ช่อ พรรณิการ์ ลั่น คนอีสานถูกกดขี่ ชาวเน็ตจวกยับ คำ ผกา ร่วมวงถก ชูเพื่อไทย
ดราม่าสนั่น หลังจาก ‘ช่อ พรรณิการ์’ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ชี้แจงปมเลือกตั้ง อบจ. จังหวัดอุดรธานี แตะประเด็นคนอีสานถูกกดขี่ ชาวเน็ตแชร์ข้อความ แย้งไม่เห็นด้วยเหมือนโดนดูถูก
กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตบนโลกโซเชียล หลังจาก “พรรณิการ์ วานิช” ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” เทปออกอากาศเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 67 โดยได้พูดถึงการหาเสียง เลือกตั้ง อบจ. จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจากสนามเลือกตั้งท้องถิ่น กลับกลายเป็นสมรภูมิรบครั้งใหญ่ ระหว่างพรรคส้มและพรรคแดงอย่างไม่คาดคิด
หลังจาก อดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร ได้ลงทุนไปปราศรัยใหญ่ด้วยตนเอง ทั้งยังพูดถึงบทสนทนาระหว่างตนเองกับ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ เกี่ยวกับนโยบายแก้ไข 112 และเปรยออกมาด้วยว่าสาเหตุที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องบินกลับมาช่วยหาเสียง เพราะกลัวแพ้พรรคเพื่อไทย
ด้านช่อ พรรณิการ์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงไก้แสดงความคิดเห็นในหลายประเด็น โดยกล่าวว่าเดิมทีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเป็นเพียงสนามเล็ก ซึ่งปกติพรรคประชาชนก็เน้นการหาเสียงในระดับนโยบาย เช่น น้ำประปาดื่มได้ รถเมล์ทั่วจังหวัด แต่พอคุณทักษิณลงมาราศรัย และพูดนโยบายระดับชาติ ทั้งยังกล่าวว่าคนเสื้อแดงบางส่วนเข้าใจพรรคเพื่อไทยผิด หรือกลายเป็นคนเสื้อสีตก รวมถึงปรามาสว่าการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2566 ที่พรรคเพื่อไทยแพ้พรรคประชาชนเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่สมัยหน้าชนะแน่นอน
จากเนื้อหาที่พูดถึงภาพรวมประเทศและอุดมการณ์ของประชาชน ทำให้เกิดกระแสคนในท้องถิ่นอยากมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากขึ้น เพื่อยืนยันจุดยืนว่าเราไม่ได้เข้าใจใครผิด ซึ่งช่อได้บอกว่ามีข่าวคราวน่าชื่นใจที่คนนหุ่มสาวหลายบ้าน เลือกเดินทางกลับมายังจังหวัดอุดรธานี เพื่อลงคะแนนเสียงการเลือกตั้ง อบจ. ในครั้งนี้ด้วย และที่มากไปกว่านั้น คือบางคนได้เอ่ยประโยคสุดเจ็บแค้นกับตนเองว่า “เลือก (พรรคประชาชน) อยู่แล้ว” เนื่องจากเจ็บใจที่พรรคเพื่อไทยข้ามขั้วไปจับมือกับพรรคลุง
ส่วนประเด็นที่ทักาิณบอกว่าจังหวัดอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของ ‘คนเสื้อแดง’ พรรณิการ์ วานิช ระบุว่าพรรคประชาชนไม่ได้มองแบบนั้น แต่มองว่าจังหวัดอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของผู้รักประชาธิปไตย และเสนอความคิดเห็นว่าประชาชนในภาคอีสานเป็นพื้นที่หนึ่งในประเทศไทยที่ถูกกดขี่มากที่สุด เมื่อตัดสินใจลุดขึ้นสู้กับระบบที่ไม่เป็นธรรมต่าง ๆ เขาจะสู้ไปตลอด
“พูดในความเข้าใจโดยภาพรวมของคนอีสาน พวกเขาคือกลุ่มคนที่ถูกกดขี่มากที่สุดภาคหนึ่งในประเทศไทย คนที่ถูกกดขี่จนถึงที่สุดแล้วสู้ พอสู้แล้วจะสู้ตลอดไป เมื่อถูกปลุกให้ตื่นแล้ว ไม่เกี่ยวว่าคุณเลือกพรรคการเมืองไหน แต่อยู่ที่อุดมการณ์ของคนอีสานจำนวนมาก สู้เพื่อความยุติธรรม สู้กับชนชั้นนำที่กดขี่ ซึ่งในวันนี้พรรคประชาชนบอกว่าเป็นตัวแทนที่ต่อสู้เพื่อประชาชนที่ถูกกดขี่ และประชาชนจำนวนมากคลิ๊กกับเรื่องนี้”
