คริสต์มาสทำอะไรบ้าง แนะนำกิจกรรมแห่งความสุข เฉลิมฉลองวันพระคริสต์ แบ่งปันรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ อบอุ่นใจท่ามกลางอากาศหนาวปลายปี ใกล้เทศกาลปีใหม่ 2568 แม้เมืองหลวงบ้านเราจะไม่มีหิมะสีขาวโปรยปราย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะสนุกกับเทศกาลนี้ไม่ได้ ตั้งแต่การชมไฟคริสต์มาสตามห้างดัง จิบกาแฟในคาเฟ่ธีมคริสต์มาสอันอบอุ่น ไปจนถึงการลงมือทำคุกกี้แจกผู้คนที่เราห่วงใย เรายังมีอีกหลายไอเดียมานำเสนอ เพื่อให้คุณดื่มด่ำฤดูกาลแห่งการให้และเพิ่มสีสันคริสต์มาสของคุณให้น่าจดจำกว่าที่เคย!
1. เดินชิลล์ชมไฟคริสต์มาสที่ห้าง แลนด์มาร์กดัง
ถ้าพูดถึงเทศกาลคริสต์มาสในกรุงเทพฯ หลายคนน่าจะนึกถึงภาพแสงไฟระยิบระยับบนต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าแลนด์มาร์กสำคัญต่าง ๆ โดยเฉพาะแถวใจกลางเมือง ห้างสรรพสินค้าชื่อดังและศูนย์การค้าหรูทั้งหลายต่างพากันตกแต่งบรรยากาศให้เหมือนหลุดเข้าไปในเวทีเทพนิยายช่วงปลายปี อย่าง CentralWorld คุณจะได้พบกับต้นคริสต์มาสสูงใหญ่โดดเด่นท่ามกลางลานกว้างประดับประดาด้วยไฟหลากสี ดูราวกับเมืองสโนว์โกลบยักษ์ ๆ ที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้คน
ที่ Iconsiam ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปีนี้มาคอนเซปต์ ICONSIAM BANGKOK ILLUMINATION 2024 x ROBBi ต้นคริสต์มาสความสูง 21 เมตร และ อาร์ตทอยส์ ที่สูงที่สุดในโลก เพิ่มความโรแมนติกด้วยการตกแต่งไฟริมแม่น้ำ ชมวิวสายน้ำระยิบระยับผสานไปกับความงดงามของแสงไฟคริสต์มาส เพลิดเพลินกับการเดินเล่นบนลานริมน้ำที่มีงานอีเวนต์น่ารัก ๆ คอยสลับสับเปลี่ยนมาสร้างสีสันตลอดช่วงเทศกาล คุณอาจได้เจอการแสดงดนตรีสด มาสคอตซานต้า หรือแม้แต่ตลาดคริสต์มาสเล็ก ๆ ให้คุณได้เลือกซื้อของขวัญเก๋ ๆ ก่อนกลับบ้าน
ขณะที่ EmQuartier และห้างหรูอื่น ๆ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ด้วยการประดับแสงไฟและต้นคริสต์มาสดีไซน์แปลกตา อาจมีคอนเซ็ปต์สีสันสดใส มีงานศิลปะจัดวางที่เข้ากับบรรยากาศเทศกาล สถานที่เหล่านี้ยังมาพร้อมมุมถ่ายรูปฮิต ๆ ให้คุณได้โพสท่าสวย ๆ แชร์ลงโซเชียล เรียกยอดไลค์จากเพื่อนแบบจัดเต็ม
เคล็ดลับเพื่อให้ได้ฟีลเพอร์เฟ็กต์คือ ลองเลือกช่วงเวลายามเย็นที่แดดเริ่มอ่อนและฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ไฟคริสต์มาสจะดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ควรสวมเสื้อผ้าที่แม้จะบางเบาแต่ดูอบอุ่นสักนิด เพื่อถ่ายรูปออกมาแล้วรู้สึกถึงบรรยากาศฤดูหนาว (ถึงแม้อากาศจะไม่ได้หนาวขนาดนั้นก็ตาม!) นอกจากนี้อย่าลืมพกกล้องหรือสมาร์ตโฟนแบตเต็ม ๆ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ ไปอวดเพื่อน ๆ และถ้าไปเป็นแก๊ง อย่าพลาดโอกาสถ่ายภาพหมู่หน้าต้นคริสต์มาสสูงตระหง่าน เป็นความทรงจำดี ๆ ร่วมกันก่อนข้ามปี
