วิเคราะห์คำตอบ โอปอล สุชาตา ผู้นำควรมี Empathy มองจากมุมจิตวิทยา ตอบดี?
จิตแพทย์ดัง วิเคราะห์คำตอบ ‘โอปอล สุชาตา’ รอบตอบคำถาม 5 คนสุดท้าย มิสยูนิเวิร์ส 2024 เผย คุณสมบัติของผู้นำคือ “Empathy” มุมจากมุมจิตวิทยา ถือเป็นคำตอบที่ดีไหม?
แม้จะไปไม่ถึงความปรารถนาสูงสุด แต่มงกุฎอยู่ในใจเธอ หนึ่งในคำพูดสุดซึ้งของสาวงามตัวแทนประเทศไทย โอปอล สุชาตา ช่วงศรี หลังคว้าตำแหน่ง รองอันดับ 3 จากการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2024 ที่ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (ตามเวลาประเทศไทย) และถึงจะไม่ได้ตำแหน่งผู้ชนะ แต่ตลอดการแข่งขันเจ้าตัวก็ได้สร้างความสามารถเต็มที่ ทั้งยังตอบคำถามได้ดีเยี่ยมจนได้ใจแฟนนางงามทั่วโลก ในคำตอบที่ว่า คุณสมบัติของผู้นำคือการมี “Empathy” หรือ “ความเห็นอกเห็นใจ”
หลังจบการแข่งขันรอบตอบคำถาม เพจเฟซบุ๊ก คลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา ของ นายแพทย์เจษฎา ทองเถาว์ แพทย์เฉพาะทางสาขาจิตเวชศาสตร์ จิตแพทย์ประจำ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ถึงคำตอบของ ‘โอปอล สุชาตา’ ผ่านมุมมองของจิตวิทยา โดยได้เปิดความหมายของคำว่า Empathy และข้อดีของการมี Empathy พร้อมชื่นชอบว่าเป็นคำตอบที่ดี และเป็นคนที่มีความเข้าใจในด้านจิตวิทยา โพสต์ดังกล่าวระบุไว้ดังนี้
“จิตวิทยา ของคำว่า Empathy จากการตอบคำถามรอบ 5 คนสุดท้ายที่ว่า “คุณสมบัติอะไร ที่จะทำให้เป็นผู้นำประสบความสำเร็จ?” โดย โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ตอบได้ดีมาก ๆ ว่า “ผู้นำมีความสำเร็จต้องมีความเห็นใจผู้อื่น ไม่ว่าคุณจะเก่งขนาดไหน ท้ายที่สุดแล้วคุณต้องมีความเห็นใจผู้อื่น เพื่อเข้าใจคนอื่น แคร์ความเป็นอยู่ของผู้คน เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผู้นำ แต่ต้องเป็นทุกคน นั่นคือสิ่งที่จะทำให้คนเป็นหนึ่งเดียวกันได้”
มีคำศํพท์สำคัญที่หมอไม่คิดว่าจะได้ยิน นั่นคือ คำว่า * Empathy * ซึ่งคนทีทื่จะใช้คำนี้ได้นั้น ต้องมีความเข้าใจและคุ้นเคยกับงานด้านจิตวิทยาในระดับหนึ่งเลย
Empathy คืออะไร?
*Empathy* คือความสามารถในการเข้าใจและรับรู้ถึงอารมณ์ ความคิด และมุมมองของผู้อื่น แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักตามงานวิจัย :
1. Cognitive Empathy : การเข้าใจมุมมองของผู้อื่นโดยใช้เหตุผล เช่น การเข้าใจว่าทำไมคน ๆ นั้นถึงรู้สึกหรือแสดงพฤติกรรมแบบนั้น
2. Emotional Empathy : การสัมผัสหรือรู้สึกตามอารมณ์ของผู้อื่น เช่น การรู้สึกเศร้าตามเมื่อเห็นคนอื่นร้องไห้
3. Compassionate Empathy : ความเข้าใจและมีแรงผลักดันที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเห็นพวกเขาต้องการการช่วยเหลือ
Empathy ไม่ใช่แค่คุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำ แต่ยังเป็นพื้นฐานของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในทุกมิติ ตั้งแต่ครอบครัว เพื่อน ไปจนถึงองค์กร
ประโยชน์ของ Empathy
1. พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น การมี Empathy ช่วยให้เราสามารถสื่อสารและเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นได้ดีขึ้น ลดความขัดแย้งและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่าเดิม
2. ลดความเครียดในที่ทำงาน ในองค์กรที่ผู้นำมี Empathy จะช่วยลดความกดดันในที่ทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างทีมที่มีความสามัคคี
3. ส่งเสริมสุขภาพจิตของทั้งผู้ให้และผู้รับ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนแสดงให้เห็นว่า Empathy ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด (*cortisol*) และเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตของผู้ที่แสดง Empathy
4. สร้างชุมชนที่เข้มแข็ง Empathy ช่วยให้เรามองเห็นความต้องการของคนในสังคม เป็นรากฐานของการช่วยเหลือและการอยู่ร่วมกัน
วิธีพัฒนา Empathy
1. ฝึกฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening): ให้ความสนใจอย่างแท้จริงกับสิ่งที่คนอื่นพูด โดยไม่ตัดสินหรือตอบโต้ทันที
2. ตั้งคำถามเชิงบวก: การถามว่า “คุณรู้สึกยังไง?” หรือ “ฉันช่วยอะไรได้บ้าง?” ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้แสดงความรู้สึก
3. สร้างประสบการณ์ร่วม: การลองทำกิจกรรมในมุมมองของคนอื่นช่วยเพิ่มความเข้าใจและลดอคติ
4. ฝึกการมองโลกในมุมของผู้อื่น (Perspective-Taking): ลองตั้งคำถามกับตัวเอง เช่น “ถ้าฉันเป็นเขา ฉันจะรู้สึกยังไง?”
5. ฝึกการแสดงออกทางอารมณ์: เช่น การกล่าวคำปลอบใจหรือให้กำลังใจเมื่อคนรอบตัวรู้สึกแย่
คำเตือนในการใช้ Empathy
Empathy ควรถูกใช้ด้วยความสมดุล เพราะการใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่นมากเกินไปโดยไม่ดูแลตนเอง อาจนำไปสู่ภาวะเหนื่อยล้าทางอารมณ์ (*emotional burnout*)”
ทั้งนี้ หลังเผยแพร่โพสต์ดังกล่าวออกไป บรรดาแฟนนางงามทั้งหลายต่างก็ยิ่งชื่นชมในคำตอบของ โอปอล สุชาตา มากกว่าเก่า เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ว่า คำตอบของสาวโอปอลนั้นยอดเยี่ยม สมที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โอปอล เปิดใจครั้งแรก หลังพลาดมงมิสยูนิเวิร์ส ภูมิใจผลงาน ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
- โอปอล สุชาตา โพสต์สตอรี่ซึ้ง หลังลงเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2024 อ่านแล้วน้ำตาคลอ
- ฟังคำตอบ โอปอล สุชาตา หลังเจอคำถามเด็ด รอบ 5 คนสุดท้าย มิสยูฯ