ดับ 2 ศพ ชายมะกันใช้อึค้างคาว เป็นปุ๋ยปลูกกัญชา ติดเชื้อป่วยหนัก
เสียชีวิต 2 ศพ ชายอเมริกันในรัฐนิวยอร์ก ใช้อึค้างคาว เป็นปุ๋ยปลูกกัญชา ติดเชื้อก่อนจะเสียชีวิตจากโรคฮิสโตพลาสโมซิส คล้ายปอดบวม
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม สำนักข่าว ดิอินดีเพนเด้นท์ รายงานว่า ชายสองคนในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เสียชีวิตจากโรคฮิสโตพลาสโมซิส คล้ายคลึงกับโรคปอดบวม หลังจากที่ทั้งสองใช้มูลค้างคาวเป็นปุ๋ยในการปลูกต้นกัญชา
โดยวารสารทางการแพทย์ที่บันทึกเคสดังกล่าวระบุว่า ผู้เสียชีวิตคนแรกเป็นชายวัย 59 ปี มีถุงลมโป่งพอง หลังจากที่เขาเข้ารักษาที่โรงพยาบาล สืบเนื่องจากน้ำหนักที่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 6 สัปดาห์ มีอาการเจ็บคอและกลืนลำบาก ซึงภายหลังเสียชีวิต เจ้าหน้าทีได้นำเซลล์และเนื้อเยื่อออกจากร่างกายและพบว่าเชื้อราที่มีความสอดคล้องกับฮิสโตพลาสมา
ส่วนผู้เสียชีวิตคนที่สองเป็นชายวัย 64 ปี มีอาการหลอดเลือดแดงแคบลง และลดการไหลเวียนของเลือดไปที่แขนและขาของเขา ระดับโซเดียมและสารอาหารอื่น ๆ ในเลือดต่ำ น้ำหนักลด รักษาที่โรงพยาบาลหลายเดือนก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาล แต่ในเดือนถัดมาเขากลับเข้าโรงพยาบาลจะอาการปวดท้องรุนแรง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาเช่นกัน
ซึ่งผู้เขียนวารสารยังระบุว่าควรจะมีการเพิ่มความตื่นตัว หลังจากที่มีการโปรโมตขายปุ๋ยที่ทำจากมูลค้างคาว ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และอาจจะเสี่ยงต่อให้เกิดการแพร่ระบาดด้วย
อ้างอิงจากเว็บไซต์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า โรคฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis) มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อราชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Histoplasma capsulatum โดยเชื้อราชนิดนี้พบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นดินที่ปนเปื้อนมูลนกและค้างคาว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดาราแคนาดา ซัด ติ๊กต็อกเกอร์อินโดฯ คลิปกินค้างคาว หวั่นสร้างเชื้อโรคระบาดใหม่
- โรคกรรม? หนูน้อย 9 ขวบ คนตราหน้าว่า ‘ค้างคาว’ เพราะมีปีกขึ้นที่คอ
- เตือนด่วน สถานที่เสี่ยง โนโรไวรัส ระบาดในไทย ป่วยพุ่ง 1,436 ราย