เปิดพิกัด 10 จุดท่องเที่ยวสุดฮิตในไทย ติดเทรนด์ คนอยากไปมากที่สุด
ตามติดเทรนด์ 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในประเทศไทย คนอยากไปมากที่สุด มีที่ไหนบ้าง ไฮไลท์เด็ด กิจกรรมห้ามพลาด พิกัดและข้อมูลการเดินทาง
ปีนี้การท่องเที่ยวในประเทศกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง จากธรรมชาติที่สวยงามจนถึงวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ประเทศไทยเต็มไปด้วยจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจหลากหลายแบบที่รอให้คุณได้สำรวจ มาดูกันว่า 10 สถานที่ที่กำลังเป็นเทรนด์ในปีนี้มีอะไรบ้าง และทำไมคุณควรจัดทริปไปเยือน จะมีที่ไหนบ้างปักหมุดตามกันได้เลย
1. ลำปาง
ลำปาง เมืองเล็กที่เต็มไปด้วยความงดงามและกลิ่นอายวัฒนธรรมล้านนา เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสงบและเสน่ห์เฉพาะตัวของภาคเหนือ เมืองนี้มีความโดดเด่นจากวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามและศิลปะวัฒนธรรมที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างลงตัว ไฮไลท์สำคัญ เช่น วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เสริมด้วยความอลังการของจิตรกรรมและสถาปัตยกรรมแบบล้านนา และ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือ “วัดบนยอดเขา” ที่เป็นสถานที่ Unseen ด้วยเจดีย์สีขาวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาเขียวขจี
นอกจากการเยี่ยมชมวัด วัฒนธรรมร้านกาแฟในลำปางก็น่าประทับใจเช่นกัน เช่น ร้านคาเฟ่บนเส้นทางรถม้า ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสุดชิลล์ หรือการเดินเล่นในตลาดท้องถิ่นเพื่อสัมผัสอาหารพื้นเมือง เช่น ข้าวแต๋น และขนมเส้นน้ำเงี้ยว สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ ลำปางยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่น อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติและเส้นทางเดินป่าที่เหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ข้อมูลการเดินทาง
วัดพระธาตุลำปางหลวง เปิดให้เข้าชมและสักการะทุกวัน เวลา 06.00–18.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม แผนที่ Google Maps
วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ เปิดเปิดให้เข้าชมและสักการะทุกวัน เวลา 06.00–17.00 น. ค่าเข้าชมประมาณ 20 บาท มีบริการรถรับ-ส่งจากจุดจอด (สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 086-181-4555) แผนที่ Google Maps
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00–18.00 น. ค่าเข้าชม 20-100 บาท (ขึ้นอยู่กับสัญชาติ) แผนที่ Google Maps
2. วังน้ำเขียว
วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ด้วยอากาศบริสุทธิ์และธรรมชาติที่เขียวขจีตลอดปี เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาที่พักผ่อนเงียบสงบท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก ไฮไลท์สำคัญของวังน้ำเขียว ได้แก่ ผาเก็บตะวัน จุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้าพร้อมกิจกรรมปลูกป่าด้วยเมล็ดพืชลูกปลิว และ ฟลอร่า พาร์ค สวนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวหลากสีสันในบรรยากาศที่สดชื่น
สำหรับกิจกรรมเสริม วังน้ำเขียวยังมีกิจกรรมแนวสุขภาพ เช่น การปลูกผักออร์แกนิกในฟาร์มท้องถิ่น หรือการเยี่ยมชมฟาร์มเห็ดพร้อมลิ้มลองเมนูสุขภาพจากวัตถุดิบสดใหม่ หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ลองเข้าพักในรีสอร์ตหรือโฮมสเตย์ชิค ๆ เช่น A Cup of Love ที่โดดเด่นด้วยทุ่งดอกไม้และมุมถ่ายรูปสุดน่ารัก
ข้อมูลการเดินทาง
ผาเก็บตะวัน เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00–18.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติทับลาน โทร. 037-210-340 แผนที่ Google Maps
ฟลอร่า พาร์ค เปิดบริการเฉพาะฤดูหนาว (พฤศจิกายน–กุมภาพันธ์) เวลา 08.00–18.00 น. ค่าเข้าชมประมาณ 150 บาท ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เรียนรู้ฯฟลอร่า พาร์ค แผนที่ Google Maps