ต่อมารายการได้จัดทำภาพช่อ พรรณิการ์กับประโยคที่ระบุว่าคนอีสานส่วนมากถูกกดขี่ และเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก คนดังนั่งเคลียร์ หลังจากนั้นภาพดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ต่อในโลกโซเชียล โดยเฉพาะใน X (ทวิตเตอร์) ซึ่งมีผุ้เปิดประเด็นว่าการพูดแบบนี้เหมือนกดขี่ดูแคลนคนอีสาน เป็นสาเหตุให้โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัล และมียอดผู้เข้าชมมากกว่า 2 แสนครั้ง พร้อมความคิดเห็นจำนวนมาก
ด้านความคิดเห็นที่เกิดขึ้นนั้นมีทั้งฝั่งที่ออกมายืนยันว่าไม่เคยรู้สึกว่าถูกกดขี่มาก่อน และไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ช่อพูด ในขณะที่อีกฝั่งมองว่าการแสดงความคิดเห็นของพรรณิการ์ไม่ใช่การพูดเพื่อดูถูก แต่ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงเชิงการเมืองและประวัติศาสตร์ โดยชูประเด็นเรื่องอุดมกาณณ์ของคนอีสานเป็นหลักในเนื้อความ
ทว่าไม่ใช่แค่ชาวเน็ตทั่วไป หรือเอฟซีพรรคส้ม-แดงเท่านั้นที่ลงมาถกกัน แต่นางแบกตัวแม่อย่าง ‘คำ ผกา’ ได้โควททวิตดังกล่าวและระบุข้อความว่า “ในขณะที่เพื่อไทยมีสโลแกน ‘กันดารคือสินทรัพย์’ จุดประกายให้ความภูมิใจในความเป็นอิสานให้คุโชน ดึงหมอลำสู่ pop culture และอื่น ๆ ๆ ๆ” เป็นสาเหตุให้ด้อมส้มและโหวตเตอร์เพื่อไทย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างดุเดือดมากกว่าเดิม
ล่าสุด ช่อ พรรณิการ์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านแอคเคาน์ใน X @Pannika_FWP โดยได้รีโพสต์หนึ่งที่ระบุเนื้อหาว่า “ข้อมูลเชิงประจักษ์ว่า สิ่งที่คุณพรรณิการ์ พูดนั้น เป็นความจริง 1. อีสานถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เท่า สปป.ลาว และบังคลาเทศ 2. คนอีสานต้องไปขายแรงงานในต่างประเทศ 3. เด็กและคนแก่ ยาเสพติด อาชญากรรม 4. งบลงทุน งบลงแรง งบโรงเรียน งบสาธารณสุข กระจุกอยู่แค่เมืองใหญ่ เป็นแบบนี้มา 50-60 ปีแล้ว คนเหนือ กลาง ตะวันออก ใต้ ก็ไม่ต่างกัน โดนจักรวรรดิบางกอกสูบหมด” พร้อมแสดงคำขอบคุณที่มีผู้รู้ ช่วยนำข้อมูลเศรษฐกิจเชิงประจักษ์ออกมาเผยแพร่ให้ประชาชนเห็น
อย่างไรก็ตาม ช่อ พรรณิการ์ยังไม่มีการออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ ถึงเจตนาที่พูดประโยคดังกล่าว ขณะที่ความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ขณะนี้มีทั้งฝั่งที่เห็นด้วยกับสิ่งที่ช่อพูด โดยมองว่าเป็นเรื่องจริงทางสังคม ทั้งยังเข้าใจว่าไม่มีเจตนาเหยียดหยามคนอีสาน แต่เชิดชูว่าเป็นนักสู้ที่มีอุดมการณ์ ส่วนคนท้องถิ่นที่ส่งเสียงว่าไม่พอใจในคำพูดดังกล่าว หลายคนถูกตั้งคำถามว่าสาเหตุที่ตีเจตนาของช่อเป็นการดูถูก เพราะเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วหรือไม่? ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าทางช่อ รวมถึงพรรคประชาชนจะออกมาให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมในประเด็นที่เกิดขึ้นอย่างไร.
อ้างอิง : Youtube @ช่อง8 : Thai Ch8
ภาพจาก : IG @pannika_chor
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง