พบแล้วร่าง 2 คนงานเมียนมา ถูกดินสไลด์ทับที่พักเกาะสมุย สั่งกั้นเป็นเขตอันตราย
เกาะสมุยดินถล่ม พบร่าง 2 แรงงานเมียนมา อำเภอสั่งปิดพื้นที่ประกาศเป็นเขตอันตราย ขณะที่สถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของสุราษฎร์ธานี เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รักษาการผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุดินสไลด์ทับบ้านพักคนงานก่อสร้างบ้านพักตากอากาศ ในซอยหิมะทอง หมู่ 1 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้มีคนงานชาวเมียนมาที่พักอาศัยอยู่ใกล้โครงการก่อสร้างถูกดินสไลด์ทับ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อประมาณตี 4 ของวันที่ 15 ธ.ค. หลังเกิดเหตุทางเข้าหน้าที่ได้เข้าระดมกำลังช่วยเหลือแต่การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากดินบริเวณดังกล่าวพร้อมที่จะสไลด์ลงมาตลอดเวลา
ล่าสุด มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันรายงานสถานการณ์หลังเจ้าหน้าที่ช่วยหันขุดดินที่ทับถมลึกประมาณกว่า 1 เมตร ก่อนพบร่างของชาวเมียนมาทั้งสองราย ได้แก่ นายอัง โก โก (Aung Ko Ko) อายุ 19 ปี นายโม เซท (Moe Zet) อายุ 39 ปี จึงให้นำศพทั้ง 2 ส่งไปชันสูตรที่รพ.เกาะสมุย
อย่างไรก็ดี นายชัชชัย มณี ปลัดอาวุโส อำเภอเกาะสมุย รักษาราชการแทนนายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งการให้ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุเป็นเขตภัยพิบัติอันตราย ห้ามเข้าดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ตรวจสอบสวนต่อไป พร้อมกับฝากเตือนไปยังพื้นที่ที่มีการเปิดหน้าดินที่สุ่มเสี่ยงบนภูเขาในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ขอให้คนที่อยู่ให้จุดที่มีการก่อสร้าง มีการเปิดหน้าดิน ขอให้ระมัดระวัง เพราะดินอาจจะสไลด์พังทลายลงมาได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยสถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดเริ่มเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รักษาการผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสภาพน้ำในแม่น้ำคลองยัน ณ สะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่ที่ 6 กับหมู่ที่ 10 ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงเช้าวันนี้(16 ธ.ค.67) ระดับน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างไหลเชี่ยว บางจุดเริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ไร่สวนของราษฎรบ้างแล้ว
ชาวบ้านหลายคนเริ่มขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าไปไว้ในที่ปลอดภัย ขณะที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นทึ่เยี่ยมเยียนประชาชนพร้อมสั่งการให้อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบลุ่ม/ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ให้ระมัดระวังอุทกภัยจากปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น และปริมาณน้ำสะสมที่อาจเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้
นอกจากนี้ให้อุทยานทุกแห่ง หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตก ถ้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างไกล้ชิด ถ้าสถานการณ์วิกฤติ ให้ดำเนิการปิดหรือห้ามเข้าโดยเด็ดขาด รวมทั้งให้ตรวจสภาพความพร้อมด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กรณีเกิดภัยพิบัติ ได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- น้ำท่วมภาคใต้ อ่วม 5 จังหวัด ดับ 8 ราย เร่งช่วยประชาชนเดือดร้อน 128,035 ครัวเรือน
- สลด พนักงาน กฟภ. อนาคตไกล ไฟช็อตดับ ระหว่างช่วยซ่อมบ้านน้ำท่วม นครศรีธรรมราช
- ขั้นตอน ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาน้ำท่วม ใช้เอกสารอะไรบ้าง ได้กี่บาท