รีวิว ดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ สัมผัสแฟชั่นและศิลปะไทย ในบูติกสุดหรู กลางกรุง
ปักหมุดเที่ยว ดิออร์ โกลด์ เฮาส์ เพลินจิต สัมผัสความหรูหราเหนือกาลเวลา พร้อมงานศิลปะไทยในบูติกสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สะท้อนจิตวิญญาณใจกลางกรุงเทพฯ
ไฮไลท์น่าสนใจ ดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ สายแฟ ห้ามพลาด!
สำหรับ ดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ พ็อปอัป สโตร์ ประเทศไทย (Dior Gold House) เป็นอาคารบูติกหรูแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 พร้อมบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ถอดแบบมาจากอาณาจักรดิออร์ เลขที่ 30 มงแตญ (Dior 30 Montaigne) บนหัวถนนฌ็องเซลิเซ่ แห่งกรุงปารีส สถานที่ที่เปรียบเสมือนหัวใจของแฟชั่นชั้นสูง โดยครั้งนี้ ดิออร์ โกลด์ เฮาส์ ในประเทศไทยได้เติมความพิเศษ ด้วยการผสมผสานกลิ่นอายไทย ๆ เข้าไว้กับความหรูหราแบบฝรั่งเศสอย่างลงตัว พร้อมยกย่องงานฝีมือของศิลปินไทยผู้มากความสามารถ
ด้วยโลเคชันที่ลงตัวและสถาปัตยกรรมที่สะดุดตา ตั้งอยู่ที่ลานมรกต เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ในย่านเพลินจิต ใจกลางกรุงเทพมหานคร บูติกแห่งนี้เป็นมากกว่าร้านแฟชั่น เพราะได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นพื้นที่ที่ “เติบโต” ไปพร้อมกับซีซั่นและคอลเลกชันของดิออร์ โดดเด่นด้วย ฟาซาด ที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของ 30 มงแตญ เมซงแห่งแรกในปี ค.ศ. 1946 โดย เมอซิเออร์ คริสติยง ดิออร์ (Monsieur Christian Dior) พร้อมประดับโมเสคสีทองแบบไทยที่มองแวบแรกก็สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของประเทศไทย บรรยากาศโดยรอบยังแวดล้อมด้วยสวนอันเงียบสงบ เสมือนช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนท่ามกลางเมืองหลวงอันคึกคัก
สัมผัสบรรยากาศและบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
เมื่อคุณก้าวเข้ามาสู่ ดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความงดงามทั้งในด้านแฟชั่นและศิลปะ โดยแบ่งออกเป็น 6 ห้องหลักที่สะท้อนความเหนือระดับของทั้งสองโลก เริ่มต้นที่ เลดี้ ดิออร์ เวิลด์ (Lady Dior World) ห้องที่รวบรวมกระเป๋าคอลเลกชันพิเศษ เลดี้ ดิออร์ อาร์ท (Lady Dior Art) ซึ่งได้รับการออกแบบร่วมกับศิลปินจากทั่วโลก โดยแต่ละใบมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก
นอกจากนี้ ยังมีการยกย่องงานฝีมือไทยสุดประณีตจากศิลปินไทย 9 ท่าน อาทิเช่น ตุ๊กตุ๊ก (TukTuk) ที่ออกแบบด้วยดีไซน์หวายจักสานโดย ศรัณย์ เย็นปัญญา และผนังไม้ไผ่ 3 มิติใน คาเฟ่ ดิออร์ (Cafe Dior) ที่ออกแบบโดย กรกต อารมย์ดี
ส่วนกระเป๋า เลดี้ ดิออร์ ที่ตกแต่งด้วยงานจักสานและดอกไม้สานอย่างงดงามโดย วาสนา สายมา ก็ถูกวางเรียงอย่างประณีตในร้าน ส่วนสิงโตและยูนิคอร์นที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลโดย วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
อาร์มแชร์กระจกสีเบญจรงค์ที่ออกแบบโดย เอกรัตน์ วงษ์จริต ใช้ช่างฝีมือ 13 คนในการติดกระจกอย่างละเอียด และเก้าอี้ในสวนที่ออกแบบจากลายเท้าช้างโดย บุญเสริม เปรมธาดา ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง สร้างความสมบูรณ์ให้กับการผสมผสานศิลปะและแฟชั่นในทุกมุมของบูติกนี้
เติมเต็มวันพิเศษด้วยการแวะพักผ่อนสไตล์ไฮเอนด์
การมาที่นี่ คือการเติมเต็มวันพิเศษของคุณด้วยการพักผ่อนในบรรยากาศสุดหรูและมีระดับ เมื่อก้าวเข้าสู่พื้นที่ภายใน คุณจะได้สัมผัสการต้อนรับที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงผลงานอย่างมีศิลปะ การออกแบบพื้นที่ที่เน้นความเป็นส่วนตัว หรือบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนการเดินชมแกลเลอรีที่ยกย่องทั้งงานฝีมือไทยและแฟชั่นระดับโลก
ในส่วนของ คาเฟ่ ดิออร์ ยังมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบ โอต-กาสโตรโนมี (Haute-Gastronomie) ด้วยเมนูพิเศษที่รังสรรค์โดย เมาโร โคลาเกรโก้ (Mauro Colagreco) เชฟมิชลิน 3 ดาว พร้อมบรรยากาศอันอบอุ่นจากงานจักสานภายใน และมุมธรรมชาติจากพันธุ์ไม้ไทยภายนอก
