัย ทั้งสองต่างรู้สึกดึงดูดกันและพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นคนรัก
ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากคำโกหกย่อมไม่มีทางยั่งยืน ชาดีดปิดบังความจริงที่ว่าเขาแต่งงานมีลูกแล้ว เขาแสร้งทำตัวเป็นโสดตลอดระยะเวลา 2 ปีที่คบหากับเฉิน หว่านถิง
ในที่สุดความจริงก็ถูกเปิดเผย เฉิน หว่านถิง ค้นพบความจริงโดยบังเอิญ เธอตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยรักความถูกต้อง เธอจึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์และขอเลิกกับชาดีด
ชาดีดไม่ยอมรับการเลิกรา เขาพยายามตามตื้อ คุกคามเฉิน หว่านถิง หวังจะรั้งเธอไว้ แต่การกระทำของเขากลับยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวและยืนยันที่จะตัดขาดความสัมพันธ์
จนกระทั่งวันที่ 14 มิถุนายน ชาดีดนัดเฉิน หว่านถิง ออกมาพูดคุย บริเวณป่าละเมาะเล็กๆ นอกมหาวิทยาลัย เฉิน หว่านถิง ไม่รู้เลยว่าสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่ปลิดชีวิตเธอ
เมื่อพบกัน ชาดีดค่อยๆ หลอกล่อเธอเข้าไปในป่าลึก ก่อนจะชักมีดออกมาแทงเข้าที่หลอดเลือดแดงบริเวณลำคอของเธอ เฉิน หว่านถิง พยายามดิ้นรนหนี แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสและเสียเลือดมาก เธอจึงหมดแรงล้มลง
แต่ความโหดเหี้ยมของชาดีดยังไม่สิ้นสุด เขายังคงใช้มีดแทงซ้ำเข้าที่ใบหน้าของเธออย่างบ้าคลั่งจนใบหน้าเละเทะจำเค้าเดิมไม่ได้ จนกระทั่งเธอสิ้นใจ ชาดีดจึงหยุดและเดินจากไป ทิ้งร่างไร้วิญญาณของเธอไว้กลางป่า พร้อมกับปริศนามากมาย
คำให้การสุดเหี้ยม! “ถ้าฉันไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้”
ตำรวจเร่งสืบสวนคดีนี้อย่างรวดเร็ว หลักฐานทั้งหมดชี้ไปยังชาดีด เขาถูกจับกุมและยอมรับสารภาพ สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือคำให้การของเขาในคุก เขาบรรยายถึงเฉิน หว่านถิง ว่าเป็นผู้หญิงที่ “ขี้อายและถูกหลอกง่าย” ยังกล่าวอีกว่า “ถ้าฉันไม่ได้เธอ คนอื่นก็ต้องไม่ได้ เธออยากเลิกกับฉันเอง ถ้าเธอจากฉันไป งั้นก็ตายกันไปทั้งคู่”
คำพูดที่บิดเบี้ยวเหล่านี้สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาชี้ว่า ความคิดที่เห็นแก่ตัวอย่างสุดโต่งของชาดีดนั้นเป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง
ศาลตัดสินประหารชีวิต บทสรุปของความยุติธรรม
ศาลพิจารณาคดีนี้อย่างเปิดเผย เชิญตัวแทนประชาชน คณะกรรมการที่ปรึกษาทางการเมือง และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมรับฟัง การพิจารณาคดีใช้เวลาสามวัน อัยการนำเสนอหลักฐานจำนวนมาก แม้ทนายความของชาดีดจะพยายามแก้ต่าง แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ชัดเจนได้
ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิตชาดีด คำตัดสินนี้สร้างความสะใจให้กับประชาชน แต่ชาดีดและทนายความไม่ยอมรับคำตัดสินได้ยื่นอุทธรณ์
ศาลสูงมณฑลเจ้อเจียงพิจารณาคดีอุทธรณ์ ฝ่ายจำเลยพยายามหาช่องโหว่ทางกฎหมาย แต่สุดท้ายศาลสูงก็ยืนยันตามคำตัดสินของศาลชั้นต้น พิพากษายืนประหารชีวิตชาดีด
แม้การลงโทษประหารชีวิตไม่อาจชดเชยความสูญเสียได้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ญาติผู้เสียชีวิตและสังคมคาดหวัง คดีนี้เป็นบทเรียนราคาแพง สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาหลายประการ ทั้งความปลอดภัยในสถานศึกษา การคัดกรองครูชาวต่างชาติ และที่สำคัญที่สุดคือการตระหนักถึงความปลอดภัยของตนเอง โดยเฉพาะผู้หญิง
สังคมต้องเรียนรู้ที่จะสังเกตสัญญาณอันตรายและให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โรงเรียนของเฉิน หว่านถิง แม้จะเพิกเฉยในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอมชดเชยและขอโทษ อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักนั้นไม่อาจชดเชยได้ด้วยเงินทอง ดังนั้น นักเรียน ผู้ปกครอง และทุกคนในสังคม ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตนเองเป็นอันดับแรก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “คองโก” เอาจริง ประหารชีวิตนักโทษ 102 คน เตรียมประหารอีก 70
- เฮตินองเลือด หัวหน้าแก๊งสั่งฆ่า คนแก่ 200 ศพ เชื่อวูดูสาปแช่งจนลูกชายป่วย
- ไนจีเรีย เหยียบกันตาย 22 ศพ แย่งข้าว-น้ำมันพืช สลดซ้ำรอยรอบ 3