2. จิบกาแฟในคาเฟ่ธีมคริสต์มาส
จะมีอะไรฟินไปกว่าการนั่งร้านคาเฟ่ ดื่มเครื่องดื่มหรือขนมอร่อย ๆ ท่ามกลางการตกแต่งร้านในธีมคริสต์มาส ลองจินตนาการถึงคาเฟ่ที่มีต้นสนเล็ก ๆ ประดับประดาด้วยลูกบอลหลากสี ผนังอาจประดับด้วยโปสเตอร์ลายซานต้า กวางเรนเดียร์ หรือหิมะปลอมเบา ๆ เพิ่มความรู้สึกว่าคุณกำลังหลบความวุ่นวายของเมืองเข้าไปสู่มุมสงบและน่ารักแห่งหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้ช่วงเทศกาลนี้น่าสนุกยิ่งขึ้นคือเมนูเครื่องดื่มและขนมพิเศษที่มีเฉพาะตอนนี้เท่านั้น เช่น มอคค่ามินต์ ที่เติมความหอมเย็นสดชื่นในกาแฟหรือโกโก้ร้อนแก้วโปรด หรือจะเป็นลาเต้ที่บาริสต้าละเลงฟองนมนุ่ม ๆ ออกมาเป็นลายต้นคริสต์มาสหรือหน้าซานต้า นอกจากนั้นยังมีการเสิร์ฟขนมอบพิเศษอย่าง คัพเค้กสีแดงเขียว หน้าครีมชีสนุ่ม ๆ หรือคุ้กกี้ขิงตกแต่งด้วยไอซิ่งรูปตุ๊กตาขนมปังขิงที่คุ้นเคยในเทศกาลนี้
ความสนุกไม่ได้อยู่แค่ในแก้วกาแฟหรือจานขนม แต่รวมถึงอารมณ์และประสบการณ์ที่คุณจะได้รับ หากคุณเป็นคนรักการอ่าน การพกหนังสือเล่มโปรดมาเปิดอ่านใต้แสงไฟอุ่น ๆ ในคาเฟ่แบบนี้ก็เป็นไอเดียเก๋ ๆ หรือถ้าอยากชวนเพื่อนสนิทมานั่งพูดคุย ก็สามารถแลกเปลี่ยนเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา พร้อมกับจิบกาแฟรสละมุน ชื่นชมการตกแต่งน่ารัก ๆ รอบตัว
อีกไอเดียคือคาเฟ่บางแห่งอาจมีกิจกรรมพิเศษตลอดเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อปทำคุกกี้คริสต์มาส การวาดการ์ดอวยพร หรือแม้แต่การแสดงดนตรีอะคูสติกเบา ๆ คอยขับกล่อมให้ช่วงเวลาในคาเฟ่แห่งนี้เป็นประสบการณ์ที่คุณประทับใจ
3. ลงมือทำคุกกี้-ของหวาน DIY
ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส บรรยากาศการ “ให้” และ “แบ่งปัน” ดูจะอบอวลอยู่รอบตัว ไม่มีวิธีไหนจะสื่อถึงความใส่ใจได้ดีไปกว่าการทำขนมด้วยมือของคุณเอง
เริ่มต้นด้วยการเลือกสูตรของหวานที่ทำไม่ยาก เช่น คุกกี้เนยสดกรุบกรอบ หรือบราวนี่ช็อกโกแลตเนื้อแน่นเพิ่มความเข้มข้น อาจปรับเปลี่ยนเป็นธีมคริสต์มาสโดยใช้อุปกรณ์ตัดคุกกี้รูปต้นคริสต์มาส ดาว หรือมนุษย์ขนมปังขิง นำคุกกี้อบเสร็จใหม่ ๆ มาตกแต่งด้วยไอซิ่งสีเขียวแดง หรือช็อกโกแลตละลายวาดเป็นลวดลายกวางเรนเดียร์หรือหมวกซานต้า