การเดินทางไปวังน้ำเขียวสามารถขับรถยนต์จากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ ผ่านปากช่อง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง วังน้ำเขียวเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์คนรักธรรมชาติและสุขภาพ พร้อมให้คุณสัมผัสความสดชื่นและความเงียบสงบอย่างแท้จริง
3. เกาะกูด
เกาะกูด จังหวัดตราด รายล้อมด้วยน้ำทะเลใสราวกระจก หาดทรายขาวละเอียด และบรรยากาศเงียบสงบที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ไฮไลท์สำคัญบนเกาะ ได้แก่ “หาดคลองเจ้า” ที่มีทัศนียภาพอันงดงามและพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก และน้ำตกคลองเจ้า น้ำตกที่มีน้ำใสเย็นฉ่ำท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี “อ่าวพร้าว” จุดดำน้ำตื้นที่สามารถชมปะการังหลากสีสันได้อย่างใกล้ชิด
กิจกรรมเสริมที่ไม่ควรพลาดคือการพายเรือคายัคในคลองธรรมชาติ การปั่นจักรยานสำรวจรอบเกาะ หรือการล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน นอกจากนี้ เกาะกูดยังมีรีสอร์ตสไตล์บูติกและโฮมสเตย์หลากหลายรูปแบบที่ให้คุณได้เลือกพักผ่อนในบรรยากาศสุดผ่อนคลาย
ข้อมูลการเดินทาง
หาดคลองเจ้าและน้ำตกคลองเจ้า เปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยไม่มีค่าเข้าชมสำหรับชายหาด และค่าเข้าชมน้ำตกประมาณ 20-40 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด โทร. 039-510-860
การเดินทาง สามารถนั่งรถยนต์หรือรถโดยสารจากกรุงเทพฯ ไปยังท่าเรือแหลมศอก จังหวัดตราด จากนั้นต่อเรือเฟอร์รี่หรือสปีดโบ๊ทสู่เกาะกูด ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แผนที่ Google Maps
4. น่าน
น่านเป็นจังหวัดที่ผสมผสานระหว่างความสงบของธรรมชาติและวัฒนธรรมล้านนาได้อย่างลงตัว ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิวภูเขาที่ตระการตาและประเพณีท้องถิ่นที่ยังคงอยู่ในทุกซอกมุม โดยเฉพาะวัดภูมินทร์ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาอันงดงาม และจิตรกรรมฝาผนังที่มีชื่อเสียง เช่น ภาพ “คู่รักกระซิบ” ที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยว การเดินทางไปยังวัดภูมินทร์สามารถทำได้ง่ายจากตัวเมืองน่าน ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่นาทีโดยรถยนต์ จากนั้นคุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองและวัดที่เป็นเอกลักษณ์
ในส่วนของกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ การเยี่ยมชมสวนสนุกทางธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีดอกซากุระพันธุ์หายากให้ชมในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ยังมีการเดินป่าและดูนกที่น่าสนใจอีกมากมาย
ข้อมูลการเดินทาง
สำหรับการเดินทางมายังน่าน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถยนต์หรือใช้บริการจากสนามบินน่าน เพื่อไปยังวัดภูมินทร์ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองน่าน ซึ่งเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00-18:00 น. แผนที่ Google Maps
5. เสาชิงช้า
เสาชิงช้า ตั้งตระหง่านกลางลานหน้าวัดสุทัศน์เทพวราราม ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยอย่างลงตัว โดยเสาชิงช้าในอดีตเคยใช้ในพระราชพิธีโล้ชิงช้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมพราหมณ์ปัจจุบันแม้จะไม่มีการใช้งานแล้ว แต่เสาชิงช้ายังคงเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม ด้วยความงามของโครงสร้างสีแดงที่โดดเด่นตัดกับท้องฟ้าและอาคารเก่ารอบข้าง เป็นมุมถ่ายรูปสุดคลาสสิกใจกลางเมือง
บริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยย่านเก่าอันทรงเสน่ห์ เช่น ถนนดินสอ และตรอกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหาร เช่น ศิริพรโภชนา ร้านอาหารพื้นเมืองที่เก่าแก่ หรือ ล้งเล้งลูกชิ้นปลาเยาวราช ร้านเด็ดที่ต้องลอง สำหรับผู้ที่มองหามุมถ่ายรูปเพิ่มเติม วัดสุทัศน์และลานหน้าเสาชิงช้าคือสถานที่ที่มีองค์ประกอบสถาปัตยกรรมที่สวยงามลงตัว
