ทนายรณณรงค์ เข้าให้ปากคำ ไม่สนิททนายตั้ม รับสงสัยว่าทำไมรวยผิดปกติ
ทนายรณณรงค์ เข้าให้ปากคำคดีทนายตั้ม เผยไม่สนิททนายตั้ม ยันไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเงินจำนวนต่างๆ รับสงสัยว่าทำไมรวยผิดปกติ
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังเข้าพบตำรวจกองบังคับการปราบปราม หลังถูกเชิญสอบปากคำในฐานะพยาน ในคดีความของทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน หรือสมคบกันฟอกเงินของเจ๊ออย
นายรณณรงค์ เผยว่า สาเหตุที่ถูกเชิญตัวมาให้ข้อมูลอาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและนายษิทราที่เคยร่วมทำบุญหรือพบปะสังสรรค์กัน แต่ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนต่างๆ ที่นายษิทราถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเจ๊ออย และตั้งข้อสังเกตว่ามีเพื่อนทนายความหลายคนที่สนิทกับนายษิทรา แต่กลับไม่ถูกเรียก
ส่วนการขยายผลทางคดี ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ควบคุมตัวคนสนิทนายษิทราดำเนินคดี 2 คนคือ นายนุวัฒน์ และ น.ส.สารินี ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันฟอกเงิน ในคดีเงิน 39 ล้านบาท ซึ่งตำรวจยังเชิญตัวพี่สาวภรรยามาสอบสวนเส้นทางการเงิน หลังพบเงินส่วนหนึ่งถูกโอนผ่านบัญชีพี่สาวภรรยา
เมื่อถามว่า ผิดปกติกับการทำอาชีพทนายความหรือไม่เพราะร่ำรวยผิดปกติ นายรณณรงค์ ระบุว่า ถึงจะค่าจ้างแพงแต่เงินมันกระโดดไปหน่อย ถ้าทำสำนักงานและมีเรทราคาค่อนข้างสูงและเปิดเป็น10 ปี จะไม่แปลกใจ แต่ถ้าหากเพิ่งเปิดสำนักงานแต่รับเรทขนาดนี้เลย แต่เปิดมาไม่กี่ปีตนก็มองว่ามีความแปลก แต่อยู่ในวิสัยที่ซื้อบ้านได้ในราคานี้ ถ้าหากดูจากค่าจ้างของทนายตั้ม
เมื่อถามว่า หลังจากเข้าให้ปากคำเสร็จ จะเดินทางไปเยี่ยมทนายตั้มในเรือนจำฯหรือไม่ ทนายรณรงค์ กล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคต เดี๋ยวค่อยตัดสินใจในภายหลัง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง