สรยุทธ ขุดคลิปกฤษอนงค์ สวมบทนักร้องตั้งแต่ไก่โห่ ใส่ อุ๋ย บุดดาเบลส กับเพื่อนศิลปินตัวจริง ต้องกลับไปตั้งชื่อเพลงใหม่ หลังก๊วนขายตรงไม่ถูกใจสิ่งนี้ เมื่อ 8 ปีก่อน
เที่ยวก่อนยืมมือ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย มาช่วยจี้ปมตบทรัพย์จนล่าสุด เจ๊พัช กฤษอนงค์ ถูกตำรวจสอบสวนกลางออกหมายจับพร้อมกับเชิญตัวเข้าไปสอบปากคำเกี่ยวกับแผนงานที่เคยคุยกับบอสพอลและบอสปัน 2 ผู้ต้องหาในคดีบริษัทดิไอคอนถูกเรียกรับเงินแบบไม่ชอบมาพากล
ล่าสุด สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวคนดังก็ออกมาเปิดประเด็นต่อเนื่องเกี่ยวกับประธานผู้ก่อตั้งมูลนิธิต่อต้านโกง-แชร์ลูกโซ่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิ
แต่ครั้งนี้เปลี่ยนอามรณ์โดยพาย้อนไปดูข่าวเก่าที่ กฤษอนงค์ เธอเองเคยออกมาเคลื่อนไหว ตอนอุ๋ย บุดดาเบลส ออกมาโปรโมตเพลงใหม่Feat. กับ ซัว โปรโตซัว ตอนปี 2559 ใช้ชื่อเพลงที่ปล่อยออกมาตอนแรกว่า “เพื่อนหาย เพราะขายตรง” แต่ต่อมายอมเปลี่ยนชื่อมาเป็นซิงเกิล “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” เนื้อหาของเพลงมีการพาดพิงธุรกิจขายตรง ทำนองปลุกเร้าให้เชื่อว่าทำแล้วจะสำเร็จ ทำแล้วรวย แต่สุดท้ายโทรหาใครก็ไม่มีใครรับ ไปเจอเพื่อนเพื่อนก็ไม่ทักไม่ทาย
ขณะที่ พัช กฤษอนงค์ ตอนนั้นเจ้าตัวไม่รอช้า เพราะหลังจากศิลปินปล่อยเพลงใหม่ไม่ทันไร เธอก็ออกมาพร้อมกับชาวแก๊งบางส่วนที่ไปล่า 1 หมื่นรายชื่อมาอยู่ในมือ เมื่อ 3 ต.ค.ของแปดปีก่อน กับการเรียกร้องให้ “อุ๋ย“ หยุดใช้เพลงนี้ด้อยค่าหรือทำลายอาชีพขายตรง นอกจากนี้ตัวตั้งตัวตีต่อต้านธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังขอให้มีการเปลี่ยนชื่อเพลง โดยให้เหตุผลสุดคมตอนนั้นว่าเป็นเพราะทุกอาชีพมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
เหตุการณ์วินาศเกือบสันตะโรเบา ๆ หากใครจำไม่ได้ก็จะเล่าบทสรุปให้แบบคร่าว ๆ ว่า ต่อจากนั้นกฤษอนงค์ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์วิชาการพลังเครือข่ายและนักธุรกิจขายตรง บอกว่าเตรียมเอาหมื่นรายชื่อของเธอและพวกพ้องไปเสนอต่อกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมชี้ชัดว่าการขายตรงที่ถูกต้อง คือการพัฒนาตัวเองก่อน ไม่ใช่การเน้นว่า รวย รวย รวย เหมือนในเพลง
ร้อนถึง อุ๋ย บุดดาเบลส ต้องยืนยันไม่เคยรังเกียจอาชีพคนขายของและยังโพสต์ข้อความถึงนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช โดยระบุว่า “ขอบคุณ คุณสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ มากครับ ที่เป็นกำลังใจให้ ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อผมจะรับไปพิจารณาครับ แต่ที่คุณผู้หญิงด่าผมว่าเลว บอกเลยว่าผมให้อภัยครับ เพราะผมได้รับการปลูกฝังทัศนคติแห่งความสำเร็จมาแล้ว ถ้าท้อจะเป็นแค่ถ่าน ถ้าผ่านได้ผมจะเป็นเพชร ผมต้องขึ้นไปยืนบนเวทีพร้อมเสียงปรบมือลั่นหอประชุมให้ได้”
ทั้งนี้ หลังร่ายเรียงที่มาที่ไปของเรื่องเก่าเมื่อ 8 ปีก่อน จนทำท่าจะสิ้นเรื่องสิ้นราว ด้านเฮียสอแห่งกรรมกรข่าวก็ทิ้งท้ายหลุดถึงความโลกกลมและยังยกให้ อุ๋ย บุดดาเบลส เป็นศิลปินชายที่มาก่อนกาลตบทรัพย์อย่างแท้จริงในเคสนี้.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กฤษอนงค์ แถลงสุดท้าย ก่อนปิดเพจ 18 พ.ย. ขอปกป้องลูก ยินดีรับผิดทุกอย่าง
- เผยมื้อแรก เจ๊พัช กฤษอนงค์ หลังสอบเข้ม 6 ชั่วโมง คดีตบทรัพย์ดิไอคอน
- ฟิล์ม รัฐภูมิ ยื่นลาออกสมาชิกพรรค พปชร. เซ่นปมไถเงิน 20 ล้านบอสดิไอคอน