ข้อมูลการเดินทาง
เสาชิงช้า ตั้งอยู่ที่ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ ไม่มีค่าเข้าชม แผนที่ Google Maps
วัดสุทัศน์เทพวราราม เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00–17.00 น. ค่าเข้าชมคนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท แผนที่ Google Maps
การเดินทาง สามารถเดินทางด้วย MRT ลงสถานีสนามไชย หรือ BTS ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วต่อรถประจำทางหรือรถแท็กซี่มายังพื้นที่
6. เกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมที่ได้รับฉายาว่า “มัลดีฟส์เมืองไทย” ด้วยหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าใสที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไฮไลท์สำคัญของเกาะหลีเป๊ะคือ “หาดพัทยา” ที่มีทัศนียภาพสุดตระการตาและเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก รวมถึง “หาดซันไรส์” และ “หาดซันเซ็ต” ที่เป็นแหล่งดำน้ำตื้นและชมปะการังที่มีสีสันหลากหลาย
ในการเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ นักท่องเที่ยวสามารถสนุกกับกิจกรรมหลากหลาย เช่น การดำน้ำลึก, การพายเรือคายัค, หรือการนั่งเรือหางยาวไปตามเกาะต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีรีสอร์ทสุดหรูที่ให้บริการทั้งความสะดวกสบายและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เช่น “หลีเป๊ะ รีสอร์ท” หรือ “บาราคูด้า รีสอร์ท” ที่มอบวิวทะเลอันงดงามและบริการระดับพรีเมียม
ข้อมูลการเดินทาง
การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะสามารถทำได้ง่ายโดยการนั่งรถจากเมืองหลวงสตูลไปยังท่าเรือปากบารา แล้วต่อเรือเฟอร์รี่หรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำ สามารถเช่าบริการดำน้ำจากรีสอร์ทต่าง ๆ โดยราคาตั้งแต่ประมาณ 1,500 บาทต่อทริป แผนที่ Google Maps
7. ลำพูน
ลำพูน เมืองเล็กในภาคเหนือที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบและประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ใกล้เชียงใหม่แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่แตกต่าง ไฮไลท์สำคัญของเมืองนี้คือ วัดพระธาตุหริภุญชัย พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองที่งดงามด้วยองค์เจดีย์สีทองเจิดจ้า นอกจากนี้ยังมี วัดจามเทวี ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของพระนางจามเทวี ผู้เป็นปฐมกษัตริย์ของเมืองลำพูน
นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวลำพูนได้ที่ตลาดเช้าท้องถิ่น และลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อ เช่น ข้าวซอย และ น้ำพริกหนุ่มกับแคบหมู สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ แนะนำให้แวะชม สวนลำไย ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองหรือเดินเล่นที่ สะพานขาวทาชมภู จุดถ่ายรูปยอดนิยมในบรรยากาศสุดคลาสสิก
ข้อมูลการเดินทาง
วัดพระธาตุหริภุญชัย เปิดบริการทุกวัน เวลา 06.00–18.00 น. ค่าเข้าชมประมาณ 20 บาท แผนที่ Google Maps
การเดินทางจากเชียงใหม่ สามารถนั่งรถยนต์หรือรถประจำทางมายังลำพูน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือเช่าจักรยานสำหรับการเดินทางในตัวเมือง
8. ชะอำ
ชะอำ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาสถานที่พักผ่อนระยะสั้นใกล้กรุงเทพฯ ด้วยชายหาดที่ทอดยาว ทรายเนื้อละเอียด และบรรยากาศที่เหมาะกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ไฮไลท์สำคัญของชะอำคือกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย เช่น การเล่นบานาน่าโบ๊ท เจ็ตสกี หรือการนั่งช้างชมวิว นอกจากนี้ยังมีที่พักติดชายหาดให้เลือกมากมาย ตั้งแต่รีสอร์ตหรูไปจนถึงบังกะโลเล็ก ๆ พร้อมวิวทะเล
สำหรับสายอาหารทะเล ชะอำมีร้านอาหารทะเลสดใหม่ที่ตั้งอยู่ริมชายหาด เช่น ร้านปลาทูซีฟู้ด และตลาดอาหารทะเลสดชะอำที่คุณสามารถเลือกซื้อของสดกลับบ้านหรือให้นำไปปรุงได้ทันที กิจกรรมเสริมยังรวมถึงการปั่นจักรยานเลียบชายหาด หรือการเดินทางไปเยี่ยมชม พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง
