ภัยเงียบ 3 เครื่องดื่มสุดคุ้นเคย รสชาติไม่เค็ม แต่โซเดียมสูง ดื่มมากระวังไตพัง
เปิดลิสต์ 3 เครื่องดื่มสุดุค้นเคย รสชาติไม่เต็มแม้แต่น้อย แต่กลับมีโซเดียวสูง ดื่มบ่อยส่งผลให้ไตพังได้ในระยะยาว
ในช่วงที่อากาศร้อนขึ้น ผู้คนมักดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อดับกระหายและคลายร้อน ด้วยความสะดวกสบายของชีวิตสมัยใหม่ ที่มีซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้ออยู่แทบทุกหนแห่ง ทำให้ทุกคนสามารถหาซื้อเครื่องดื่มได้ง่ายไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และเลือกดื่มอะไรก็ได้ตามใจชอบ
เครื่องดื่มหลายชนิดที่เรากำลังบริโภคอยู่ แม้จะหวานมาก แต่ความจริงแล้วแฝงไปด้วยปริมาณเกลือสูง หากดื่มมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อไต และทำให้เกิดความดันโลหิตสูงได้
1.เครื่องดื่มเกลือแร่
เพื่อชดเชยโซเดียมที่สูญเสียไปในระหว่างการออกกำลังกาย เครื่องดื่มประเภทนี้จึงมีการเติมโซเดียมเข้าไป โดยในขวดขนาด 600 มิลลิลิตร จะมีโซเดียมประมาณ 246 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม แม้จะมีรสหวานและดื่มง่าย แต่ไม่ควรดื่มในปริมาณมากเกินไป
2.น้ำผักผลไม้กระป๋อง
น้ำผักผลไม้ที่คุณคั้นเองที่บ้านไม่มีปัญหาเรื่องปริมาณโซเดียมสูง แต่เครื่องดื่มสำเร็จรูปที่วางขายในท้องตลาดมักมีการเติมโซเดียมลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ ดังนั้น เราควรตรวจสอบฉลากโภชนาการก่อนซื้อทุกครั้ง
3.ช็อกโกแลตร้อน
ความจริงแล้ว ช็อกโกแลตร้อนหนึ่งแก้ว (354 มิลลิลิตร) มีโซเดียมประมาณ 370 มิลลิกรัม ซึ่งคิดเป็น 16% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคไต ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
หากบังเอิญได้รับโซเดียมมากเกินไป หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีโซเดียมสูงเป็นประจำ นอกจากการดื่มน้ำให้เพียงพอแล้ว เราควรเพิ่มอาหารที่อุดมด้วยโพแทสเซียมซึ่งช่วยในการขับโซเดียมออกจากร่างกาย อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ผักบุ้ง ผักโขม ใบมันเทศ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง กล้วย กีวี่ อะโวคาโด ลูกเกด และอื่นๆ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เราฝึกอ่านฉลากส่วนประกอบเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอาหารแปรรูป สัญลักษณ์ NRV% บนบรรจุภัณฑ์แสดงถึงปริมาณโซเดียมที่จะได้รับหลังจากรับประทานอาหาร 100 กรัม
นอกจากนี้ เวลาเลือกเกลือสำหรับปรุงอาหาร ควรเลือกเกลือที่มีโซเดียมต่ำ ซึ่งผลิตจากเกลือไอโอดีนปกติแต่ใช้โพแทสเซียมคลอไรด์แทนที่โซเดียมออกไซด์บางส่วน (ประมาณ 30%) เนื่องจากโพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิตและปกป้องผนังหลอดเลือด การบริโภคเกลือโซเดียมต่ำจึงช่วยแก้ปัญหาการได้รับโซเดียมมากเกินไป และป้องกันความดันโลหิตสูง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกชนิดของเกลือที่เหมาะสม
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อซื้ออุปกรณ์ใส่เกลือในครัว ควรเลือกแบบที่สามารถตวงวัดได้ง่าย เพื่อควบคุมปริมาณเกลือที่ใส่ในอาหารแต่ละมื้อไม่ให้เกินมาตรฐานที่กำหนด เวลาทานอาหารนอกบ้าน ถ้าเป็นไปได้ควรขอลดเกลือ หรือพยายามเลือกเมนูที่มีเกลือน้อย
สำหรับคนที่ชินกับการทานเค็ม แนะนำให้ใช้เครื่องปรุงอื่นๆ เช่น หอม ขิง กระเทียม น้ำส้มสายชู เพื่อเพิ่มรสชาติอาหารแทนการเติมเกลือ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าลิ้นของคนเราสามารถปรับเปลี่ยนได้ทีละน้อย ด้วยการค่อยๆ ลดการใช้เกลือในอาหารแต่ละมื้อ ความต้องการรสเค็มของคนเราก็จะค่อยๆ ลดลง จริงๆ แล้วการลดเกลือลง 5-10% ตอนทำอาหารจะไม่ส่งผลกระทบต่อรสชาติของอาหารเลย
จังหวะการใส่เกลือในอาหารก็สำคัญมาก ถ้าใส่เกลือเร็วเกินไปตอนทำอาหาร เกลือจะซึมเข้าผักได้ง่ายและดึงความชื้นในผักออกมา ทำให้ผักเสียความกรอบและความอร่อย
อ้างอิง : soha.vn
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทดลองจับแยกฝาแฝด กินวีแกน VS กินเนื้อ เทียบความแตกต่าง ผลออกมาสุดช็อก
- หมอเตือนเอง พบน้ำยาดองศพในบุหรี่ไฟฟ้า เสี่ยงก่อโรคมะเร็ง เลิกได้เลิก
- กินกล้วยกับกาแฟตอนเช้าได้ไหม? เตือนเมนูควรเลี่ยง ให้น้ำตาลสูงปรี๊ด เสี่ยงโรคเพียบ