ย้อนตำนาน “สหฟาร์ม” ของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ธุรกิจไก่ครบวงจร ที่เริ่มต้นจากเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท สู่การเป็นผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ของโลก ก่อตั้งโดย ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ที่เพิ่งเสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 93 ปี
สหฟาร์ม ชื่อที่คุ้นเคยในวงการธุรกิจไก่ของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นจากจุดเริ่มเล็ก ๆ ด้วยเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท ในปี พ.ศ. 2512 โดย ดร.ปัญญา โชติเทวัญ สู่อาณาจักรธุรกิจ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHAFARM CO., LTD.) ที่ประสบความสำเร็จในกิจการผลิตวัตถุดิบอาหารระดับโลกแบบครบวงจร ทั้งไข่ไก่ ปีกไก่, อกไก่, น่องติดสะโพก, เศษเนื้อไก่ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มาจากไก่
เริ่มต้นจดทะเบียนจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2520 ด้วยทุนจดทะเบียนมากถึง 1,789,000,000 บาท และอยู่ยาวนานค้างฟ้าธุรกิจไทยมากว่า 47 ปี 1 เดือน 11 วัน
จากการตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์ Creden Data พบรายชื่อของกรรมการและผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ทั้งหมด 4 ท่าน ประกอบด้วย 1) นายปัญญา โชติเทวัญ 2) นายวุฒิ โชติเทวัญ 3) นายคุณภัส โชติเทวัญ และ 4) นางสาวบุญญาลักษณ์ โชติเทวัญ
ทั้งนี้ นายปัญญา โชติเทวัญ นายวุฒิ โชติเทวัญ นายคุณภัส โชติเทวัญ นางสาวบุญญาลักษณ์ โชติเทวัญ สองในสี่คนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท โดยมีผลประกอบการรายได้รวม กำไร-ขาดทุน และสินทรัยพ์ย้อนหลัง 10 ปี ดังนี้
รายได้รวมย้อนหลัง 10 ปี บริษัท สหฟาร์ม จำกัด
รายได้รวมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน มีทั้งปีที่รายได้เพิ่มขึ้น และลดลง โดยในปี 2557 สหฟาร์ม มีรายได้รวมสูงสุด (86,58,476,566 บาท) ซึ่งอาจเป็นช่วงที่บริษัทมีการเติบโตสูง หรือมีปัจจัยพิเศษอื่น ๆ
ต่อมาในปี 2564 มีรายได้รวมต่ำสุด (18,113,738,013 บาท) ซึ่งอาจเป็นผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ การแข่งขันที่รุนแรง หรือปัญหาภายในบริษัท สรุปรายได้รวมในช่วง 5 ปีหลัง (2562-2566) ค่อนข้างทรงตัว อยู่ในช่วง 18,000 – 28,000 ล้านบาท
– ปี 2566 : 28,898,283,253 บาท
– ปี 2565 : 27,135,658,217 บาท
– ปี 2564 : 18,113,738,013 บาท
– ปี 2563 : 18,945,597,652 บาท
– ปี 2562 : 20,001,815,959 บาท
– ปี 2561 : 17,897,275,261 บาท
– ปี 2560 : 14,295,204,681 บาท
– ปี 2559 : 16,154,715,787 บาท
– ปี 2558 : 15,166,288,322 บาท
– ปี 2557 : 86,58,476,566 บาท
กำไร (ขาดทุน) ปี 2557-2566
ภาพรวม กำไร-ขาดทุนของ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ปี 2565 มีกำไรสูงสุด (2,197,836,795 บาท) ส่วนปี 2557 มีขาดทุนมากที่สุด (-1,155,153,503 บาท) สรุปว่ามีกำไร 8 ปี และขาดทุน 2 ปี
- ปี 2566 : 568,886,045 บาท
- ปี 2565 : 2197,836,795 บาท
- ปี 2564 : 147,965,996 บาท
- ปี 2563 : 549,010,333 บาท
- ปี 2562 : 617,935,753 บาท
- ปี 2561 : 203,119,502 บาท
- ปี 2560 : 260,826,212 บาท
- ปี 2559 : 363,621,696 บาท
- ปี 2558 : 272,571,750 บาท
- ปี 2557 : ขาดทุน 1,155,153,503 บาท
แนวโน้มกำไร (ขาดทุน)
- ปี 2557-2561: มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้น
- ปี 2561-2564: มีแนวโน้มกำไรลดลง
- ปี 2564-2566: มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้น
สินทรัพย์รวมทั้งหมด
สำหรับ สินทรัพย์รวมในช่วง 10 ปีที่ผ่าน ของ สหฟาร์มมาค่อนข้างทรงตัว มีการเพิ่มขึ้น และลดลง เล็กน้อย โดยในปี 2565 มีสินทรัพย์รวมสูงสุด (8,660,967,563 บาท) และปี 2557 มีสินทรัพย์รวมต่ำสุด (6,724,712,562 บาท)
สินทรัพย์รวมของบริษัทค่อนข้างทรงตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ จึงเป็นไปได้ว่าการที่สินทรัพย์รวมไม่เพิ่มขึ้นมาก อาจบ่งชี้ว่า บริษัทไม่ได้มีการลงทุน หรือขยายธุรกิจ มากนัก