หากเลือกทำบราวนี่ อาจใช้ไวท์ช็อกโกแลตหรือครีมชีสมาท็อปหน้า แล้ววาดเป็นลายกวางเรนเดียร์เพิ่มความน่ารัก หรือจะแต่งให้เป็นรูปต้นคริสต์มาสเล็ก ๆ ด้วยเกล็ดน้ำตาลหลากสี เพื่อให้ขนมชิ้นธรรมดาดูสนุกสนานเข้ากับธีมเทศกาลยิ่งขึ้น
นอกจากความอร่อย ขนมโฮมเมดจะยิ่งน่าประทับใจขึ้นไปอีกเมื่อคุณห่อหุ้มอย่างน่ารัก ควรเตรียมกล่องหรือถุงกระดาษลายคริสต์มาส เขียนการ์ดอวยพรเล็ก ๆ ด้วยลายมือของคุณเอง อาจผูกริบบิ้นสีแดงเขียวเพิ่มความสดใส แค่นี้ของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ที่มาจากใจคุณก็พร้อมจะมอบความสุขให้ผู้รับ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนที่คุณแอบชอบ เป็นการส่งต่อความอบอุ่นและกำลังใจในช่วงท้ายปีไปในคราวเดียว
ที่สำคัญ การลงมือทำคุกกี้หรือของหวานในช่วงคริสต์มาสยังเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย หากคุณมีเด็ก ๆ ในบ้าน ลองชวนพวกเขามาช่วยตกแต่งคุกกี้ รับรองว่าเด็ก ๆ จะสนุกและจดจำประสบการณ์เหล่านี้ไปอีกนาน
หรือหากคุณทำคนเดียว การได้เปิดเพลงคริสต์มาสคลอเบา ๆ แล้วลงมืออบขนมก็เป็นการผ่อนคลายที่ดีไม่น้อย พอขนมเสร็จ คุณจะไม่เพียงได้รสชาติหวานอร่อย แต่ยังได้รอยยิ้มและความรู้สึกฟิน ๆ ที่ได้ทำสิ่งดี ๆ เพื่อผู้อื่นด้วยใจจริงอีกด้วย
4. จัดปาร์ตี้คริสต์มาสที่บ้านแบบโฮมมี่
บางครั้งความสนุกของเทศกาลแดงเขียวไม่ได้วัดกันที่ความใหญ่โตของงานเลี้ยง แต่เป็นความอบอุ่น สนิทสนมที่คุณแชร์ร่วมกับคนใกล้ตัว ลองชวนเพื่อนสนิทหรือญาติพี่น้องไม่กี่คนมารวมตัวกันที่บ้าน ไม่ต้องจัดเต็มถึงขั้นอาหารทำยาก แค่วางเมนูง่าย ๆ บนโต๊ะ เช่น พิซซ่าโฮมเมด เบเกิลอบใหม่ ๆ สลัดผักสด หรือแม้แต่คุกกี้คริสต์มาสโฮมเมดฝีมือคุณเอง
จากนั้นเตรียมเครื่องดื่มเบา ๆ เช่น ไวน์แดงอุ่น ๆ ชาสมุนไพรร้อน หรืออาจลองน้ำผลไม้สูตรง่าย ๆ เพื่อเติมบรรยากาศเทศกาล
เพื่อให้ได้ฟีลคริสต์มาสแท้ ๆ อย่าลืมเปิดเพลงคริสต์มาสคลอเบา ๆ เช่นเพลง All i want for christms is you ราวกับซาวนด์แทร็กประกอบชีวิตคุณและเพื่อน ๆ ให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย ขยับเท้าเบา ๆ ไปตามจังหวะเพลง
เมื่อสังสรรค์ไปสักพัก ลองหาเกมสนุก ๆ มาเล่นกันเพื่อสร้างเสียงหัวเราะ อาจเป็นเกมกระดานเบาสมองหรือการจับฉลากแลกของขวัญแบบ Secret Santa ที่ทุกคนจะได้รับของขวัญโดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนเตรียม ช่วงเวลาแห่งการเปิดของขวัญเหล่านี้มักเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกและเสียงหัวเราะอย่างเป็นกันเอง
