สยอง ลูก 1 ขวบ แคะหูตามแม่ จนน้ำไขสันหลังไหลทะลัก หมอเตือน อันตรายมาก
ภาพชวนขนลุก แม่แคะหูทารก วัยเพียงแค่ 1 ขวบ จนน้ำไขสันหลังไหลออกมา แพทย์เตือนห้ามทำแบบนี้เด็ดขาด
คนจำนวนมากชอบแคะหู ความรู้สึกคันๆ ชาๆ นั้นชวนหลงใหล โดยเฉพาะถ้าสามารถแคะขี้หูออกมาได้ “ก้อนใหญ่” ยิ่งรู้สึกสำเร็จมากขึ้นไปอีก
แต่การกระทำที่ให้ความรู้สึกดีนี้ หากทำไม่ถูกวิธีก็อันตรายมากเช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ แผนกหู คอ จมูก ของโรงพยาบาลเด็กเซินเจิ้นได้รับผู้ป่วยรายหนึ่งที่น่าเป็นห่วงมาก เมื่อเด็กอายุ 1 ปีครึ่งคนหนึ่งเลียนแบบผู้ใหญ่แคะหูที่บ้าน แต่พลาดเอาก้านสำลีแทงเข้าไปในรูหูลึกจนแก้วหูทะลุ
คุณแม่ของเด็กรีบดึงก้านสำลีออกและเช็ดเลือดทันทีที่พบเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่นานหลังจากนั้น แม้หูของเด็กจะไม่มีเลือดไหลแล้ว แต่กลับเริ่มมีของเหลวใสๆ ไหลออกมา น่าเป็นห่วงที่เด็กเริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และต่อมาก็มีไข้
ผู้ปกครองจึงพาเด็กส่งโรงพยาบาลเด็กเซินเจิ้น หลังจากแพทย์เก็บตัวอย่าง “ของเหลวปริศนา” ไปตรวจ พบว่ามีส่วนประกอบของกลูโคส โดยปกติแล้วเมื่อหูได้รับบาดเจ็บอาจมีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลออกมา แต่ของเหลวเหล่านั้นไม่มีส่วนประกอบของกลูโคส ในขณะที่น้ำเหลืองในหูชั้นในและน้ำไขสันหลังในสมองมีการเชื่อมต่อกัน และน้ำไขสันหลังมีส่วนประกอบของกลูโคส
แพทย์คาดการณ์ว่าหลังจากที่ก้านสำลีแทงเข้าไปในหูของเด็ก ไม่เพียงแต่ทำให้แก้วหูทะลุ แต่ยังทำให้โครงสร้างหูชั้นในเสียหาย ส่งผลให้น้ำไขสันหลังไหลผ่านช่องรูปไข่ที่เสียหายในหูชั้นในออกมาทางช่องหูอีกด้วย
นายแพทย์หวู่ เจ๋อปิน รองแพทย์หัวหน้าแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลเด็กเซินเจิ้น กล่าวว่า “หลังจากที่เราตรวจดูอาการ พบว่าเด็กมีของเหลวไหลออกจากช่องหูอย่างต่อเนื่อง สภาพนี้แตกต่างจากการบาดเจ็บที่ช่องหูทั่วไป อาจเป็นน้ำไขสันหลังรั่ว ต้องระมัดระวังมากๆ”
น้ำไขสันหลังคือของเหลวใสไม่มีสีที่อยู่ในโพรงสมองและช่องใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง มีหน้าที่รักษาการทำงานปกติและความเสถียรของระบบประสาทส่วนกลาง
เมื่อน้ำไขสันหลังรั่วไหลออกมาผิดปกติ ความดันในกะโหลกศีรษะจะลดลงและทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ในช่วงเวลานี้ เชื้อจุลินทรีย์อาจเข้าสู่กะโหลกศีรษะผ่านทางช่องที่รั่วนี้ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากหนอง
หลังจากการรักษาอย่างใกล้ชิด 9 วัน ในที่สุดหูของเด็กก็หยุดมีของเหลวไหลออกมา อาการคลื่นไส้และอาเจียนหายไป แต่แก้วหูยังคงมีรูทะลุ ทำให้การได้ยินลดลงในระดับปานกลาง แพทย์กล่าวว่า แก้วหูของเด็กยังต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู หากไม่สามารถหายได้เอง ในอนาคตอาจจำเป็นต้องผ่าตัดซ่อมแซมเยื่อหุ้มกระดูก
ขี้หูมีประโยชน์ในการปกป้อง
“ขี้หู” หรือในทางการแพทย์เรียกว่า “ไขหู” คือสารคัดหลั่งสีเหลืองอ่อนที่ผลิตจากต่อมสร้างไขหูในผิวหนังส่วนกระดูกอ่อนของช่องหูชั้นนอก
คนจำนวนมากชอบแคะหู บางคนถึงขั้นทำให้การแคะหูเป็นกิจกรรมพักผ่อน แต่ถ้าถามว่าทำไมคนถึงชอบแคะหู นั่นเป็นเพราะช่องหูของเรามีความอ่อนไหว มีปลายประสาทมากมาย เมื่ออุปกรณ์แคะหูสัมผัสหรือเสียดสี คนส่วนใหญ่จะรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายและใจ แท้จริงแล้วนี่เป็นการใช้ประโยชน์จากกลไกการให้รางวัลของร่างกายเรา
แต่แพทย์เตือนผู้ปกครองว่า การแคะหูบ่อยๆ อาจนำไปสู่ผลร้ายแรง รวมถึงการอุดตันของขี้หู แก้วหูทะลุ และการติดเชื้อ
ส่วนคำถามว่า ‘จริงๆ แล้วจำเป็นต้องแคะขี้หูหรือไม่?’ คำตอบก็คือ ไขหูมีหน้าที่ปกป้องช่องหูและป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา อีกทั้งช่องหูภายนอกยังมีความสามารถในการทำความสะอาดตัวเองได้ ดังนั้น ผู้ปกครองไม่ควรแคะหูให้เด็กตามใจชอบ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่ไม่จำเป็น
นายแพทย์หวู่ เจ๋อปิน รองแพทย์หัวหน้าแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลเด็กเซินเจิ้น กล่าวว่า: หากมีอาการปวดหู รู้สึกอึดอัด คัน หรือความรู้สึกไม่สบายใดๆ ที่หู ต้องรอให้แพทย์ตรวจดูก่อนและวินิจฉัยว่าจำเป็นต้องทำความสะอาด จึงจะทำความสะอาดได้
การทำความสะอาดหูในชีวิตประจำวัน เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดด้านนอกของหูและปากช่องหูเบาๆ ไม่ควรแคะลึกเกินไป และพยายามรักษาช่องหูให้แห้ง หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ หากมีอาการคันหูเป็นเวลานานหรือเกิดขึ้นซ้ำๆ ควรรีบไปพบแพทย์หู คอ จมูกโดยเร็ว
อ้างอิง : www.sohu.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หัวหน้าหน่วยรบพิเศษเกาหลี ลั่น พร้อมรับผิดชอบเต็มที่ หลังนำทหารบุกรัฐสภา
- ปลูกถ่ายปอดแม่หลังคลอด จบลงด้วยความตาย อึ้งหมอพูด เธอไม่น่าเห็นใจสักนิด
- งานวิจัยฮาวาร์ด เผย ช็อคโกแลตลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ถึง 21%