ข่าว

อี้ แทนคุณ ชี้เป้า หมอบุญ อาจหนีไปอิตาลี ประสานประธานสภาเร่งรัดคดี

อี้ แทนคุณ ชี้เป้า หมอบุญ อาจหนีไปอิตาลี เนื่องจากมีบ้านพักอยู่ที่นั่น ยื่นหนังสือประสานประธานสภาเร่งรัดคดี นำทรัพย์สินมาคืนเหยื่อ

นาย แทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ แทนคุณ ประธานชมามสันติประชาธรรม ยื่นหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้เร่งรัดติดตามตัวผู้กระทำความผิดและบูรณการความช่วยเหลืออำนวยความยุติธธรรม กรณี นพ.บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี กระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยมีนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาฯ เป็นผู้รับเรื่อง

Advertisements

นายแทนคุณ ให้สัมภาษณ์ เนื่องจากได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและข้อหาอื่นๆ โดยรูปแบบการชักชวนให้การลงทุน เบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก การใช้หุ้นของโรงพยาบาล มาป็นหลักหรัพรัพย์ค้ำ แล้วให้บริษัทโบรกเกอร์มาทำเอกสารค้ำ

ภายหลัง นพ.บุญ ได้ถอนหุ้นออก และได้เปลี่ยนเอกสารเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งเป็นช่วงวลาให้กู้ยืม ตั้งแต่ 30 ปีก่อนจนถึงปัจจุบันและมีการต่อสัญญญาทุกปี โดยมีกำหนดชำระทุกวันที่ 12 มิ.ย. และ 12 ธ.ค. โดยมีแจ้งการชำระก่อนล่วงหน้า1 เดือน ของการชำระดอกเบี้ย โดยปีนี้เมื่อครบวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับไม่ได้ชำระดอกเบี้ยและไม่สามารถติดต่อบริษัทได้ ซึ่งผู้เสียหาย 500 คน มูลค่าควานเสียหาย 15,000 ล้านบาท

อีกกรณี คือผู้เสียหายที่เป็นการกู้ยืม โดยใช้เช็คค้ำประกัน ให้ดอกเบี้ย 8.5 ต่อปี แต่ไม่สามารถนำเช็คไปขอชำระการจ่ายได้ประมาณเดือนก.ค. 2567 โดยเป็นการระดมทุน อ้างว่าจะลงทุนศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมขนาคใหญ่ของไทย ซึ่งไม่เป็นความจริง คาดว่าจะมีผู้เสียหายอีกไม่น้อยกว่า 500 คน และผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ รวมมูลค่าความเสียหายจาก 2 กรณีและกรณีอื่นๆ ประมาณกว่า 25,000 ล้านบาท

ดังนั้นผู้เสียหายประสงค์ที่จะให้ประธานสภาฯ ช่วยเร่งรัดติดตามไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงการต่างประเทศ ในการประสานงานกับประเทศที่คาดว่า นพ.บุญ จะหลบหนีไปอยู่คือสาธารณรัฐประชาชนจีน และอาจจะหลบหนีไปยังประเทศอิตาลี ซึ่งทราบว่านพ.บุญ มีบ้านพักอาศัยอยู่ โดยหลบหนีไปตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. และประสานหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมให้มีความชัดเจนว่า หน่วยงานใดจะเป็นเจ้าภาพหลักดำเนินคดี ไม่ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบัญชาการสอบสวนกลาง หรือกองบัญชาการตำรวจนครบาล

ระหว่างนี้ขอให้หน่วยงานต่างๆ ที่รับเรื่องช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงมาตรการว่าควรดำเนินการอย่างไร เช่น แจ้งความได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือแจ้งความออนไลน์ เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายนั้นเป็นเม็ดเงินมหาศาล

Advertisements

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button