คนมาเลย์เดือด อภัยโทษหญิงข้ามเพศไทย ป่วยอัมพาต โทษประหารคดียาเสพติด
สุลต่านสลังงอร์พระราชทานอภัยโทษหญิงข้ามเพศชาวไทย ป่วยอัมพาตตลอดชีวิต คดียาเสพติด ทำคนมาเลย์เสียงแตก นักเคลื่อนไหวเรียกร้องความยุติธรรม ชี้ระบบสองมาตรฐาน หลังอดีตนายกฯ นาจิบได้ลดโทษรวดเร็ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สุลต่านรัฐสลังงอร์ แห่งมาเลเซีย ได้พระราชทานอภัยโทษให้แก่ ธนากร สินสนอง หญิงข้ามเพศชาวไทยวัย 33 ปี ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตทั้งตัวจากวัณโรค หลังถูกจำคุกในคดียาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2556 การอภัยโทษในครั้งนี้ได้จุดกระแสความขัดแย้งในสังคมมาเลเซีย โดยมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าว
เปาถูกจับกุมในปี 2556 หลังเดินทางเข้ามาเลเซียพร้อมยาบ้า 1.3 กิโลกรัมในกระเป๋าเดินทาง เธอให้การว่าไม่รู้ว่าของดังกล่าวเป็นยาเสพติดและถูกเพื่อนหลอกให้พกมา ต่อมาเธอถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 มาเลเซียได้ยกเลิกโทษประหารชีวิตแบบบังคับ ทำให้โทษของเปาถูกลดลงเหลือจำคุก 30 ปี
ระหว่างการรับโทษในเรือนจำ เปาติดเชื้อวัณโรคถึงสองครั้ง ซึ่งส่งผลให้เธอเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงมา เธอต้องพึ่งพาเตียงเคลื่อนที่สำหรับการเดินทางไปขึ้นศาล และได้รับการดูแลอย่างย่ำแย่ในเรือนจำ ตามรายงานของ Malaysiakini เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เปาเคยถูกพบในสภาพนอนบนเตียงเปื้อนของเสีย มีแผลสดที่ไม่ได้รับการดูแล และถูกแมลงวันตอม
กลุ่มสิทธิมนุษยชน ฮายัท (Hayat) ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการอภัยโทษแห่งรัฐสลังงอร์ โดยระบุว่าสภาพร่างกายของเปาไร้ความสามารถที่จะเป็นภัยต่อสังคม และเธอควรได้รับการปล่อยตัวเพื่อรับการดูแลทางการแพทย์ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอภัยโทษแห่งรัฐสลังงอร์ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความเข้มงวด ได้เพิกเฉยต่อคำร้องขอหลายครั้ง ทำให้กลุ่มฮายัทต้องเริ่มรณรงค์ส่งอีเมลจำนวนมากเพื่อผลักดันประเด็นนี้
หลังจากการอภัยโทษ สังคมมาเลเซียแตกออกเป็นสองขั้ว บางส่วนเห็นว่าการตัดสินใจนี้เหมาะสม เนื่องจากเปาอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถกระทำผิดซ้ำได้ และได้รับโทษอย่างหนักหน่วงเกินควรแล้ว ในขณะที่อีกส่วนมองว่านี่คือการล้มล้างกระบวนการยุติธรรม และอาจส่งสัญญาณผิด ๆ ว่าอาชญากรรมสามารถถูกมองข้ามได้ หากผู้กระทำผิดอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร
ด้านนักกฎหมาย โกห์ เซีย ยี (Goh Cia Yee) ได้ออกมาเคลื่อนไหวบนทวิตเตอร์ (X) บัญชี gohciayee ระบุว่า หลักการความสมเหตุสมผลของบทลงโทษของมาเลเซีย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องตลกร้ายในกรณีของเปา ธนากร สินสนอง ผู้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตั้งแต่คอลงมา แล้วจะเป็นภัยต่อสังคมได้อย่างไร? เขาตั้งคำถาม พร้อมชี้ว่าการปฏิบัติของรัฐในกรณีนี้เสี่ยงที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมาย
กรณีของเปาเปรียบเสมือนการสะท้อนปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในระบบกฎหมายมาเลเซีย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคดีของ นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ถูกตัดสินจำคุกในคดีคอร์รัปชันยักยอกเงินนับพันล้าน แต่นาจิบได้รับการลดโทษลงครึ่งหนึ่งในระยะเวลาเพียง 500 วันหลังถูกจำคุก ขณะที่เปา ซึ่งอยู่ในสภาพอัมพาต กลับต้องใช้ชีวิตในเรือนจำอย่างยากลำบาก
นักเคลื่อนไหวระบุว่า กรณีของเปาได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อถูกเปรียบเทียบกับคดีของ นาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่ถูกตัดสินจำคุกในคดีคอร์รัปชันยักยอกเงินนับพันล้าน แต่นาจิบได้รับการลดโทษลงครึ่งหนึ่งในระยะเวลาเพียง 500 วันหลังถูกจำคุก ขณะที่เปายังคงถูกกักขังในสภาพที่ต้องพึ่งพาผู้อื่น กรณีนี้สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันในกระบวนการยุติธรรม และชี้ว่าการให้ความสำคัญกับชนชั้นสูงมากกว่าชนชั้นล่างเป็นปัญหาที่ฝังลึกในระบบ
การพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ทำให้สังคมมาเลเซียแตกออกเป็นสองขั้ว บางคนเห็นว่าเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม เนื่องจากเปาอยู่ในสภาพที่ไม่มีความสามารถจะกระทำผิดซ้ำ และเธอได้รับโทษอย่างหนักหน่วงเกินไปแล้ว ในขณะที่บางคนมองว่า คำตัดสินนี้อาจส่งสัญญาณผิด ๆ ว่าอาชญากรรมสามารถถูกมองข้ามได้ หากผู้กระทำผิดอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สธ เคาะ ‘ยาบ้า 1 เม็ด’ เป็นผู้เสพ ถูกสอบขยายผล จ่อเสนอ ครม.
- สาวถามชาวเน็ต จำคุกตลอดชีวิต คดียาเสพติด ติดจริงกี่ปี อยู่จนแก่ไหม
- เตือนภัย “ลูกอมสายตี้” ผสมสารเสพติดหลายชนิด อันตรายถึงชีวิต
อ้างอิง: malaysiakani, gohciayee, south china morning post