กินกล้วยกับกาแฟตอนเช้าได้ไหม? เตือนเมนูควรเลี่ยง ให้น้ำตาลสูงปรี๊ด เสี่ยงโรคเพียบ
ตอบสงสัย สามารถรับประทานกล้วยคู่กาแฟยามเช้าได้ไหม? แนะการรับประทานกล้วยพร้อมกับกาแฟให้ได้ประโยชน์ และหลีกเลี่ยงอาหารทานคู่เสี่ยงเกิดโรค
อาหารเช้าถือเป็นมื้อสำคัญที่หลายคนไม่ควรพลาด โดยเฉพาะในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ การเลือกอาหารที่รับประทานง่าย สะดวก และมีประโยชน์จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยม กล้วย และ กาแฟ จึงกลายเป็นคู่หูอาหารเช้าที่หลายคนนิยมรับประทานด้วยกัน แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าการรับประทานคู่นี้ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
ประโยชน์ที่ได้รับจาก กล้วยและกาแฟ
กล้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ วิตามินบี 6 ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างพลังงาน และแมกนีเซียมที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนี้ยังมีใยอาหารที่ช่วยระบบขับถ่าย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
ส่วนกาแฟนั้น นอกจากคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นการตื่นตัวแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ การดื่มกาแฟยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า
เมื่อรับประทานคู่กัน กล้วยและกาแฟจะให้พลังงานแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยกล้วยจะให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย ขณะที่คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยกระตุ้นการตื่นตัว ทำให้พร้อมรับมือกับกิจกรรมในช่วงเช้าได้เป็นอย่างดี
ข้อควรระวังในการรับประทาน “กาแฟพร้อมกล้วย”
แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่การรับประทานกล้วยกับกาแฟก็มีข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร เนื่องจากกาแฟมีฤทธิ์เป็นกรด การดื่มตอนท้องว่างอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะได้ ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนหรือไขมันก่อนดื่มกาแฟ
สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ควรระมัดระวังในการรับประทานกล้วยสุก เนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลค่อนข้างสูง อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อวางแผนการรับประทานที่เหมาะสม
ดังนั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการรับประทานกล้วยกับกาแฟ ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. เลือกกล้วยที่สุกพอดี ไม่สุกจนเกินไป เพื่อควบคุมปริมาณน้ำตาลที่จะได้รับ
2. ควรรับประทานกล้วยก่อน แล้วจึงดื่มกาแฟตามในช่วงเวลาที่ห่างกันเล็กน้อย
3. ควรรับประทานอาหารเช้าที่มีโปรตีนร่วมด้วย เช่น ไข่ต้ม นม หรือโยเกิร์ต เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
4. สังเกตอาการของร่างกายหลังรับประทาน หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ หรือใจสั่น ควรปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานหรือปรึกษาแพทย์
การรับประทานกล้วยกับกาแฟในตอนเช้าสามารถให้พลังงานและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ต้องรับประทานอย่างเหมาะสมและคำนึงถึงสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
การเลือกรับประทานร่วมกับอาหารอื่น ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ จะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หากมีโรคประจำตัวหรือข้อกังวลใดๆ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับตนเอง
แนะนำคู่อาหารเลี่ยงรับประทานพร้อมกันกับกล้วย
แม้ว่ากล้วยจะเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และสะดวกในการรับประทาน แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่ไม่ควรรับประทานคู่กับกล้วยในมื้อเช้า เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนี้
1. ขนมหวาน
- กล้วยมีน้ำตาลธรรมชาติอยู่แล้ว แถมปกติเค้กและเบเกอรี่จะให้พลังงานประมาณ 389 กิโลแคลอรี และคาร์โบไฮเดรต 52 กรัม การรับประทานร่วมกับอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป
2. น้ำผึ้ง
- หากรับประทานน้ำผึ้งและกล้วยมากเกินไป อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากข้อมูลโภชนาการของน้ำผึ้ง (ต่อ 100 กรัม) จะให้พลังงานมากถึง 304 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต 82.4 กรัม และน้ำตาลมากถึง 82.12 กรัม
3. น้ำเชื่อม-น้ำอัดลม
- สำหรับคนที่มีปัญหาหรือเป็นผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือด การรับประทานกล้วย-น้ำอัดลม-น้ำเชื่อม ในปริมาณเกินควร อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานในระยะยาว สำหรับข้อมูลโภชนาการของน้ำเชื่อมและน้ำอัดลม (ต่อ 100 มิลลิลิตร)น้ำเชื่อมทั่วไป ให้พลังงาน: 260-280 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต: 65-70 กรัม และน้ำตาล: 65-70 กรัม ส่วน พลังงาน: 42-45 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต: 10.6 กรัม, น้ำตาล: 10.6 กรัม (1 กระป๋อง 325 มล. = 140 กิโลแคลอรี)
อ้างอิง : INDIA TODAY