งานเลี้ยง ต้องไม่พลาดตกแต่งห้องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น แขวนไฟกระพริบสีสันสวยงาม หาต้นคริสต์มาสขนาดย่อมประดับด้วยลูกบอลและริบบิ้น ช่วยเพิ่มบรรยากาศแบบโฮมมี่ ให้ความรู้สึกว่าแม้จะอยู่ในเมืองใหญ่ แต่คุณก็สามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับพักใจในช่วงเทศกาล ให้บ้านของคุณกลายเป็นฮับเล็ก ๆ ที่มีเพียงเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และมิตรภาพที่หาไม่ได้จากงานเลี้ยงใหญ่โตนอกบ้าน
ท้ายที่สุดแล้ว งานปาร์ตี้คริสต์มาสเรียบง่ายสไตล์โฮมมี่นี้จะกลายเป็นความทรงจำดี ๆ ที่ทุกคนจะจดจำไปอีกนาน ไม่ใช่เพราะความหรูหรา หากแต่เป็นเพราะบรรยากาศสบาย ๆ และความจริงใจที่ได้แบ่งปันร่วมกันในค่ำคืนแสนอบอุ่นของเทศกาลคริสต์มาส 2024
5. ให้ของขวัญตัวเอง
คริสต์มาสเป็นเทศกาลแห่งการให้ หลายคนอาจโฟกัสไปที่การมอบของขวัญให้ครอบครัว เพื่อน หรือคนที่เรารัก จนเผลอมองข้ามใครคนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือตัวคุณเอง
หลังจากทำงานหนัก ฝ่าฟันปัญหา ความท้าทายมาตลอดปี การให้ของขวัญแก่ตัวเองคือการเติมพลังบวก สร้างกำลังใจ และเตือนว่าคุณได้ทำดีที่สุดในปีที่ผ่านมาแล้ว
เริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่า อะไรจะทำให้คุณยิ้มได้ในเช้าคริสต์มาส? อาจเป็น หนังสือเล่มใหม่ จากนักเขียนคนโปรดที่คุณเล็งไว้ตั้งแต่ต้นปีแต่ยังไม่มีเวลาอ่าน หรือ เสื้อไหมพรมอุ่น ๆ สักตัว ที่แม้กรุงเทพฯ จะไม่หนาวจัด แต่การสวมเสื้อนุ่ม ๆ ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจได้เป็นอย่างดี
คุณอาจเลือกของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ที่มีความหมาย เช่น แก้วกาแฟลายกวางเรนเดียร์หรือซานต้า ไว้ใช้จิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ ทุกเช้า เพราะทุกครั้งที่หยิบแก้วใบนี้ขึ้นมา คุณจะนึกถึงช่วงเวลาปลายปีที่ให้รางวัลตัวเอง
นอกจากของขวัญรูปธรรมแล้ว การให้ของขวัญตัวเองยังหมายถึงการให้เวลาและโอกาสในการพักผ่อน ลองจัดวันหยุดสักวันเพื่อทำกิจกรรมที่คุณชอบ เช่น ไปสปา ดูหนังคริสต์มาสในบ้านแบบมาราธอน หรือออกไปเดินเล่นในสวนสวย ๆ เพื่อชาร์จแบตชีวิต
อาจลองตั้งเป้าหมายง่าย ๆ ว่าปีหน้าคุณจะพัฒนาตัวเองอย่างไร แล้วให้ของขวัญชิ้นนั้นเป็นสัญลักษณ์ย้ำเตือนว่าคุณพร้อมจะก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็งและมีความสุข
6. ร่วมงานการกุศล
