ชาวเน็ตจีนโวยแหลก พยานยืนดูชายล่วงละเมิดหญิงเมากลางถนน แม้สุดท้ายเจอโทษหนัก
ทำเอาโลกออนไลน์จีนร้อนเป็นไฟ เมื่อมีชายรายหนึ่ง ล่วงละเมิดหญิงเมากลางถนน แต่กลับมีพยานที่ยืนดูเฉยๆ ไม่เข้าไปช่วยเหลือเหยื่อ
เมื่อเร็วๆ นี้ มีคลิปวิดีโอหนึ่งกำลังเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ในจีน โดยในคลิปเผยให้เห็นเหตุการณ์ “เจี๋ยนซือ” ที่เกิดขึ้นในย่านสถานบันเทิง “หนานจิง 1912” เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ซึ่งมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์กันอย่างโจ่งแจ้ง โดยฝ่ายหญิงอยู่ในสภาพเมาไม่ได้สติ หลังจากเสร็จกิจ ฝ่ายชายได้ทิ้งฝ่ายหญิงไว้ แล้วเดินจากไป
ในคลิปยังเผยให้เห็นว่า มีคนเดินผ่านไปมา บางคนก็เฉยเมย มองผ่านไป บางคนก็ยืนดู แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือ
คลิปวิดีโอนี้ ทำให้ชาวเน็ตออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด โดยบางคนบอกว่า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยในย่านนี้ บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ฝ่ายหญิงเมาจนไม่ได้สติ สงสัยว่าฝ่ายชายอาจ “เจี๋ยนซือ” และล่วงละเมิดทางเพศ จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ส่วนพฤติกรรมของฝ่ายชายที่ทิ้งฝ่ายหญิงไว้ ก็ถูกประณามอย่างหนักเช่นกัน
คลิปดังกล่าวมีความยาว 25 วินาที โดยสื่อต่างๆ รายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ในย่าน “หนานจิง 1912” เมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู โดยยังไม่ทราบความสัมพันธ์ของชายหญิงในคลิป
ในคลิปจะเห็นว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์กันบนถนน ฝ่ายชายอยู่ด้านบน ส่วนฝ่ายหญิงนอนนิ่ง มีเสียงครางออกมาบ้าง แต่ก็ไม่ขยับเขยื้อน ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเธอมีสติหรือไม่
มีรายงานว่า ขณะเกิดเหตุ ยังมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินผ่านไปมา บางคนก็เพิกเฉย ทำเป็นไม่สนใจ บางคนก็ยืนดู ในระยะใกล้เพียง 1-2 เมตร ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า หลังจากเสร็จกิจ ฝ่ายชายก็ใส่กางเกง แล้ววิ่งหนีไป ปล่อยให้ฝ่ายหญิงนอนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอยู่ที่เดิม
คลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ของจีน แต่ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ จากทางการ ชาวเน็ตที่ได้ดูคลิปต่างก็แสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย เช่น “เกินไปแล้ว” , “รับไม่ได้” , “ศีลธรรมเสื่อม” , “คนแถวนั้นใจดำมาก” , “ผู้ชายคนนั้นเลวมาก วิ่งหนีไปเฉยๆ” บางคนบอกว่า ย่านนี้เป็นแหล่งรวมบาร์ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็มีบางส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า ฝ่ายหญิงดูเหมือนจะเมาหนัก สงสัยว่าฝ่ายชายอาจ “เจี๋ยนซือ” และล่วงละเมิดทางเพศ จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
อ้างอิง : www.hk01.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง