สันติภาพเบ่งบาน อิสราเอล-เลบานอน หยุดยิง หลังสหรัฐฯ-ฝรั่งเศส เป็นกาวใจ กลับสู่โต๊ะเจรจรา หวังยุติสงครามยืดเยื้อ 13 เดือน
อิสราเอลและเลบานอนได้ตกลงรับข้อเสนอที่สหรัฐฯ สนับสนุนเพื่อยุติความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ดำเนินมา 13 เดือน และลุกลามเป็นสงครามเต็มรูปแบบเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงจากสวนกุหลาบของทำเนียบขาวว่า ข้อตกลงนี้ “ออกแบบมาเพื่อยุติการสู้รบอย่างถาวร” ในแถลงการณ์ร่วมกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ระบุว่าการหยุดยิงนี้ “จะสร้างเงื่อนไขในการฟื้นฟูความสงบที่ยั่งยืนและอนุญาตให้ประชาชนทั้งสองประเทศกลับบ้านอย่างปลอดภัยทั้งสองฝั่งของเส้นสีน้ำเงิน” ซึ่งเป็นเส้นพรมแดนที่เป็นที่ยอมรับระหว่างสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม กองทัพอิสราเอล (IDF) ได้เตือนประชาชนที่พลัดถิ่นไม่ให้กลับบ้านในเลบานอนใต้ แม้ข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้แล้ว โฆษกกองทัพอิสราเอลภาคภาษาอาหรับ อวิชัย อัดราอี ยืนยันว่า “IDF ยังคงประจำการในตำแหน่งในเลบานอนใต้” และ
“ห้ามประชาชนเดินทางกลับหมู่บ้านที่ IDF สั่งอพยพหรือเข้าใกล้กำลัง IDF ในพื้นที่”
ข้อตกลงหยุดยิงที่มีระยะเวลา 60 วันนี้ มีสาระสำคัญดังนี้:
- นักรบเฮซบอลลาห์ต้องถอยห่างจากชายแดนอิสราเอล-เลบานอน 40 กิโลเมตร
- อิสราเอลต้องถอนกำลังออกจากเลบานอนภายใน 60 วัน
- เลบานอนต้องเพิ่มการตรวจตราการเคลื่อนไหวของเฮซบอลลาห์ทางใต้แม่น้ำลิตานี
กองกำลังรักษาสันติภาพ UN กองทัพเลบานอน และคณะกรรมการนานาชาติจะควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อิหร่านหนุนหลัง
ข้อตกลงนี้อ้างอิงจากข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 ซึ่งเคยใช้ยุติสงครามครั้งล่าสุดระหว่างสองประเทศในปี 2549 อย่างไรก็ตาม อิสราเอลประกาศว่าจะกลับมาปฏิบัติการทางทหารหากมีการละเมิดข้อตกลง
ความขัดแย้งที่ผ่านมาส่งผลให้พลเรือนเลบานอนหลายร้อนคนเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ขณะที่ชาวอิสราเอลหลายล้านคนต้องหลบภัยในที่กำบังจากการยิงจรวดรายวันของฮิซบอลเลาะห์ แม้ข้อตกลงนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ของพลเรือนทั้งสองฝ่าย แต่นักวิเคราะห์ระบุว่าอาจไม่ส่งผลต่อสถานการณ์ในฉนวนกาซา เนื่องจากยังไม่มีการเจรจาหยุดยิงที่มีนัยสำคัญในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลานาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
@อิสราเอล