ใช้เวลาช่วงนี้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นเป็นหนึ่งในเป้าหมายช่วยเพิ่มพลังใจให้มีแรงสู้กับปีหน้า ลองมองหากิจกรรมการกุศลใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคของเล่น เสื้อผ้า ผ้าห่ม หรืออุปกรณ์การเรียนให้กับเด็ก ๆ ในสถานสงเคราะห์ การนำอาหารกระป๋อง ข้าวสาร หรือเครื่องใช้จำเป็นไปบริจาคตามศูนย์พักพิงผู้ด้อยโอกาส หรือตรวจสอบว่ามีโบสถ์ มูลนิธิ หรือกลุ่มอาสาสมัครใด ๆ ในกรุงเทพฯ ที่จัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับคริสต์มาสหรือปีใหม่บ้าง
แนะนำว่าใช้กิจกรรมนี้เป็นโอกาสพบปะผู้คนที่มีใจเปิดกว้างและพร้อมแบ่งปันความสุขร่วมกัน บางกิจกรรมอาจมีตลาดนัดการกุศลที่จำหน่ายสินค้าจากกลุ่มชุมชนหรืองานฝีมือของคนในท้องถิ่น คุณอาจได้เลือกซื้อของใช้ หรือของขวัญคริสต์มาสที่มีความหมาย ช่วยสนับสนุนรายได้ให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในทางอ้อม
หลายครั้งที่กิจกรรมการกุศลจัดให้ผู้เข้าร่วมได้ลงมือทำอะไรบางอย่างด้วยตนเอง เช่น การแพ็กชุดของขวัญ การห่อของบริจาค การช่วยจัดกิจกรรมสันทนาการให้เด็ก ๆ ในศูนย์อุปการะ หรือแม้แต่การทำอาหารเพื่อเลี้ยงผู้ด้อยโอกาส การได้ใช้สองมือของคุณสร้างรอยยิ้มและความสุขให้แก่ผู้อื่นจะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าเป็นการให้ที่ไม่ได้วัดแค่ตัวเงิน แต่คือเวลาคุณค่าทางจิตใจที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ให้และผู้รับ
7. ชมคอนเสิร์ตหรือดนตรีสดเทศกาลคริสต์มาส
หากคุณเป็นคนรักเสียงดนตรี เรามีตารางอีเวนต์แสดงคอนเสิร์ตต้อนรับคริสต์มาสของห้าง สถานที่ต่างๆ มาแจก แต่ถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศแบบใกล้ชิดพระเจ้า แนะนำโบสถ์คริสต์ จะมีการร้องเพลงประสานเสียง (คอรัส) ที่ถ่ายทอดเพลงคริสต์มาสแบบดั้งเดิม ราวกับเสียงสวรรค์ที่แผ่วเบาอยู่ในอากาศ
แต่หากคุณชื่นชอบสไตล์ร่วมสมัยมากขึ้น ก็อาจจะเจอดนตรีแจ๊สหรืออะคูสติก ที่นำเพลงคริสต์มาสมาดัดแปลงให้ฟังสบาย ๆ เหมาะกับการนั่งฟังเพลิน ๆ ในคาเฟ่หรือบาร์เครื่องดื่มบรรยากาศดี
บางแห่งอาจจัดเป็นอีเวนต์ในโถงโบสถ์ที่มีเสียงกังวาลก้องกังวานสะท้อนเสน่ห์สถาปัตยกรรมและศิลปะล้ำค่า คุณจะได้ดื่มด่ำกับมนตร์เสน่ห์แห่งเสียงเพลง โครงสร้างอาคารที่เก่าแก่และงดงาม อาจมีการประดับประดาโบสถ์ด้วยต้นคริสต์มาสแสงไฟสลัว ให้ความรู้สึกเสมือนเดินทางเข้าไปในฉากภาพยนตร์เทศกาล หรือถ้าเป็นหอศิลป์หรือศูนย์วัฒนธรรม บรรยากาศอาจเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความละมุน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน คุณก็มีโอกาสเพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่ช่วยบ่มเพาะความรู้สึกสุขุมละมุนใจ
คอนเสิร์ตที่สยามพารากอน
