ควบคุมโรค เตือน ตายแล้ว 1 ศพ โคม่า 1 ราย กินก้อยดิบงานบุญบุรีรัมย์
กรมควบคุมโรค เตือนตายแล้ว 1 ศพ โคม่า 1 ราย ป่วยอีกหลายราย กินก้อยดิบงานบุญบุรีรัมย์ แนะประชาชนหากแสดงอาการป่วยรีบพบแพทย์ด่วน
นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ตั้งโต๊ะเปิดเผยว่ามีมีประชาชนเสียชีวิต 1 ศพ ล้มป่วยรายหลาย มีอาการโคม่า 1 ราย จากการรับประทานหมูดิบ ก้อยดิบ ในงานบุญปีใหม่ บริเวณพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
ส่วนที่เหลือที่ยังไม่มีอาการ แต่ยังต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
นพ.ภาณุมาศ กล่าวย้ำว่า โรคไข้หมูดิบเกิดจากการกินเนื้อหมู หรือเลือดหมูสุกๆ ดิบๆ ที่มีเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) ปนเปื้อน โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และเลือดของหมูที่กำลังป่วย
สามารถติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือการสัมผัสเลือดของหมูที่กำลังป่วย เมื่อได้รับเชื้อประมาณ 1-14 วัน ผู้ติดเชื้อจะมีไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง สูญเสียการได้ยิน ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้
นพ.ภานุมาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการป้องกันโรคไข้หมูดิบ คือ 1.รับประทานเนื้อหมู หรือเลือดหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น ผ่านความร้อนอย่างน้อย 60-70 องศาเซลเซียส ในเวลา 10 นาที เป็นอย่างต่ำ 2.อาหารปิ้งย่าง ควรแยกอุปกรณ์ที่ใช้คีบเนื้อหมูดิบและสุกออกจากกัน และขอให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” 3.ไม่ใช้เขียงของดิบและของสุก ผัก หรือผลไม้ร่วมกัน
4.เลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ ไม่ควรซื้อจากแหล่งที่ไม่ทราบที่มาของหมู ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ 5.ไม่สัมผัสเนื้อหมูและเลือดดิบด้วยมือเปล่า โดยเฉพาะ ผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ขณะทำงานควรสวมรองเท้าบูทยาง และสวมถุงมือ หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสหมูทุกครั้ง
6.หากมีอาการป่วย สงสัยโรคไข้หมูดิบ โดยมีไข้สูง ปวดศีรษะ ร่วมกับประวัติเสี่ยง ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที แจ้งประวัติการกินหมูดิบและสัมผัสเนื้อหมูดิบให้ทราบ
ทั้งนี้ หากมาพบแพทย์และวินิจฉัยได้เร็ว ได้รับยาปฏิชีวนะเร็ว จะช่วยลดอัตราการเกิดหูหนวกและการเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่หากติดเชื้อจะมีอาการป่วยรุนแรง เนื่องจากร่างกายมีภูมิต้านทานโรคต่ำ ได้แก่ ผู้ติดสุราเรื้อรัง ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือผู้ที่เคยตัดม้ามออก เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สังเวย 8 ศพ เหยื่อไข้หูดับ ในอีสานใต้ เหตุกินลาบ-ก้อยหมูดิบ
- สาวแชร์อุทาหรณ์ กินหมูกระทะ ตื่นมาหูดับเกือบพิการ แม้ไม่ได้กินหมูดิบ
- หมอเตือน กินลูกปลาช่อน ไม่ช่วยรักษาแผลผ่าคลอด ชี้พยาธิเพียบเสี่ยงมะเร็ง