ข้อมูลการเดินทาง
กิจกรรมชายหาด เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับประเภทกิจกรรม
การเดินทาง ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้ หรือรถไฟ สถานีชะอำตั้งอยู่ใกล้ชายหาด แผนที่ Google Maps
ชะอำเป็นสถานที่ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย พร้อมกิจกรรมหลากหลายและบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับวันหยุดสั้น ๆ ที่เติมเต็มพลังได้อย่างสมบูรณ์แบบ
9. ดอนหอยหลอด
ดอนหอยหลอด จ.สมุทรสงคราม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหารที่โดดเด่นด้วยหอยหลอดสดใหม่และการตกหอยที่สนุกสนาน บรรยากาศของที่นี่เรียบง่ายและเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนพร้อมสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ไฮไลท์สำคัญของดอนหอยหลอดคือกิจกรรมจับหอยที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทั้งสนุกและได้เรียนรู้การทำอาหารจากหอยหลอดสด ๆ
นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารทะเลสดที่แนะนำอย่าง ร้านหอยหลอดดอนหอยหลอด ที่เสิร์ฟเมนูหอยหลอดสด ๆ ที่มีรสชาติอร่อย หรือจะเลือกชมทิวทัศน์ในบรรยากาศริมน้ำที่หลายร้านจัดเตรียมไว้ให้ รวมถึงการเดินเล่นในตลาดที่จำหน่ายของท้องถิ่น และเสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวประมง
ข้อมูลการเดินทาง
กิจกรรมจับหอย เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-17.00 น. ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับแพ็กเกจกิจกรรม
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียง 1.5 ชั่วโมง โดยการขับรถหรือใช้บริการรถตู้ แผนที่ Google Maps
ร้านอาหารแนะนำ ร้านหอยหลอดดอนหอยหลอด และ ร้านอาหารริมแม่น้ำ
ดอนหอยหลอดเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่เรียบง่ายและสนุกสนาน
10. เกาะหมาก
เกาะหมาก จังหวัดตราด เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายและผ่อนคลายท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลและชายหาดที่ยังคงความสมบูรณ์ ไฮไลท์สำคัญของเกาะหมากคือ ชายหาดของรีสอร์ทต่าง ๆ ที่เงียบสงบและน้ำทะเลใส ๆ เช่น หาดแหลมสิงห์ และ หาดขาว ที่เหมาะแก่การพักผ่อน
กิจกรรมที่ไม่เหมือนใครบนเกาะคือการ ปั่นจักรยานชมวิวรอบเกาะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังสามารถเดินชมรอบ ๆ เกาะ หรือไปดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจแนวปะการังสวยงาม รอบเกาะมีรีสอร์ทที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่าง เกาะหมากรีสอร์ท และ The Cinnamon Art Resort
ข้อมูลการเดินทาง
กิจกรรมปั่นจักรยาน เปิดให้บริการทุกวัน ฟรีหรือในกรณีพักที่รีสอร์ท
การเดินทางจากตราด สามารถนั่งเรือจากท่าเรือเกาะช้างไปยังเกาะหมาก ใช้เวลาประมาณ 45 นาที แผนที่ Google Maps
รีสอร์ทแนะนำ เกาะหมากรีสอร์ท และ The Cinnamon Art Resort
เกาะหมากเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบชิล ๆ ท่ามกลางธรรมชาติและทะเลที่เงียบสงบ ใครที่อยากหนีจากความ วุ่นวายจะได้พบกับความสวยงามของเกาะที่น่าหลงใหล
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวไทยที่คนอยากไปมากที่สุดในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรม หรืออาหาร ไทยก็มีทุกอย่างให้คุณได้สัมผัส ลองเลือกจุดหมายปลายทางที่ตรงกับความสนใจของคุณและเริ่มแพลนการเดินทางในครั้งถัดไปเลย แล้วคุณจะค้นพบว่าความสวยงามของเมืองไทยไม่มีที่สิ้นสุด
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- เที่ยว 9 เมืองดังญี่ปุ่น รับหิมะหน้าหนาว ฉลองคริสต์มาส-ปีใหม่ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
- รวม 7 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ วันหยุดนี้พาลูกไปเที่ยวไหนดี
- เที่ยวอุดรธานี หนาวนี้ ไม่มีเหงา สัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศดี เดือนธันวาคม 2567