- วันที่ 23 ธ.ค. 67 ร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสสุดพิเศษกับศิลปินหนุ่มสุดฮอต “โด คยองซู (DOH KYUNG SOO)” ในงาน “SIAM PARAGON PRESENTS THE FIRST CHRISTMAS WITH DOH KYUNG SOO”
- วันที่ 24 ธ.ค. 67 พบกับนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “นนน-กรภัทร์”
- วันที่ 25 ธ.ค. 67 พบกับเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ “ไบร์ท วชิรวิชญ์” และ “กลัฟ-คณาวุฒิ” ในงาน “SIAM PARAGON GLORIOUS CHRISTMAS CELEBRATION”
คอนเสิร์ตคริสต์มาส คิง เพาเวอร์
- วันที่ 20 -22 ,24-25 ธันวาคม 2567 พบกับคริสต์มาสพาเหรด
- วันที่ 20 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก PUN
- วันที่ 21 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก WIM
- วันที่ 22 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก BAMM
- วันที่ 23 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก GETSUNOVA
- วันที่ 24 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก TATTOO COLOUR
- วันที่ 25 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก PORCHE
- วันที่ 26 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก JETSET’ER
- วันที่ 27 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก FELLOW FELLOW
- วันที่ 28 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก NONT TANONT
- วันที่ 29 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก PALMY
- วันที่ 30 ธันวาคม 2567 มินิคอนเสิร์ตจาก ICE PARIS
8. มูฟไนท์กับหนังคริสต์มาส
การนอนขดบนโซฟา เปิดแอร์เย็น ๆ เปิด Netflix หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิงเจ้าโปรด หยิบป๊อปคอร์นหรือคุกกี้ที่คุณทำเองขึ้นมาทานไปด้วย พร้อมเลือกหนังคริสต์มาสดี ๆ สักเรื่องมาดู เป็นกิจกรรมเรียบง่ายแต่เติมเต็มบรรยากาศเทศกาลได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับใครที่ไม่รู้จะดูอะไรดี นี่คือ 10 หนังคริสต์มาสระดับตำนาน อมตะ คลาสสิก ดูกี่ครั้งก็ประทับใจ และเข้ากับอารมณ์ปลายปีสุด ๆ
1. Home Alone (1990)
เรื่องย่อ: เควิน เด็กชายวัยซนถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียวโดยบังเอิญในช่วงคริสต์มาส ขณะที่ครอบครัวเดินทางไปพักผ่อนต่างเมือง โจรสองคนพยายามจะบุกเข้ามาในบ้าน แต่เควินใช้ความฉลาดและทริคสุดป่วนในการปกป้องบ้านอย่างกล้าหาญ
นี่คือหนังคริสต์มาสในดวงใจของใครหลายคน สนุก ขำขัน และอบอุ่นหัวใจ แถมยังสอนเรื่องความรักและความผูกพันของครอบครัว