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์สุดพิเศษที่ผสมผสานความหรูหราและความเอ็กซ์คลูซีฟ ดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ คือที่ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยบริการที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้แก่ผู้มาเยือน ดังนี้
บริการนัดหมายที่บูติก เพื่อเข้ารับคำปรึกษาส่วนตัวกับพนักงานผู้เชี่ยวชาญของดิออร์ ที่จะช่วยแนะนำสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
บริการพาชมดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ พร้อมผู้บรรยาย ดื่มด่ำกับความงดงามผ่านบริการพาชมบูติกอย่างละเอียด พร้อมผู้บรรยายที่จะนำคุณไปสัมผัสบรรยากาศแห่งความหรูหราที่ไม่เหมือนใคร
บริการสำรองโต๊ะที่คาเฟ่ ดิออร์ ปิดท้ายวันพิเศษเติมเต็มประสบการณ์ด้วยการดื่มด่ำกับรสชาติอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษจาก คาเฟ่ ดิออร์ โดย เชฟเมาโร โคลาเกรโก ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่ามกลางบรรยากาศที่ผสานศิลปะและความหรูหราอย่างลงตัว
ทุกการบริการที่ดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ทุกวัน โดยสามารถทำการนัดหมายและลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ store.dior.com ได้โดยตรง เพื่อรับการบริการที่ตรงตามความต้องการและสะดวกสบายที่สุด โดยเว็บไซต์นี้สามารถเข้าชมได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ เท่านั้น
ภาพจาก Dior
นอกจากนี้ยังมีโซนสวนด้านนอกที่เปิดให้เข้าชมฟรี คุณสามารถเดินชมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด และมุมสวย ๆ ที่มีฉากหลังเป็นอาคารสีทองสไตล์ฝรั่งเศส พร้อมจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะ ตุ๊กตุ๊กไม้ไผ่สาน โดย ศรัณย์ เย็นปัญญา ที่เป็นไฮไลท์เด่น และยังมีโฟโต้บูธให้คุณได้เก็บภาพความทรงจำกลับไปอีกด้วย
ข้อมูลทางเข้าและเส้นทาง
– ทางเข้าด้านหน้าฝั่งสวน (ถนนเพลินจิต) ทางเข้านี้สำหรับผู้เข้าใช้บริการบูติกที่ไม่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้า ผู้เข้าใช้บริการ คาเฟ่ ดิออร์ และผู้เข้าใช้บริการพาชม ดิออร์ โกลด์ เฮาส์
– ทางเข้าพิเศษ (ซอยสมคิด ) ทางเข้านี้สำหรับผู้เข้ามช้บริการบูติก ที่ทำการนัดหมายล่วงหน้าไว้แล้ว เท่านั้น
– บริการจุดจอดรถยนต์ สำหรับผู้เข้าใช้บริการบูติก ที่ทำการนัดหมายล่วงหน้าไว้แล้ว เท่านั้น
การเดินทางนั้นสะดวกสบายหลากหลายช่องทาง สำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้า BTS เพียงลงที่สถานี เพลินจิต (ทางออก 5) จะมีทางเชื่อมตรงเข้าสู่ห้างฯ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแดดหรือฝน
ผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถรองรับพร้อมบริการ Valet Parking สำหรับความสะดวกสูงสุด อีกทั้งยังมีรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะผ่านถนนเพลินจิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของลานมรกต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ทำให้ทุกการเดินทางมาถึงที่นี่ราบรื่น ตอบโจทย์ทั้งนักช้อปและนักท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว
การเยือน ดิออร์ โกลด์ เฮ้าส์ เพลินจิต จะไม่ใช่เพียงแค่การช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่หลอมรวมแฟชั่น ศิลปะ และไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว คุณจะได้ดื่มด่ำกับขนมและเครื่องดื่มชั้นเลิศจาก คาเฟ่ ดิออร์ พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยศิลปะ ที่สร้างความประทับใจให้คุณไม่รู้ลืม
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวจริงหรือผู้หลงใหลในความงดงามของงานศิลป์ คุณจะได้สัมผัสโลกแห่งความหรูหรา ความประณีต และความงามที่ไม่มีวันตกยุค เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญในใจกลางกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาด เพราะที่นี่คือการเฉลิมฉลองระหว่างดิออร์และงานฝีมือไทยอย่างแท้จริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้จักสี มอคค่ามูส แพนโทน 2025 น้ำตาลอ่อนอบอุ่น สอนวิธีหาค่าสีที่ถูกต้อง
- เปิดพิกัด 10 จุดท่องเที่ยวสุดฮิตในไทย ติดเทรนด์ คนอยากไปมากที่สุด
- รวมคาเฟ่บรรยากาศเก่าๆ ยุค 90s กรุงเทพ กาแฟอร่อย มุมถ่ายรูปว้าว
อ้างอิง: Dior