มติที่ประชุมเคาะ ไทยลีก เพิ่มโควตาแข้งต่างชาติ 5+2 เริ่มใช้งานฤดูกาลหน้า

Basเผยแพร่: 19 พ.ย. 2567 16:02 น.| อัปเดต: 19 พ.ย. 2567 16:02 น.

มาดามแป้ง นายกสมาคมฟุตบอลฯ ร่วมประชุม ก่อนลงมติเห็นชอบร่วมกัน ไทยลีก ให้ใช้โควตานักกีฬาต่างชาติ 5+2 เริ่มฤดูกาล 2025/26

“มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมสโมสร ไทยลีก 1 วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชั้น 2 โดยมี นายธนวัชร์ นิติกาญจนา ในฐานะประธานจัดการแข่งขันไทยลีก 1 พร้อมด้วยตัวแทนจาก 16 สโมสรเข้าร่วม โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาเพิ่มโควตานักกีฬาต่างชาติ สำหรับฤดูกาล 2025/26 ที่ได้รับการเห็นชอบร่วมกันจาก 16 สโมสร ผู้มีส่วนได้เสีย อย่างเอกฉันท์เป็นที่เรียบร้อย

Advertisements

นางนวลพรรณ นายกสมาคมฯ และประธานบริษัทไทยลีก เปิดเผยว่า “เพื่อเป็นการพัฒนาไทยลีก ให้ทันต่อสถานการณ์ของโลกฟุตบอล มีความสนุกสนานและน่าตื่นเต้นมากขึ้น เป็นลีกที่มีคุณภาพทัดเทียมลีกชั้นนำในเอเซีย (ที่มีการใช้โควตานักกีฬาต่างชาติมากกว่าไทยลีกทั้งสิ้น) จึงมองว่าการเพิ่มโควตาเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ ทั้งการเล่นในบ้านเราเพื่อพัฒนาคุณภาพของนักเตะทีมชาติไทย รวมถึงการเพิ่มศักยภาพของทีมและนักกีฬา ในการออกไปแข่งขันในรายการระดับทวีป และนานาชาติ ปัจจุบันไทยลีกเป็นลีกอันดับ 1 อาเซียน และติด 10 อันดับเอเชีย ในแง่ค่าสัมประสิทธิ์ ยังอยู่ในอันดับ 4 ลีกเอเชียโซนตะวันออก ตามหลังลีกอันดับ 3 ไชนีส ซูเปอร์ลีก (จีน) เพียง 4 คะแนน กรณีแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ได้ จากผลงานของสโมสรจากไทยใน ACL จะทำให้ ไทยลีก ได้โควตาฟุตบอลถ้วยเอเชีย เพิ่มเป็น 4 ทีม ในอนาคต”

“การเพิ่มนักเตะต่างชาติในไทยลีกจะทำให้ การแข่งขันเพื่อพัฒนาฝีเท้าภายในทีมสูงขึ้น นักเตะไทยที่จะต้องพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อให้สามารถแข่งขันในเกมที่เข้มข้นมากขึ้น โดยที่ประชุมเห็นควรให้ยึดแนวทาง เจลีก ของญี่ปุ่น คือ สามารถส่งต่างชาติลงได้ 5 คน ซึ่งรูปแบบนี้ยังเปิดโอกาสให้นักเตะไทยยังมีที่ยืนและพัฒนาตนเองให้ทัดเทียมกับผู้เล่นต่างชาติที่เหนือกว่าได้”

“ที่ประชุมที่มีสโมสรสมาชิกทั้ง 16 สโมสรจึงมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้กำหนดโควตานักกีฬาต่างชาติใหม่ เพิ่มขึ้นเป็นลงทะเบียนได้ 7 คน แต่ลงสนามทำการแข่งขันได้ 5 คน ซึ่งพิจารณาแล้วว่าเหมาะสม เพราะหากให้ลงทะเบียนมากกว่านี้อาจมีความเหลื่อมล้ำระหว่างทีมเล็กและทีมใหญ่”

“ส่วนโควตาอาเซียน ที่ประชุมมองว่ายังมีความสำคัญอยู่เพราะไทยลีกน่าจะเป็นลีกที่ดีที่สุดในอาเซียน ที่สามารถดึงดูดนักเตะอาเซียนฝีเท้าดีให้เข้ามาร่วมได้ ซึ่งจะทำให้ไทยลีก มีความน่าสนใจและเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในสายตาเพื่อนบ้าน จึงมีมติให้ลงทะเบียนได้แบบไม่จำกัด แต่ให้ลงสนามได้ ไม่เกิน 2 คน โดยจะหาโอกาสหารือร่วมกับลีกในอาเซียน เพื่อเปิดกว้างให้กับโควตานักเตะไทยในลีกนั้นๆ ด้วยเช่นกัน”

ทั้งนี้ทั้งนั้นสมาคมฯมิได้ละเลยการพัฒนานักกีฬาทีมชาติ จึงจะได้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาทีมชาติไทย โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิในวงการฟุตบอลมาช่วยกัน รวมถึง ยังจะมีการพูดคุยกับสมาคมกีฬาฟุตบอลต่าง ๆ ในอาเซียน ถึงการเปิดโควตาพิเศษให้นักเตะไทย หรือ ในอาเซียนด้วยกันเอง เหมือนที่ เจลีก ญี่ปุ่น ที่มีโควตาพันธมิตรให้นักเตะในอาเซียน สามารถลงเล่นเป็นโควตานักเตะท้องถิ่น