- ปี 2566 : 8,120,696,513 บาท
- ปี 2565 : 8,660,967,563 บาท
- ปี 2564 : 7,230,975,565 บาท
- ปี 2563 : 7,550,849,826 บาท
- ปี 2562 : 8,276,626,994 บาท
- ปี 2561 : 7,436,847,466 บาท
- ปี 2560 : 7,570,452,519 บาท
- ปี 2559 : 7,304,331,099 บาท
- ปี 2558 : 7,480,298,106 บาท
- ปี 2557 : 6,724,712,562 บาท
สหฟาร์ม ตำนานธุรกิจไก่ครบวงจร สู่วิกฤตฟื้นฟูกิจการ
ด้วยทุนทรัพย์อันน้อยนิด และครอบครัวที่ยากจน ดร.ปัญญา ได้ใช้ภูมิปัญญา ประยุกต์เครื่องมือเครื่องจักร ผสมผสานกับประสบการณ์ด้านสาธารณสุข สร้างสหฟาร์มให้กลายเป็นธุรกิจไก่ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมตั้งแต่ฟาร์มไก่ปู่ย่าพันธุ์ ฟาร์มไก่พ่อแม่พันธุ์ ฟาร์มไก่เนื้อ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ โรงงานผลิตยาสัตว์ ไปจนถึงโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่ทันสมัย
สหฟาร์ม เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตไก่ปลอดสารพิษรายแรกของประเทศไทย ด้วยระบบ BIO-SECURITY ที่เข้มงวด จนได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ สามารถนำรายได้เข้าประเทศนับหมื่นล้านบาทต่อปี
ทว่า เส้นทางธุรกิจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป ในช่วงกลางปี 2555 สหฟาร์มประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง จนต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในปี 2557 ด้วยมูลหนี้กว่า 20,000 ล้านบาท
ด้วยความมุ่งมั่น และการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ภายใต้การนำทัพของ คุณจารุวรรณ โชติเทวัญ หรือ “น้ำผึ้ง” ทายาทรุ่นที่ 2 สหฟาร์ม ก็สามารถพลิกฟื้นธุรกิจ กลับมาผงาดในวงการอีกครั้ง
กระทั่งในปี 2565 สหฟาร์ม เติบโตอย่างก้าวกระโดด มียอดส่งออกไก่สดแช่แข็งไปยังนานาประเทศกว่า 170,000 ตัน และกลับมาครองตำแหน่ง ผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็งอันดับ 1 ของประเทศไทย ได้อย่างสง่างาม
จากนั้นในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานจากสื่อมวลชนว่า ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งสหฟาร์ม สิ้นลมอย่างสงบ สิริอายุ 93 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว และผู้ที่เคารพรัก
กำหนดการพิธี
พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและสวดพระอภิธรรม ดร. ปัญญา โชติเทวัญ จะจัดขึ้น ณ บ้านสุขาวดี พัทยา โดยมีกำหนดการดังนี้
-
วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567
- เวลา 15.00 น. พิธีรดน้ำศพ
- เวลา 16.30 น. ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ
- เวลา 18.00 น. สวดพระอภิธรรม
-
วันที่ 18 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคม 2567
- เวลา 18.00 น. สวดพระอภิธรรม
-
หลังจากนั้น จะมีการสวดพระอภิธรรมทุกวันจันทร์ เวลา 18.00 น.
- เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2567 ถึง วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม 2568
ดร. ปัญญา โชติเทวัญ เป็นผู้ก่อตั้ง สหฟาร์ม ธุรกิจไก่ครบวงจร ที่เริ่มต้นจากเงินลงทุนเพียง 5,000 บาท ในปี พ.ศ. 2512 ด้วยวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่น เขาได้พัฒนา สหฟาร์ม ให้กลายเป็นธุรกิจชั้นนำของประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ในฐานะผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ของโลก
การจากไปของ ดร. ปัญญา นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการธุรกิจไทย แต่คุณงามความดี และผลงานของเขา จะยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยตลอดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อาลัย ปัญญา โชติเทวัญ เจ้าของอาณาจักรสหฟาร์ม เสียชีวิต สิริ 93 ปี
- อาลัย อุ้ม อิษยา เสียคุณแม่ต่าย ที่รักยิ่ง แฟนๆ ร่วมส่งกำลังใจ
- แฟนคลับเศร้า คุณแม่หน้านิ่ง ดาวติ๊กต็อก เสียชีวิตแล้ว หลังป่วยโรคมะเร็ง
อ้างอิง : Creden Data