รองโฆษก ปปง. ชี้ บอสมิน-แซม ต้องพิสูจน์ทรัพย์ที่ถูกอายัดในคดีดิไอคอน แม้อัยการจะสั่งไม่ฟ้องคดีก็ตาม เพราะเป็นคนละส่วนกัน
วันนี้ (9 ม.ค.) น.ส.สุปราณี สถิตชัยเจริญ รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ระบุถึงกรณี ปปง. เคยใช้อำนาจยึด-อายัดทรัพย์ผู้ต้องหาคดีดิไอคอน กรุ๊ป ทั้ง 18 ราย โดยมีสองผู้ต้องหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้องแล้วคือ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ บอสแซม ว่า หากต้องการทรัพย์สินที่ถูกอายัดคืน สามารถยื่นคำร้องโต้แย้งทรัพย์ในชั้นศาลแพ่งได้
รองโฆษกปปง. กล่าวว่าเรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2 กรณีคือ คดีอาญาและคดีแพ่ง ซึ่งส่วนที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องข้างต้นนั้น เป็นคดีอาญา ซึ่งเป็นคนละอย่างกับคดีแพ่งเรื่องทรัพย์สิน บอสสองท่านนี้จึงต้องพิสูจน์ในชั้นศาลให้ได้ว่าทรัพย์ที่ถูกยึดอายัดดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือเชื่อมโยงกับธุรกิจดิไอคอน กรุ๊ป แต่อย่างใด
หากถามต่อว่าทาง ปปง. จำเป็นต้องนำความเห็นของอัยการคดีพิเศษมาตรวจสอบหรือไม่ว่าเหตุใดถึงสั่งไม่ฟ้องทั้งสองคนนี้นั้น “สุปราณี” กล่าวว่าในกระบวนการของ ปปง. นั้นสิ้นสุดการยึด-อายัดทรัพย์แล้ว โดยส่งสำนวนรายการทรัพย์สินให้พนักงานอัยการเรียบร้อย เพื่อเสนอขอให้ศาลมีคำสั่งชดใช้เฉลี่ยคืนไปแล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องผลกระทบที่ทาง ปปง. ยึดทรัพย์ผู้ต้องหามาก่อนแล้ว แต่ต่อมาอัยการไม่สั่งฟ้องนั้น สุปราณี ระบุว่า ปปง. ยึดตามกรอบกฎหมาย เพราะมาตรการปราบปรามการฟอกเงินเป็นไปตามหลักสากลเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์เอาไว้ก่อน ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายไปกว่าเดิม รวมถึงผลักภาระให้เจ้าของทรัพย์มาพิสูจน์ทรัพย์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอย่างไร ซึ่งในเคสนี้ต่างกับกระบวนการทางอาญา เนื่องจากส่วนนั้นเจ้าหน้าที่จะต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์
รวมถึงตามหลักการกฎหมายฟอกเงิน ผู้เสียหายที่ประสงค์จะเข้ารับการคุ้มครองสิทธิก็สามารถยื่นคำร้องมาได้เช่นกัน แต่ต้องแสดงหลักฐานชัดเจน เช่น บัตรประชาชน ฯลฯ เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้เสียหายจริงและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด สำหรับคดีดิไอคอนมีขั้นตอนการตรวจสอบที่ยุ่งยากเนื่องจากมีความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงข้อมูลพยานหลักฐานค่อนข้างเยอะ จึงต้องใช้เวลารวบรวมข้อมูล โดยสามารถยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายได้จนถึงวันที่ 17 ก.พ.68
ทั้งนี้ในรายคดีบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวกนั้น “ปปง.” ได้ออกคำสั่งยึด-อายัดทรัพย์สินมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง รวม 103 รายการ มูลค่าประมาณ 286 ล้านบาท และได้มีมติเพิกถอนในเวลาต่อมาจำนวน 40 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 29 ล้านบาท เนื่องจากมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถแสดงหลักฐานว่าทรัพย์สินหรือเงินดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เพราะเป็นทรัพย์ที่ได้มาก่อนเข้าร่วมกระบวนการบริษัท
ส่วนในเคสทรัพย์สินของ “บอสมิน ที่ถูกยึดตามข้างต้นนั้นมีเพียงกระเป๋าเดินทางหลุยส์ 1 ใบ มูลค่า 125,000 บาทเท่านั้น ขณะที่ “บอสแซม” เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1 รายการ มูลค่า 20,000 บาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดสาเหตุ ไม่ฟ้อง บอสมิน-บอสแซม ดิไอคอน รอดคดีฉ้อโกง
- อ่านเต็มๆ อัยการสั่งฟ้องบอสดิไอคอนกรุ๊ป เว้น “บอสมิน-บอสแซม” รอด
- ด่วน! อัยการไม่สั่งฟ้อง ‘บอสมิน-บอสแซม’ ดิไอคอน รอดทุกข้อหา เตรียมปล่อยตัว
ข่าวล่าสุด
