เจ้าของมูนบาร์ ชี้แจงปมถ่ายรูปบัตรประชาชน ปัดขายข้อมูล ลบภาพทิ้งรุ่งเช้า
![](https://thethaiger.com/th/wp-content/uploads/2025/01/เสี่ยต่อ-มูนบาร์.jpg)
เจ้าของมูนบาร์ ชี้แจงปมถ่ายรูปบัตรประชาชน ปัดขายข้อมูล อธิบายปิดเลขบัตรประชาชน และจะลบข้อมูลทั้งหมดในรุ่งเช้า ยืนยันไม่เกี่ยวเว็บพนัน
จากกรณีร้านเหล้าชื่อดังย่านบางใหญ่ ถูกชาวเน็ตขุดพฤติกรรมถ่ายบัตรประชาชนลูกค้าก่อนเข้าร้าน กังวลว่าการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือนำไปขายให้กลุ่มธุรกิจสีเทา จนนำไปสู่การแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด นายต่อ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเดอะมูนบาร์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ทางร้านได้มีมาตราการการถ่ายบัตรประชาชน โดยได้มอบหมายให้ผู้จัดการรับผิดชอบ
1.จะถ่ายได้ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ หากผู้ใช้บริการไม่ยินยอม ทางร้านได้กำชับผู้จัดการและพนักงาน ห้ามถ่ามรูปโดยเด็ดขาด และไม่อนุญาตให้เข้ามาใช้บริการ ภายในร้านโดยเด็ดขาด
2.การถ่ายรูป ผู้จัดการและพนักงานต้องทำด้วยความสุภาพ โดยถ่ายด้านหน้า ปิดเลขบัตรประชาชน ห้ามถ่ายด้านหลัง จากนั้นให้ถ่ายรูปใบหน้าผู้มาใช้บริการ โดยแยกจากบัตรประชาชนอย่างเด็ดขาด
3.ได้กำชับให้ผู้จัดการและพนักงานลบข้อมูลทั้งหมดในวันรุ่งขึ้น หากไม่มีเหตุที่ทางสถานีตำรวจภูธรอำเภอบางใหญ่ และอำเภอบางใหญ่ ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องมาขอข้อมูล ซึ่งกรณีดังกล่าวทางร้านได้กำชับอย่างเข้มงวด
ในการบันทึกข้อมูลดังกล่าวเป็นการบันทึกข้อมูลของผู้มาใช้บริการ โดยได้รับความยินยอมจากผู้มาใช้บริการ โดยไม่ถ่ายเลขบัตรประชาชน ไม่ถ่ายด้านหลังบัตรประชาชน และไม่ถ่ายบัตรประชาชนคู่กับใบหน้า ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดภายในร้าน ไม่ว่าเหตุใดก็ตาม รวมทั้งช่วยป้องกันปัญหาเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี ที่อาจจะนำบัตรประชาชนของผู้อื่นมาใช้บริการ
นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันและปราบปรามผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อาทิ อาจจะมีผู้เสพภายในร้าน ซึ่งแม้ว่าร้านจะเพิ่มแสงสว่าง มีกล้อง CCTV มีการประจำหน้าร้าน ทั้งชายและหญิง แต่จากกล้อง CCTV ไม่สามารถทราบได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร ทางร้านจำเป็นต้องนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ โดยได้รับความยินยอมจากผู้มาใช้บริการ นำข้อมูลดังกล่าวแจ้งให้กับสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่มาควบคุมตัวเพื่อไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และกรณีที่ทางร้านได้รับการประสานข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องหรือเสี่ยงกับกระทำความผิดยาเสพติดจากสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ หรืออำเภอบางใหญ่ หรือทาง ป.ป.ส. ทางร้านจะนำข้อมูลดังกล่าวในการตรวจสอบว่ามาใช้บริการกับทางร้านหรือไม่ หากตรวจสอบพบข้อมูลที่ทางร้านได้บันทึกไว้โดยได้รับความยินยอมจะรีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับตัวไปดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ส่วนในกรณีที่มีข่าวกล่าวหาว่าร้านบังคับให้ลูกค้าถ่ายรูปพร้อมชูบัตรประชาชนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยทางร้านจะถ่ายแยกกันระหว่างภาพลูกค้าและภาพบัตรประชาชน ทั้งนี้การถ่ายจะต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อนทุกครั้ง อีกทั้งยังมีการปิดข้อมูลสำคัญ เช่น เลขบัตรประชาชน
ส่วนประเด็นที่มีข่าวลือว่าร้านนำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าไปขายนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และร้านได้ศึกษากฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อย่างรอบคอบ อีกทั้งปรึกษาทนายความเพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการต่างๆ เป็นไปตามกฎหมาย โดยภาพถ่ายและข้อมูลบัตรประชาชนของลูกค้าจะถูกลบทุกวันในเวลา 12.00 น. หากวันนั้นไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นหรือไม่มีการแจ้งความเกี่ยวกับเหตุการณ์ใดๆ
