วิจารณ์หนัก แม่บังคับลูกอ่านหนังสือตี 5 เอาไม้ค้ำหลัง เหมาะกับเด็กประถมไหม
ดราม่าเดือด ชาวเน็ตถล่ม หลังแม่รายหนึ่งโพสต์ภาพเด็กประถมถูกบังคับอ่านหนังสือตั้งแต่เช้ามืดจนกลายเป็นไวรัล สร้างความกังวลถึงผลกระทบต่อพัฒนาการเด็ก
เมื่อไม่นานมานี้ ภาพของสองนักเรียนประถมตื่นแต่เช้าตรู่เวลาตี 5 เพื่ออ่านหนังสือถูกเผยแพร่ในฟอรั่มไป่ตู้ (Baidu) ของจีน และกลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ โดยสิ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งไม่ได้อยู่ที่การตื่นเช้าเพื่อเรียนหนังสือ แต่กลับเป็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังเด็กทั้งสองคนในภาพ ซึ่งมีการผูกไม้คำหลังลักษณะคล้ายไม้ที ดันหลังลูกทั้ง 2 ขณะอ่านหนังสือเพื่อให้หลังตรง ยืนตรง
ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองโพสต์ภาพนี้พร้อมข้อความที่ว่า “ยังมีความยากลำบากมากกว่าข้างนอก ถ้าลูกไม่พยายาม ก็จะไม่มีใครรอคอยลูกเลย” โดยในภาพมีใบประกาศเกียรติคุณของเด็ก ๆ ติดอยู่บนผนัง ซึ่งแสดงถึงความภาคภูมิใจในความสำเร็จของลูกๆ อย่างชัดเจน
แม้ว่าการตื่นเช้าและเรียนหนังสืออย่างขยันขันแข็งจะเป็นสิ่งที่ควรกระตุ้น แต่หลายคนในสังคมออนไลน์กลับตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมของการบังคับให้เด็ก ๆ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยตารางเวลาที่เข้มงวดเช่นนี้ โดยเฉพาะการใช้ไม้ค้ำหลังเพื่ออ่านหนังสือ ซึ่งดูเหมือนจะไม่เหมาะสมกับวัยของนักเรียนประถมที่ควรได้รับการพัฒนาอย่างมีความสุขและสอดคล้องกับพัฒนาการ
หลายคนมองว่าความคาดหวังสูงที่ผู้ปกครองตั้งไว้ทำให้เด็ก ๆ ต้องแบกรับความกดดัน และอาจส่งผลให้เด็กๆ นอนไม่เพียงพอจนเกิดปัญหาสุขภาพ ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาจทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพน้อยลง อีกทั้งยังสร้างความกดดันในกระบวนการเรียนรู้อย่างมาก
ผู้ปกครองบางคนที่เห็นภาพนี้ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า การตั้งความคาดหวังเกินไปกับเด็ก ๆ โดยไม่คำนึงถึงพัฒนาการและความสุขของพวกเขา เป็นการสร้างความเครียดและความไม่สมดุลในชีวิตเด็ก หลายคนแสดงความคิดเห็นว่า พ่อแม่ที่มีแนวคิดนี้เหมือนกับการเลี้ยงดู “ลูกไก่” ที่ต้องการให้ลูกทำตามคำสั่งอย่างเข้มงวด เพียงเพื่อสร้างความภูมิใจให้ตัวเอง
อย่างไรก็ตาม แนวคิดการศึกษาในปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยพ่อแม่ที่มีการศึกษาและมองการเลี้ยงลูกในมุมกว้างมากขึ้น จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กในทุกด้าน ไม่เพียงแค่การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังคำนึงถึงสุขภาพจิตและความสุขของเด็ก ๆ เพื่อเตรียมตัวให้พวกเขากลายเป็นคนที่มีความสามารถในการปรับตัวในอนาคต
หลายคนที่เห็นภาพนี้เชื่อว่าการศึกษาควรจะเป็นการให้โอกาสเด็กในการพัฒนาอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องสร้างความกดดันหรือกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเกินไป พ่อแม่ควรหาความสมดุลระหว่างการส่งเสริมการเรียนรู้และการดูแลสุขภาพและความสุขของลูก เพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในสังคมจีนที่มีความคาดหวังสูงจากพ่อแม่ การเลือกวิธีการเลี้ยงดูและการให้ความสำคัญกับความสุขของเด็ก ๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรมีการหาสมดุลในการพัฒนาเด็กให้เติบโตอย่างมีความสุขในทุก ๆ ด้าน โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ความกดดันหรือข้อกำหนดที่ไม่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก ๆ ด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตำรวจออสเตรีย สอบคู่สามีภรรยา หย่ากัน 12 ครั้ง ใน 43 ปี กินเงินชดเชย
- ฟิจิ หามนักท่องเที่ยว 7 คน ส่ง รพ. ป่วยหนัก หวั่นแอลกอฮอล์เป็นพิษ
- สิ้นแล้ว บ็อบ เฟอร์นันเดซ ทวด 100 ปี อดีตนายทหารผู้รอดชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2
อ้างอิง: soha.vn