2. Love Actually (2003)
เรื่องย่อ: เรื่องราวความรักหลากหลายรูปแบบของคนอังกฤษหลายคู่ หลายสถานะ ที่เกิดขึ้นช่วงเทศกาลคริสต์มาส ไม่ว่าจะเป็นรักแรกพบ รักต้องห้าม รักเพื่อน หรือรักในครอบครัว
หนังเรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจว่ารักมีหลากหลายมิติ ดูแล้วอบอุ่น อ่อนโยน และเต็มไปด้วยโมเมนต์โรแมนติกประทับใจ
3. How the Grinch Stole Christmas (2000)
เรื่องย่อ: กริ๊นช์ ตัวประหลาดสีเขียวที่เกลียดคริสต์มาส พยายามขโมยเทศกาลและความสุขจากชาวเมืองฮู จนกระทั่งได้พบกับเด็กน้อยที่ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองต่อชีวิตและเทศกาลนี้
เนื้อหาอบอุ่นสอนใจว่าความรักและความเมตตาสามารถเปลี่ยนใจคนได้ บวกกับฉากและเครื่องแต่งกายสุดแฟนตาซีที่ดึงบรรยากาศคริสต์มาสมาเต็ม ๆ
4. The Polar Express (2004)
เรื่องย่อ: เด็กชายผู้ลังเลที่จะเชื่อในซานต้า ขึ้นรถไฟสายพิเศษ “Polar Express” มุ่งหน้าไปขั้วโลกเหนือ พบการผจญภัยสุดอัศจรรย์ และได้เรียนรู้ความหมายของการเชื่อและความหวัง
ภาพแอนิเมชันสวยงาม เพลงไพเราะ และเรื่องราวที่ปลุกความเชื่อในจิตใจผู้ชม ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกอัศจรรย์
5. Miracle on 34th Street (1947)
เรื่องย่อ: คุณลุงผู้แต่งตัวเป็นซานตาคลอสในห้างดัง ถูกกล่าวหาว่าเป็นบ้าเพราะเขายืนยันว่าตัวเองคือซานต้าจริง ๆ ผู้คนต้องตัดสินใจว่าจะเชื่อในปาฏิหาริย์หรือมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน
หนังคลาสสิกอายุเก่าแก่ แต่ยังคงมนตร์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย สอนให้เราเชื่อในความดีและปาฏิหาริย์ในชีวิต
6. It’s a Wonderful Life (1946)
เรื่องย่อ: จอร์จ เบลลิงส์ ผู้สิ้นหวังในชีวิตคืนคริสต์มาส แต่ได้พบกับเทวดาผู้มาช่วยให้เขาเห็นคุณค่าของชีวิตผ่านการย้อนดูว่าโลกจะเป็นอย่างไรถ้าเขาไม่เคยเกิดมา
หนังขาวดำสุดคลาสสิกเรื่องนี้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งสำหรับหลายคน เพราะเต็มไปด้วยแง่คิดเรื่องคุณค่าของคน ความหวัง และการให้อภัย
7. Elf (2003)
เรื่องย่อ: บัดดี้ มนุษย์ที่เติบโตในขั้วโลกเหนือและคิดว่าตัวเองเป็นเอลฟ์ ช่วงคริสต์มาสเขาเดินทางมานิวยอร์กเพื่อหาพ่อแท้ ๆ และพยายามนำความสุขแบบเอลฟ์มาสู่เมืองใหญ่อันแสนวุ่นวาย
เต็มไปด้วยมุกตลกน่ารัก เนื้อหาสอนให้เปิดใจรับความสุขเหมือนเด็ก ๆ และเชื่อในความอบอุ่นของครอบครัว
8. The Christmas Chronicles (2018)