กรณีลูกค้าร้องเรียนว่าโทรศัพท์มือถือหาย 2 เครื่อง นั้นว่า วันเกิดเหตุลูกค้าก็ได้เดินทางมาใช้บริการร้านโดยเข้ามาประตูด้านหลัง มีการขออนุญาตก่อนถ่ายบัตรประชาชน และถ่ายรูปก่อนเข้าร้าน จากนั้นก็ได้เข้าไปใช้บริการตามปกติ ช่วงดึกๆลูกค้าได้เดินมาแจ้งว่าโทรศัพท์มือถือหาย 2 เครื่อง ทางพนักงานก็ได้ให้นักดนตรีประกาศตามหาโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องแล้ว แต่ไม่พบ ทางลูกค้าก็ได้เดินมาหาอีกทีพร้อมทุบโต๊ะ ลักษณะโวยวาย มีการโต้เถียงกับพนักงานร้านก่อนจะแสดงอาการไม่พอใจ ใช้มือทุบโต๊ะแคชเชียร์อย่างดัง ทำให้ไอแพดของตน 1 เครื่องตกหล่นพื้นได้รับความเสียหาย
ต่อมาพนักงานได้เดินออกไปบริเวณหน้าประตูทางเข้าของร้านเพื่อไปตามการ์ดให้มาช่วยควบคุมสถานการณ์ แต่ปรากฏว่าทางลูกค้าก็เดินปรี่ตามพนักงานร้านมา จากนั้นมีการพูดคุยโต้เถียงกันจนกระทั่งลูกค้าทำมือลักษณะจะง้างตบพนักงาน ทางการ์ดก็ได้มาห้ามทั้ง 2 คน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่านี้ขึ้น ซึ่งคาดว่าร่องรอยที่ทางลูกค้านำมาโพสต์อาจจะเป็นรอยเล็บที่การ์ดเข้าไปช่วยกันห้ามแล้วอุ้มพาลูกค้าออกจากร้าน และหลังจากนั้นลูกค้าก็ได้โทรศัพท์คืนทั้ง 2 เครื่อง โดยเพื่อนเป็นคนเอามาให้ คาดว่าอาจจะเมาจำไม่ได้ว่าโทรศัพท์อยู่ที่ใคร ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงโซเชียลและไปแจ้งความ ทางร้านกับลูกค้ายังไม่มีการพูดคุยหรือเจรจาแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของเพจดังต่างๆที่มีการนำข้อมูลเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ในส่วนนี้ทางร้านอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลปรึกษาทนาย หากข้อมูลนั้นตรวจสอบแล้วสามารถเอาผิดได้ก็จะดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับเพจดังกล่าวต่อไป ทั้งชั้นสถานีตำรวจ และศาล เพื่อบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป หากไม่พบความผิดทางร้านก็จะไม่ดำเนินคดี
ส่วนในประเด็นที่มีข่าวว่า ร้านขายเหล้าเบียร์ปลอม และมีการมั่วสุมยาเสพติดในห้องน้ำ นายต่อยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยร้านมีมาตรการเข้มงวด เช่น การ์ดประจำบริเวณห้องน้ำและกล้องวงจรปิดที่ครอบคลุมพื้นที่ทางเดิน
นายต่อ ปฏิเสธหลังถูกกล่าวหาว่าร้านจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ โดยยืนยันว่าร้านไม่เคยมีเจ้าหน้าที่มาเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด
สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับเว็บพนันนั้น นายต่อยืนยันว่าร้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่สนับสนุนการพนันออนไลน์ เนื่องจากถือว่าเป็นการทำลายเยาวชนและสังคม รวมถึงประเด็นยาเสพติดที่มีข่าวว่ามีการมั่วสุมในห้องน้ำนั้น ทางร้านตนมีมาตรการอยู่แล้ว จะมีการ์ดหญิงและชาย คอยเดินเช็คประจำที่ห้องน้ำอยู่ 2 คน รวมถึงมีกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องน้ำบริเวณทางเดิน ปัจจุบัน ร้าน “เดอะมูนบาร์” ได้ปิดปรับปรุงชั่วคราวเป็นเวลา 5 วัน หลังพูดคุยกับนายอำเภอเพื่อปรับปรุงมาตรการต่างๆ ให้เหมาะสมมากขึ้น
นายต่อ กล่าวทิ้งท้ายว่า หากร้านทำผิดในเรื่องใดก็พร้อมยอมรับผิดตามกฎหมาย และขอโทษสังคมสำหรับข้อผิดพลาดที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าร้านจะไม่แจ้งความลูกค้าหรือดำเนินคดีใดๆ หากไม่ได้รับความเสียหายที่ชัดเจน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลูกค้าร้านเหล้าบางใหญ่ รุดแจ้งความ ปมถูกถ่ายบัตร ปชช.-ขายข้อมูลส่วนตัว
- เพจดัง ขุดหลักฐาน ร้านเหล้าบางใหญ่ ถ่ายบัตรปชช.ลูกค้า ส่งขายต่อกลุ่มสีเทา
- นายอำเภอบางใหญ่ โต้ข่าวสั่งปิด ร้านเหล้าดังบางใหญ่ 5 วัน ยัน ไม่พบทำผิดกฎหมาย