การเงินเศรษฐกิจ

แจกเงินดิจิทัล 10000 บาท มกราคม 68 ใครได้กลุ่มแรก มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?

มติ ครม. เคาะแล้ว เดินหน้าแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ภายในมกราคม 2568 กลุ่มผู้สูงอายุตามเงื่อนไข ตรวจสอบสิทธิในแอปฯ เช็กหมายเลขบัตรประชาชนและพร้อมเพย์ รอรับเงินต้นปี

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ลงมติเห็นชอบมาตรการ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 มอบของขวัญปีใหม่ กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4 ล้านคน เคาะฤกษ์ดีโอนเงินเข้าหมายเลขบัตรประชาชนที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ ภายในวันที่ 29 มกราคม 2568 ต้อนรับตรุษจีน ทั้งนี้เงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาทต่อคนที่จะแจกช่วงต้นปีนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 32,000 ล้านบาท โดยผู้สูงอายุที่ได้รับเงินจะต้องผ่านการตรวจสอบสิทธิ และผ่านกระบวนการ KYC ผ่านแอปทางรัฐแล้ว

Advertisements

เงื่อนไขผู้สูงอายุที่จะได้รับเงินดิจิทัล 10000 บาท ต้นปี 2568

เปิดเงื่อนไข แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 ใครได้เงินบ้าง?

การแจกเงินดิจิทัล เฟส 2 รัฐบาลมีจุดประสงค์เพื่อลดภาระค่าครองชีพของผู้สูงอายุ และส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถนำเงินไปจับจ่ายใช้สอย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนให้กับธุรกิจชุมชน ผู้ที่ต้องการรับสิทธิเงินหมื่นในรอบมกราคม ปี 68 จึงต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป (เป็นกลุ่มเปราะบาง) และต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนในแอปฯ ทางรัฐ เท่านั้น
  • คนที่ไม่เคยลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ จะหมดสิทธิในการรับเงินทันที
  • คนที่ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟสแรกไปแล้ว จะไม่มีสิทธิได้รับเงินในงวดนี้
  • มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี
  • มีเงินฝากทุกบัญชีไม่เกิน 5 แสนบาท
  • ไม่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
  • ไม่เป็นผู้ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการโครงการอื่น ๆ ของรัฐ
  • ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

วิธีรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุวิธีการรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 เดือนมกราคม 2568

กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางเผยว่า จะเริ่มโอนเงินจำนวน 1 หมื่นบาท ในเดือนแรกของปี 2568 ผ่าน ‘บัญชีพร้อมเพย์’ ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของกลุ่มผู้สูงอายุที่มีสิทธิ์ได้รับเงิน หากเช็กสิทธิในแอปฯ ทางรัฐแล้วพบว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน ควรตรวจสอบให้ดีว่าบัญชีพร้อมเพย์ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่

ในกรณีที่หน่วยงานไม่สามารถโอนเงินได้สำเร็จในครั้งแรก จะมีการโอนซ้ำให้กลุ่มเป้าหมายจนครบ 3 ครั้ง หากยังล้มเหลวจะตัดสิทธิ์บัญชีดังกล่าวทันที โดยถือว่าผู้ใช้บัญชีนั้นไม่ประสงค์จะรับเงินจากโครงการฯ

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยสมัครบริการพร้อมเพย์ เพื่อรับเงินสวัสดิการจากรัฐ สามารถนำหมายเลขบัตรประชาชนไปสมัครได้ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

Advertisements
  • สาขาของธนาคารที่มีบัญชีเปิดใช้บริการอยู่ โดยจะต้องเตรียมสมุดบัญชีเงินฝาก และบัตรประชาชนตัวจริงเพื่อทำธุรกรรม
  • แอปพลิเคชันโมบายแบงกิ้งของธนาคารที่ต้องการใช้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
  • สมัครผ่านตู้เอทีเอ็มของแต่ละธนาคาร (เงื่อนไขการสมัครขึ้นอยู่กับธนาคารที่เลือกใช้)

อย่างไรก็ตาม หมายเลขบัตรประชาชน สามารถผูกบัญชี PromptPay ได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนบัญชีธนาคารที่เคยผูกหมายเลขพร้อมเพย์ไว้ ต้องติดต่อที่เคาน์เตอร์ธนาคารโดยตรง เพื่อทำการยกเลิกบัญชีเดิม และสมัครบัญชีใหม่ที่ใช้รับเงินดิจิทัล เฟส 2

รายละเอียดการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาทสำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน

นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยังได้กล่าวถึงผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน โดยเผยข่าวดีว่าอาจมีการเปิดให้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในช่วงหลังปีใหม่ (2568) ผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเป็น 3 สถาบันหลัก คือ ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่มีสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้จะดำเนินการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนโดยใช้ ‘บัตรประชาชนตัวจริง’ ส่วนวัน-เวลาในการลงทะเบียน คลังฯ จะแจ้งรายละเอียดที่ชัดเจนให้ทราบต่อไป

ส่วนประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ที่ผ่านการตรวจสอบและลงทะเบียนรับสิทธิในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปฯ ทางรัฐ มีรายงานอัปเดตล่าสุดว่า เมื่อดำเนินการโอนเงินในกลุ่มผู้สูงอายุ เฟส 2 จนเสร็จสิ้นแล้ว จะดำเนินการวางแผนแจกเงินให้กับประชาชนทั่วไป ในเฟส 3 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 หรือเดือนเมษายน – มิถุนายน ซึ่งต้องรอติดตามต่อไปว่าจะมีเงื่อนไขการคัดเลือกผู้ที่จะได้รับเงินในเฟสต่อไปอย่างไรบ้าง.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Woralada

นักเขียนเรื่องไลฟ์สไตล์ ข่าวบันเทิง และประเด็นการเมือง เวลาว่างชอบดูซีรีส์ อ่านวรรณกรรม และไปคอนเสิร์ตเพื่อต่อพลังงานชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button