เรื่องย่อ: พี่น้องคู่หนึ่งพยายามถ่ายวิดีโอซานตาคลอส แต่กลับทำให้รถเลื่อนพัง จึงต้องร่วมมือกับซานต้าแก้สถานการณ์ให้คริสต์มาสผ่านไปได้ด้วยดี
สนุก เร้าใจ ผจญภัยในคืนคริสต์มาส สอดแทรกความรักของครอบครัว และการเชื่อว่าเทศกาลนี้จะพิเศษได้เสมอ
9. Klaus (2019)
เรื่องย่อ: บุรุษไปรษณีย์ที่ถูกส่งไปยังเมืองหนาวเหน็บ ได้พบกับช่างทำของเล่นผู้สันโดษ เกิดเป็นมิตรภาพและแรงบันดาลใจในการแบ่งปันของขวัญ ช่วยให้ชุมชนกลับมามีความรักและความสุข
แอนิเมชันภาพสวย มุ่งเน้นเรื่องการให้และการเสียสละ ความอบอุ่นหัวใจที่เหมาะกับเทศกาลคริสต์มาส
10. The Holiday (2006)
เรื่องย่อ: ผู้หญิงสองคนต่างประเทศที่ผิดหวังในความรัก ตัดสินใจสลับบ้านกันช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ เพื่อหลีกหนีความทุกข์ แต่กลับได้พบเจอกับมิตรภาพและความรักใหม่โดยไม่คาดฝัน
โรแมนติก อบอุ่น และสวยงาม เหมาะกับช่วงเทศกาล ช่วยให้เห็นว่าการเปลี่ยนมุมมองและสถานที่สามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิตได้
9. เขียนการ์ดอวยพรส่งความสุข
ในยุคที่ข้อความอวยพรส่วนใหญ่มักถูกส่งผ่านแอปแชทหรือสื่อโซเชียลมีเดีย การหยิบปากกาขึ้นมาเขียนการ์ดกระดาษด้วยลายมือตัวเองเป็นการกระทำที่คลาสสิก อบอุ่นใจอย่างไม่เสื่อมคลาย
ลองเลือกการ์ดเรียบง่ายที่มีลายต้นคริสต์มาส กวางเรนเดียร์ หรือซานตาคลอส จะเป็นแบบทำมือหรือซื้อสำเร็จจากร้านเครื่องเขียนน่ารัก ๆ ก็ได้ สิ่งสำคัญคือการเติมข้อความที่ออกมาจากหัวใจ
เริ่มด้วยการเขียนคำอวยพรที่สะท้อนถึงความรู้สึกจริงใจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันตลอดปีที่ผ่านมา คำอวยพรให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขในปีใหม่ หรือส่งกำลังใจให้เขาก้าวผ่านอุปสรรคต่อไป แม้จะเป็นประโยคสั้น ๆ แต่หากออกมาจากความใส่ใจ มันจะเปลี่ยนกระดาษหนึ่งแผ่นให้มีความหมายลึกซึ้ง
หลังจากเขียนเสร็จ ลองหาซองสีสวย ๆ แปะสแตมป์คริสต์มาสน่ารัก ๆ แล้วหย่อนลงในตู้ไปรษณีย์ หากเป็นคนสนิท อาจแนบการ์ดไปพร้อมของขวัญเล็ก ๆ หรือคุกกี้ที่คุณลงมือทำเอง เวลาที่ผู้รับฉีกซองออกอ่าน พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความพิเศษของคำพูดที่ไม่ได้ผ่านแป้นพิมพ์ แต่ผ่านปลายปากกาและเวลาที่คุณตั้งใจมอบให้
ในโลกดิจิทัลที่ทุกอย่างรวดเร็ว การส่งการ์ดอวยพรด้วยวิธีคลาสสิกเช่นนี้จึงเป็นการผ่อนจังหวะชีวิตให้อ่อนโยนขึ้น นำมาซึ่งความรู้สึกว่าคุณได้ใส่ทั้งหัวใจและความตั้งใจลงไป ให้คนที่คุณรักรู้สึกอบอุ่นแม้ในคืนคริสต์มาสที่ไม่มีหิมะ โดยเหลือเพียงรอยยิ้มและความทรงจำดี ๆ แทนคำพูดที่พิมพ์ผ่านหน้าจอมือถือเท่านั้นเอง
ข่าวล่าสุด
