สุดอนาถ อดีตบิ๊กกลาโหมเกาหลีใต้ ใช้กางเกงใน หวังฆ่าตัวตายในคุก หนีผิดก่อกบฏ
![คิม ยองฮยอน อดีต รมว.กห. เกาหลีใต้ วางแผนใช้ กางเกงชั้นใน ปลิดชีพตัวเองในคุก หวังหนีความผิดฐาน ก่อกบฏ หลังเอี่ยว ปธน. ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา](https://thethaiger.com/th/wp-content/uploads/2024/12/Former-South-Korean-Defense-Minister-Uses-Underwear-to-Commit-Suicide-in-Prison-Fleeing-Rebellion-Charges.jpg)
คิม ยองฮยอน อดีต รัฐมนตรีว่การกระทรวงกลาโหม เกาหลีใต้ วางแผนใช้ กางเกงชั้นใน ปลิดชีพตัวเองในคุก หวังหนีความผิดฐาน ก่อกบฏ หลังเอี่ยว ปธน. ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
หลังจากที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก อ้างป้องกันประเทศจากเกาหลีเหนือแบบงง ๆ เมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ก่อนจะถูกโหวตคว่ำบาตร 190 ต่อ 0 และโดนอัยการเกาหลีใต้ ตั้งข้อหากบฏ ในเวลาต่อมา กระทั่งล่าสุด มีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 อดีต รมว.กห. เกาหลีใต้ นายคิม ยองฮยอน พยายามใช้กางเกงชั้นในฆ่าตัวตายภายในสถานที่คุมคัง ความคืบหน้าในตอนนี้ นายคิม ปลอดภัยดี และมีเจ้าหน้าที่จับตาดูแลใกล้ชิด
แม้ว่า นาย ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะได้ยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้ว และถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมสอบสวนในข้อหากบฏ พร้อมทั้งมีประชาชนเดินประท้วงให้ลาออก แต่เจ้าตัวก็ประกาศกร่าวชัดไม่ขอลาออก เตรียมเข้าสู่กระบวนการล่ารายชื่อถอดถอน
![อดีต รมว กลาโหม เกาหลีใต้ ใช้กางเกงชั้นในปลิดชีพในคุก](https://thethaiger.com/th/wp-content/uploads/2024/12/อดีต-รมว-กลาโหม-เกาหลีใต้-ใช้กางเกงชั้นในปลิดชีพในคุก.jpeg)
ส่งผลให้มีคณะรัฐมนตรีจ่อลาออกยกทีม หนึ่งในนั้นคือ นายคิม ยองฮยอน ที่ได้ลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ ไปแล้วเมื่อวันพุธที่ 4 ธันวาคม 2567 ก่อนถูกควบคุมตัวในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา นายคิม หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อขัดขวางการใช้สิทธิ และผู้มีส่วนสำคัญในการก่อกบฏอีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หัวหน้าหน่วยรบพิเศษเกาหลี ลั่น พร้อมรับผิดชอบเต็มที่ หลังนำทหารบุกรัฐสภา
- อัยการเกาหลีใต้ เอาจริง ตั้งข้อหากบฎ ยุน ซอกยอล ประกาศกฎอัยการศึก
- เกาหลีเหนือ เย้ย ‘ยุน ซอกยอล’ บ้า เทียบเผด็จการ หลังประกาศกฎอัยการศึก
- อ.เจษฎ์ วิจารณ์เดือด กฎหมายอัยการศึกไทย ล้าหลัง ยกเคส “ลุงตู่” เทียบชัด
อ้างอิง : chinadaily