เมียทนายตั้ม ร่ำไห้กลางศาล คิดถึงลูก เพิ่มหลักทรัพย์ยื่นประกันสองเท่า

Nateetorn S.เผยแพร่: 29 พ.ย. 2567 14:13 น.| อัปเดต: 29 พ.ย. 2567 15:09 น.

107

เมียทนายตั้ม ร่ำไห้กลางศาล ขณะพิจารณาคำขอปล่อยตัวชั่วคราว บอกคิดถึงลูก ด้านทนายเพิ่มหลักทรัพย์ยื่นประกันสองเท่า

จากกรณีที่ นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของ เดือน หรือ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงและฟอกเงิน เดินทางมาศาลอาญา เพื่อทำการไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวนางปทิตตา ที่นายอาคมได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมหลักทรัพย์ 500,000 บาท เมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยศาลนัดไต่สวนคำร้องวันนี้นั้น

Advertisements

โดยในระหว่างการสอบสวนพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ระบุว่า พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 ตามคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 ระบุเหตุผล 8 ข้อ คดีนี้มี น.ส.จตุพรหรือเจ๊อ้อย อุบลเลิศ ผู้เสียหาย เป็นผู้คัดค้านด้วย จากการสืบสวนพบว่าเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 67 นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ไปพบพยานเป็นอดีตคนขับรถของผู้ต้องหาที่ 1 เพื่อขอให้ลบการพูดคุยกันผ่านไลน์ ที่พยานได้ติดต่อกับตัวผู้ต้องหาที่ 1 ในขณะที่ผู้ต้องหาที่ 2 ได้สั่งห้ามไม่ให้พยานไปติดต่อกับผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนเห็นว่าเป็นการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

แต่หลังจากถูกจับกุมยังไม่พบพฤติการณ์การยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานขึ้นอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังต้องทำการสอบสวนพยานแวดล้อมเพิ่มเติม ในส่วนของตัวผู้เสียหายได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วขณะนี้ผู้เสียหายเดินทางกลับไปที่ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้จะครบฝากขังครั้งที่ 3 ไม่แน่ว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จหรือไม่ ถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จากการสืบสวนเบื้องต้นยังพบว่า ผู้ต้องหาที่ 1 นำเงินจำนวน 18 ล้าน มาตกแต่งบ้านพักของผู้ต้องหาที่ 2

พยานผู้คัดค้าน ตอบคำถามทนายผู้ต้องหาที่ 2 ถามค้านว่า พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องเงินที่ผู้ต้องหาที่ 1 นำไปชำระค่าซื้อบ้านและที่ดินของผู้ต้องหาที่ 2 ว่า ผู้ต้องหาที่ 2 มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ส่วนเรื่องเงินตกแต่งบ้าน 18 ล้านบาท ที่ผู้ต้องหาที่ 1 นำมาตกแต่งบ้านยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเช่นกันว่า ผู้ต้องหาที่ 2 มีส่วนรู้เห็นหรือไม่

ต่อมานางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 เบิกความว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่บ้าน บนถนนบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากับผู้ต้องหาที่ 1 มากว่า 10 ปี โดยมีบ้านพักอาศัยอยู่ที่ จ.สมุทรสาครอีก 2 หลัง เคยเปิดเป็นสำนักงานกฎหมายให้กับผู้ต้องหาที่ 1 เป็นที่แรก โดยบ้านทั้งสองหลังเป็นชื่อของตน ตนมีหนังสือเดินทางเล่มเดียวและไม่มีที่อยู่ยังต่างประเทศ ป่วยเป็นโรคประจำตัว ได้แก่ โรคแพนิค และไมเกรน

โดยระหว่างเบิกความนางปทิตตาได้ร่ำไห้ เมื่อเบิกความ คิดถึงลูก ที่ไม่ได้เจอหน้าตั้งแต่ถูกจับกุม โดยผู้ต้องหาที่ 2 พร้อมเพิ่มหลักทรัพย์เป็น 1 ล้านบาท เท่ากับหลักทรัพย์ที่ น.ส.ปิณฑิรา หรือดาว พี่สาว ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ศาลกำหนด