แม้หลายคนคิดว่า บุหรี่ไฟฟ้า ปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ผลการวิจัยกลับค้นพบว่ามันมีความเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
นักวิจัยค้นพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อสุขภาพที่น่าตกใจ โดยเริ่มมีผลต่อร่างกายทันทีภายในไม่กี่วินาทีที่สูบ ถึงจะมีการโฆษณามาตลอดว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ยิ่งมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้เลียนแบบการสูบบุหรี่มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบหลักฐานความอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งในปี 2025 หวังสกัดปัญหาเด็กอายุแค่ 11 ขวบก็หันมาสูบกันมากขึ้น พร้อมเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่ม ส่งผลให้ราคาน้ำยาสำหรับเติมพุ่งขึ้นเป็นสองเท่า
นี่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปราบปรามครั้งใหญ่ของรัฐบาลเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ เพื่อปรับปรุงสุขภาพของประชาชน โดยจะมีการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่สำหรับคนรุ่นใหม่เป็นครั้งแรก เนื่องจากพฤติกรรมนี้กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนอายุน้อยมากขึ้น
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ สมาคมรังสีวิทยาแห่งอเมริกาเหนือ (RNSA) เพิ่งเผยผลวิจัยใหม่ล่าสุด ชี้ชัดว่าทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่ธรรมดาส่งผลร้ายต่อระบบหลอดเลือดทันทีที่สูบ และที่น่าตกใจคือแม้แต่แบบที่ไม่มีนิโคตินก็ยังอันตราย
RNSA ระบุว่า “บุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีและสารพิษน้อยกว่าควันบุหรี่ธรรมดาเยอะมาก ทำให้หลายคนเชื่อว่ามันปลอดภัยกว่า”
แต่จากผลวิจัยล่าสุดของ ดร.มาเรียน นาบบูต แพทย์ฝึกหัดด้านรังสีวิทยาจากมหาวิทยาลัยอาร์คันซอที่ลิตเติลร็อก ชี้ว่าเราต้องทบทวนผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าต่อร่างกายกันใหม่ เพราะความอันตรายยังมีอยู่จริง
“นักการตลาดพยายามโฆษณามาตลอดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา” ดร.นาบบูตกล่าว
“หลายคนเข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีสารอันตรายอย่างอนุมูลอิสระที่พบในบุหรี่ธรรมดา เพราะไม่มีการเผาไหม้”
ดร.นาบบูตและทีมวิจัยที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ทำการศึกษาเพื่อดูผลกระทบทันทีต่อระบบหลอดเลือด คือความสามารถในการส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย จากทั้งการสูบบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้า โดยทดสอบทั้งแบบมีนิโคตินและไม่มีนิโคติน
ขณะนี้มีอาสาสมัครที่มีสุขภาพดีและเป็นผู้สูบบุหรี่ทั้งสองแบบ อายุระหว่าง 21-49 ปี เข้าร่วมการศึกษาแล้ว 31 คน โดยอาสาสมัครต้องเข้าร่วมการทดลองสามครั้งแยกกัน แต่ละครั้งจะได้รับการตรวจเอ็มอาร์ไอสองรอบ คือก่อนและหลังการสูบ โดยทดสอบทั้งบุหรี่ธรรมดา บุหรี่ไฟฟ้าแบบมีนิโคติน และบุหรี่ไฟฟ้าแบบไม่มีนิโคติน
ทีมวิจัยใช้ผ้ารัดที่ต้นขาเพื่อหยุดการไหลเวียนของเลือด พอคลายผ้ารัดออก ก็จะวัดสองอย่าง คือความเร็วที่เลือดไหลในหลอดเลือดแดงที่ขา และปริมาณออกซิเจนในเลือดที่กลับเข้าหัวใจหลังจากไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่วนการไหลเวียนเลือดในสมองนั้น วัดด้วยเอ็มอาร์ไอแบบพิเศษที่เรียกว่าเฟสคอนทราสต์
หลังจากนั้นก็นำข้อมูลของกลุ่มที่สูบบุหรี่และใช้บุหรี่ไฟฟ้า มาเทียบกับผลสแกนของคนที่ไม่เคยสูบทั้งสองแบบ 10 คน อายุ 21-33 ปี
ไม่ว่าจะสูบบุหรี่แบบไหน พอสูดควันเข้าไปปุ๊บ เลือดที่ไหลในหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขาก็จะไหลช้าลงทันที ซึ่งหลอดเลือดเส้นนี้มีความสำคัญมาก เพราะมันทอดยาวไปตามต้นขาและทำหน้าที่ส่งเลือดที่มีออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายท่อนล่างทั้งหมด
ผลกระทบต่อระบบหลอดเลือดรุนแรงที่สุดในกลุ่มที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบมีนิโคติน รองลงมาคือแบบไม่มีนิโคติน และที่น่าสนใจคือ ไม่ว่าจะสูบแบบมีหรือไม่มีนิโคติน ออกซิเจนในเลือดดำก็ลดลงเหมือนกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทันทีที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ปอดจะดูดซึมออกซิเจนได้น้อยลงทันที
ดร.นาบบูตฝากข้อความสำคัญถึงประชาชนว่า อย่าเข้าใจผิดคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย พร้อมเน้นย้ำว่า “สุดท้ายแล้วเราต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์มาช่วยออกกฎควบคุมสินค้าพวกนี้เพื่อสุขภาพของประชาชน ที่ดีที่สุดคือไม่ควรสูบทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้าเลย”
อ้างอิง : www.ladbible.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พ่อแม่ใจสลายซ้ำสอง ลูกน้อย 8 เดือน ฟื้นคืนชีพกลางงานศพ รีบพาส่งรพ. สุดท้ายจบเศร้า
- คืนนรก เด็กหญิง 13 โดนเพื่อนหลอกพาไปรุมลงแขก จนถึงเช้า ยิ่งรู้สัมพันธ์ยิ่งสลด
- ผวาแดนมังกร ลุงคว้ามีดแทงคอ หนุ่มเพื่อนบ้าน จนเลือดทะลักไม่หยุด
