บุกทลายรัง คอลเซ็นเตอร์ ยึดซิมบ๊อกซ์รูปแบบใหม่ ซิมอยู่สิงค์โปร์ ส่งสัญญาณมาไทย
สืบนครบาล บุกทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย่านหัวหมาก รวบบอสชาวจีน และแฟนสาว ยึดซิมบ๊อกซ์ 8 ตัว พร้อมของกลางเป็นอุปกรณ์ไอที กระจ่างเบื้องหลังกระบวนการ ซิมอยู่สิงคโปร แต่ส่งสัญญาณมาที่กล่องรับในไทย
สืบเนื่องจากที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล บช.น. ได้มอบหมายให้ สืบนครบาล ตรวจสอบผู้เสียหายที่ถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยแกะรอยจากคดีผู้เสียหายจาก จ.อยุธยา ที่ถูกคนร้ายอ้างเป็นตำรวจ สภ.เมือง จังหวัดบุรีรัมย์ และภายหลังจากใช้เวลาตรวจสอบกว่า 30 วัน พบว่า ออฟฟิศสั่งการอยู่ย่านหัวหมาก ก่อนจะขยายผลพบคนร้ายชาวจีน ในย่านรัชดา
วันนี้ (25 ธันวาคม 2567) สืบนครบาล IDMB รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้นำหมายค้นของศาลอาญา ที่ 1170-1171/2567 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2567 เข้าค้นห้องพักที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 จุด ได้แก่
1. ห้องพัก อาคาร 1 พนาสินเพลส ซ.รามคำแหง 24/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
ผลการตรวจค้นและยึดของกลาง พบอุปกรณ์ดังนี้
- อุปกรณ์ SIM BOX จำนวน 8 ชุด รุ่นไม่มีซิมการ์ด (แบบใหม่)
- เร้าเตอร์ อินเทอร์เน็ต จำนวน 2 เครื่อง
- สวิตช์ฮับ จำนวน 1 เครื่อง
- กล้องวงจรปิด จำนวน 1 เครื่อง
- อุปกรณ์สำรองไฟ จำนวน 1 เครื่อง
- กระเป๋าโน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 ใบ (พบบนเตียง)
- กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ สีฟ้า จำนวน 1 ใบ
- อุปกรณ์สายแลน จำนวน 8 สาย
- กล่องลังใส่ SIM BOX จำนวน 8 กล่อง (พบในตู้เสื้อผ้า)
2. ห้องพัก อพาร์ทเม้นท์ ย่านรัชดา ถ.รัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม.
ผลการตรวจค้นและควบคุมตัว Mr.TAN หรือคุนหมิง อายุ 19 ปี สัญชาติจีน พร้อมแฟนสาว (ผู้เช่าห้องพักอาคาร 1 พนาสินเพลส ซ.รามคำแหง 24/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เพื่อวางเครื่อง SIM BOX)
จากการสอบถาม ทาง Mr.TAN ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเป็นเพียงนายหน้ารับเช่าห้องพักใน กทม. ให้คนจีนเท่านั้น ขณะที่ในการตรวจสอบห้องพัก พบสัญญาเช่าจำนวนมาก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบเพิ่มเติม จากการสืบสวนการกระทำดังกล่าวของกลุ่มคนร้ายมีการใช้เครื่องมือ SIM BOX เป็นตัวกลางในการโทรศัพท์มาจากต่างประเทศผ่านเครื่อง SIM BOX เพื่อให้หมายเลขโทรศัพท์ ที่ปรากฎบนเครื่องโทรศัพท์มือถือของเหยื่อหรือผู้เสียหายเป็นหมายเลขโทรศัพท์ในประเทศไทย
ทางด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า จากการสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ขยายผลจากผู้เสียหายที่ได้มีการแจ้งความทางออนไลน์ไว้กว่า 100 คดี จนพบการลักลอบใช้ซิมบ็อกซ์นำมาใช้หลอกลวงคนไทยของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้พบคนร้ายใช้ห้องพักที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ มีซิมบ็อกซ์ทั้งหมด 8 ซิมบ็อกซ์ ซึ่งหนึ่งบ็อกซ์จะมี 32 ซิม รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ครั้งนี้พบวิธีการที่เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างชัดเจน 2 วิธี ได้แก่
1. สัญญาณที่ส่งมาใช้ซิมบ็อกซ์มาจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นวิธีการปรับเปลี่ยนไม่ให้ตำรวจเช็กที่มาของสัญญาณได้ หลังจากนี้จะขยายผลหาจุดที่แท้จริงของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเดิมเชื่อว่าอยู่ในจุดเดิม ๆ ที่เคยจับกุมได้
2. ซิมบ็อกซ์ที่ได้มาในครั้งนี้เป็นรูปแบบใหม่ โดยพบว่าครั้งนี้ไม่พบซิมการ์ดเลย โดยซิมอยู่ในต่างประเทศทั้งหมดเป็นวิธีการเลี่ยงไม่ให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ที่ลงทะเบียนซิมรวมถึงผู้ให้บริการ
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม ม.6 พรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และ ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม ม.11 พรบ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498
รวมถึง ใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ตาม ม.67 (3) พรบ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คอนโดหรูห้วยขวาง รวบคนจีน ผงะ ซิมการ์ด 2 แสนซิม
- อึ้ง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตุ๋นคนญี่ปุ่นวันละ 5 ล้าน หัวหน้าอดีตยากูซ่าผันตัว เลือกไทยเป็นฐาน
- ตำรวจเลว! ไถเงินผู้เสียหาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเร่งทำคดี แลก 1.5 แสน